'ชัย' ยันรัฐบาลมุ่งเพิ่มสิทธิรักษามะเร็งมะเร็งครบวงจร!

นายกฯ มุ่งมั่นเพิ่มสิทธิประโยชน์รักษามะเร็ง 'มะเร็งครบวงจร' เพิ่มการตรวจคัดกรองเชิงรุก และการดูแลรักษามะเร็ง ให้แก่ผู้ใช้บัตรทอง 30 บาท เพื่อความครอบคลุม ทั่วถึง เท่าเทียม

07 ก.พ.2567 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาสุขภาพ ปัญหาโรคมะเร็ง และความสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็ง เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายมะเร็งครบวงจร ภายใต้สิทธิบัตรทองอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 เพื่อป้องกันและคัดกรอง ดูแลรักษา และฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งด้วยบริการการรักษาที่มีประสิทธิภาพและการตรวจคัดกรองเชิงรุกเพิ่มเติม

โดยรัฐบาลได้บรรจุสิทธิประโยชน์ในการรักษามะเร็งเพิ่มเติม อาทิ บริการฝังแร่เฉพาะที่เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในตา บริการผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง มะเร็งตับและตับอ่อน และท่อน้ำดี ด้วยหุ่นยนต์ และบริการรักษาด้วยรังสีโปรตอน นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มการบริการ 2 รายการ เพื่อการตรวจคัดกรองมะเร็งเชิงรุก ได้แก่ 1.บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ในผู้หญิงไทยอายุ 40 ปีขึ้นไปที่ครอบครัวมีประวัติมะเร็งเต้านม ปีละ 1 ครั้ง กำหนดเป้าหมายบริการตรวจคัดกรองในปี 2567 จำนวน 40,600 ราย และ 2.บริการการตรวจปัสสาวะชุดตรวจพยาธิใบไม้ในตับสำเร็จรูปชนิดเร็ว ด้วยตนเอง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนไทยทุกสิทธิที่อายุ 15 ปีขึ้นไปที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ในตับ และโรคมะเร็งท่อน้ำดีด้วยตนเอง โดยทั้งสองรายการอยู่ระหว่างการจัดวางระบบให้มีประสิทธิภาพ

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลยังได้จัดระบบดูแลผู้ป่วยมะเร็งในระยะสุดท้าย โดยกำหนดให้หน่วยงานหรือองค์กรที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยติดเตียง บริการดูแลแบบประคับประคองและระยะท้าย เช่น วัด โบสถ์คริสต์ มัสยิด องค์กรเอกชน และสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เป็นหน่วยบริการส่งต่อเฉพาะด้านชีวาภิบาล หรือหน่วยชีวาภิบาล ในฐานะสถานบริการสาธารณสุขที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545

“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับการป้องกันคัดกรอง ดูแลรักษา และฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง มีความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนนโยบายมะเร็งครบวงจร สนับสนุนให้ผู้ใช้บัตรทอง 30 บาทได้รับการบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมตามเป้าหมายของตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างครอบคลุม ทั่วถึง เท่าเทียม จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสลดความเหลื่อมล้ำในสังคม” นายชัย กล่าว

ทั้งนี้ นายกฯ ขอบคุณการทำงานของนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบุคคลากรกระทรวงสาธารณสุข ที่สามารถบริหารและตอบสนองต่อแนวนโยบายของรัฐบาลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำให้บัตรประชาชนใบเดียว ดูแลสุขภาพประชาชน รักษาได้ทุกที่ ทุกโรค

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกอิ๊งค์ควง 2 รมต.หญิงลง 'ขอนแก่น-มหาสารคาม' ติดตามแก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง-ตัดริบบิ้นเปิดงาน

นายกฯ เร่งสปีดนโยบายรัฐบาล ลงขอนแก่น-มหาสารคาม 20 ธ.ค. แก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้ง พร้อมติดตามโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน พร้อมตัดริบบิ้นเปิดงานซอฟพาวเวอร์ของไทย

นายกฯ อิ๊งค์ลั่นกลาง ครม.พร้อมลงภาคใต้แต่ไม่รู้เมื่อไหร่!

นายกฯ แจ้งที่ประชุม ครม. พร้อมลงภาคใต้ ขอ ศปช.ส่วนหน้าสรุปแผนแก้ไขน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก

รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย

รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่