มท.1 ย้ำแผนรับมือแล้งปีนี้ กำชับจังหวัดให้ข้อมูลประชาชนเข้าใจสถานการณ์น้ำในพื้นที่ สร้างความร่วมมือประหยัด เฝ้าระวังปัญหาการแย่งชิงน้ำพื้นที่เกษตร
4 ก.พ.2567-น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้เผยผลการคาดการณ์สภาพอากาศว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อน ปี 67 ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 ของเดือน ก.พ. เป็นต้นไป ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าค่าปกติ 1.0-1.5 องศาเซลเซียส (ค่าปกติ 35.4องศา) ปริมาณฝนรวมเฉลี่ยจะน้อยกว่าค่าปกติร้อยละ 30 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มีความห่วงใยต่อกรณีที่สภาพอากาศที่มีแนวโน้มจะแห้งแล้งกว่าปีที่ผ่านมา จึงได้กำชับผ่านกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้มีการบูรณาการการทำงานกับแต่ละจังหวัดเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือ ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งสำหรับปี 67
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การดำเนินการภายใต้แผนงานของ บกปภ.ช. ประกอบไปด้วยหลายส่วน แต่ รมว.มหาดไทยได้เน้นย้ำขอให้ทุกจังหวัดให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้ให้กับประชาชน ภาคส่วนต่างๆ ให้มีความเข้าใจถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนเอง ทราบถึงมาตรการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน จนเกิดความร่วมมือในการประหยัดน้ำ เชิญชวนประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการซ่อม บำรุง รักษาภาชนะเก็บน้ำ แหล่งกักเก็บน้ำให้พร้อมใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ สั่งการให้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรและเครื่องมือของทั้งหน่วยงานพลเรือน ทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ ให้พร้อมสำรหับช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งได้ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว รมว.มหาดไทย ได้กำชับให้ฝ่ายปครองประสานกับฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ในพื้นที่สอดส่อง และทำความเข้าใจกับประชาชนในกรณีที่ในพื้นที่เกิดการขาดแคลนน้ำโดยเฉพาะกรณีของพื้นที่เกษตร เฝ้าระวังไม่ให้เกิดปัญหาการแย่งชิงน้ำ หรือมีการนำประเด็นขาดแคลนน้ำไปสู่ความขัดแย้งอื่นๆ ในสังคม ซึ่งการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตรนั้น ให้ดำเนินการตามแนวทางการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้านการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง 2566/67 ของกระทรวงเกษตร โดยเคร่งครัด
“ด้วยคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีภาวะแล้งกว่าปีที่ผ่านมา รัฐมนตรีอนุทินจึงมีความห่วงใยประชาชน และกำชับ ปภ. และทุกจังหวัดให้เตรียมการให้พร้อมและดำเนินการตามแผนงานของ บกปภ.ช. อย่างเคร่งครัด ทั้งการตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์ เพื่อประเมินแนวโน้มการเกิดภัยแล้ง ทบทวนและจัดทำแผนเผชิญเหตุให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำแต่ละพื้นที่ และบางช่วงที่อาจเกิดพายุฤดูร้อน ให้ดำเนินการแจ้งข้อมูลประชาชนทราบผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้มีการป้องกัน ลดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรได้”
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยต่างๆ ทางแอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ในกรณีได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาแล้ว!เรื่องถึงศาลฯ 'ณฐพร' ฟ้องกราวรูด 'บิ๊กขรก.มหาดไทย' เซ่นที่ดินเขากระโดง
นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า "วันนี้ยื่นฟ้องคดีที่ดินเขากระโดง ต่อ ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดตรวจฟ้องและพยานหลักฐานวันที่ 9 ธันวาคม เวลา09.30 น."
'อนุทิน' เช็กสัญญาณ ครม.อิ๊งค์ ปมศาลรธน.นัดถกรับ-ไม่รับคำร้อง คดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง
ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่ในวันพรุ่งนี้(22 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้อง
'อนุทิน' ยันไม่คิดเอาคืนใคร ปมที่ดินเขากระโดงอย่าโยงการเมือง ไม่อย่างนั้นก็หมดสภาฯ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ขรก.สังกัดมหาดไทย ประเภทบริหารระดับสูง 25 ราย
กิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
'อนุทิน' เผยค่าแรง 400 บาท เป็นของขวัญปีใหม่หรือไม่ ขึ้นกับคณะกรรมการไตรภาคี
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงค่าแรง 400 บาท ที่กระทรวงแรงงานป
กลัวครหา! อนุทิน ไม่ลงช่วยผู้สมัคร นายกอบจ.สุรินทร์ หาเสียง แค่ส่งกำลังใจ
'อนุทิน' แจง ไม่ลงไปช่วยผู้สมัครนายกอบจ.สุรินทร์ ได้แต่ส่งกำลังใจ หวั่นมีข้อครหาเยอะ กำชับ ปลัดมท.สั่งข้าราชการฝ่ายปกครอง ต้องทำตัวเป็นกลาง บอกติดตลก เลือกตั้งครั้งหน้าทุกพรรคกวาดเก้าอี้เกิน200 เสียง คงมีสส.ในสภาฯ 2000 คน