19 ม.ค. 2567 - ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ฝ่ายปกครองท้องที่ ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมแนวทางการบริหารจัดการการอนุญาตให้ทำและค้าดอกไม้เพลิง การเยียวยา และแนวทางการแก้ไขในอนาคต
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้แนวทาง และข้อห่วงใย เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำเติม ทั้งในเรื่องพลุ และสถานที่เก็บวัตถุอันตราย ซึ่งมีหลายหน่วยงานมาร่วมประชุมในวันนี้ โดยมีข้อสรุปการแก้ปัญหาที่จะบูรณาการทำงานไม่ให้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีก ทั้งนี้ เรื่องของการเยียวยา หากยังไม่ได้ใบมรณบัตรครบถ้วนจะยังไม่สามารถเยียวยาได้ครบทุกคน แต่คาดการณ์ว่าการออกใบมรณบัตรจะออกได้ครบภายในวันนี้ ส่วนการให้คำปรึกษาเรื่องผู้จัดการมรดก เพราะเงินหรือทรัพย์สินที่จะได้จากหน่วยงานต่างๆ แต่ละรายจะได้ไม่เท่ากัน หากบางคนมีบุตรยังเรียนหนังสืออยู่อายุไม่เกิน 25 ปี อาจจะได้อีก 5 หมื่นบาท หรือบางคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวอาจจะได้เพิ่มประมาณ 3 หมื่นบาท และส่วนที่มีความล่าช้าอยู่อีกส่วนคือการตรวจดีเอ็นเอ เพราะสภาพร่างบางรายไม่ชัดเจนจำเป็นต้องมีการตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งเราก็อยากให้เร็ว แต่ยังติดเรื่องการรอตรวจดีเอ็นเอ เพราะนายกฯเป็นห่วงเรื่องการชดเชยจึงได้เร่งรัดมา
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการบูรณาการกฎหมายว่าจะแก้ปัญหาในอนาคตอย่างไรนั้น เพราะระยะหลังเหตุโรงงานพลุระเบิดเกิดขึ้นทุกปี จากการตรวจสอบพบว่า หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องมี 5 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอตสาหกรรม แต่ประกาศที่ออกมาเป็นประกาศรวม ที่ประชุมจึงเห็นว่าควรมีการปรับประกาศของทั้ง 5 กระทรวงหลัก นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปดูประกาศ และจัดทำร่างกฎหมายเพื่อให้ส่วนรวมได้พิจารณาอีกครั้ง ว่าโรงงานประเภทที่มีกำลังน้อยกว่า 50 แรงม้า หรือคนงานน้อยกว่า 50 คน ซึ่งไม่เข้าข่ายในการควบคุมของกระทรวงอุตสากรรม ก็ให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมไปปรับร่างกฎหมายว่าจะควบคุมอย่างไรให้สอดคล้องความปลอดภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยให้เวลา 7-10 วัน ให้ส่งกลับมาที่ตน เพื่อที่ตนจะส่งให้นายกฯพิจารณา
เมื่อถามว่า จะมีการหารือกับกระทรวงแรงงานในการพิจารณาทำประกันชีวิตให้คนงานในโรงงานพลุหรือไม่ เนื่องจากมีความเสี่ยง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เคยคุยแล้ว แต่จะฝากผู้เกี่ยวข้องไปดูว่าจะขัดกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์หรือไม่อย่างไร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมวันนี้ด้วย แต่ก็มีการฝากเรื่องไปแล้ว
ด้าน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เราดำเนินการตามประกาศกระทรวงเกี่ยวกับ โรงงาน โรงประกอบการ สถานที่จำหน่าย และสถานที่เก็บ ว่าต้องมีลักษณะอย่างไร รวมถึงการกำกับดูแลต่างๆเป็นไปตามประกาศตั้งแต่ปี 2547 ดังนั้น รองนายกฯจึงมีดำริให้ปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยทาง 5 กระทรวง จะเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามมติที่ประชุมวันนี้ ส่วนการปรับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ.2535 ปัจจุบันจะครอบคลุมเฉพาะโรงงานเกิน 50 คน และเกิน 50 แรงม้า ซึ่งขณะนี้ในประเทศมี 8 โรงงานที่อยู่ภายใต้พ.ร.บ.นี้ ส่วนอีก 42 โรงงานไม่ได้อยู่ในกำกับของกระทรวงอุตสาหกรรม การจะเข้าไปตรวจสอบเราจึงจะร่วมกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อเข้าตรวจสอบ 42 โรงงานที่พ.ร.บ.ฉบับนี้ควบคุมไม่ถึง
ขณะที่ รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า ในส่วนของกรมการปกครองรับผิดชอบตามพ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ซึ่งพลุเป็นส่วนประกอบของดอกไม้เพลิง นอกจากนี้ยังมีอนุบัญญัติเกี่ยวกับดอกเพลิงหลายฉบับที่กำหนดการจัดเก็บพลุ รวมถึงมีหนังสือสั่งการที่กระทรวงมหาดไทยได้กำชับไปยังนายอำเภอ ให้ตรวจสอบสถานที่จำหน่าย สถานที่จัดเก็บ และโรงงานผลิตดอกไม้เพลิง ซึ่งจากข้อมูลของกรมการปกครองมีผู้ขออนุญาต จำหน่าย ผลิต นำเข้า ดอกไม้เพลิง 1,200 กว่าแห่ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าเฉพาะฤดูกาล ส่วนโรงงานผลิตมีจำนวนน้อยมาก ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีหนังสือสั่งการไปยังนายอำเภอให้ออกไปตรวจตราตามอนุบัญญัติที่ออกตามพ.ร.บ.ฉบับนี้ พร้อมกับประกาศของ 5 กระทรวงข้างต้น ส่วนที่ต้องปรับปรุงต้องดูปัจจัยหลายเรื่อง ทั้งจำนวนสารเคมี ระยะห่างจากชุมชนในสถานที่ตั้ง เป็นต้น
รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวด้วยว่า จากข้อของหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) พบว่าในส่วนของโรงงานพลุที่ระเบิดนพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ในส่วนของโรงงานมีหลายสัดส่วน ทั้งส่วนการผลิต ครัวทำอาหาร รวมถึงที่จัดเก็บสารเคมีในการทำพลุ ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน ขณะเดียวกันยังมีอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ อาทิ โทรศัพท์มือถือ พัดลม เครื่องปรับอากาศอยู่ในบริเวณเดียววัน จึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามาจากสาเหตุใด ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยพิสูจน์หลักฐานซึ่งเราต้องรอ แต่มองว่าในบริเวณดังกล่าวไม่ควรมีสิ่งเหล่านี้อยู่ นอกจากนี้ จะให้นายอำเภอไปตรวจสอบทุกแห่งที่มีการทำพลุ ทั้งที่ขึ้นทะเบียน และไม่ขึ้นทะเบียน บางที่ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเพราะคิดว่าใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการผลิตพลุ ขณะที่โรงงานขนาดเล็กกฎหมายก็เอื้อมไม่ถึงก็ต้องไปแก้กฎหมาย ส่วนพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการแก้ไข ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการขออนุญาต และการเพิ่มบทลงโทษ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สมศักดิ์' ฟุ้งปีหน้า 'รัฐบาลอิ๊งค์' ฉลุย อีก 2 ปีครึ่ง พท. กลับมายิ่งใหญ่
'สมศักดิ์' มองทิศทางการเมืองปี 68 มั่นใจรัฐบาลแพทองธาร เดินไปได้ไร้ปัญหาสะดุดล้ม พรรคร่วมไม่ถึงขั้นแตกหัก ฟุ้งอีก 2 ปีครึ่ง เพื่อไทยกลับมายิ่งใหญ่
'มท.หนู' ลั่นมหาดไทยยุคนี้ ไร้อำนาจเก่าไม่แตกแถว ผู้ว่าฯ ทำงานเกียร์ 10
'มท.หนู' ลั่นมหาดไทยยุคนี้ไม่แตกแถว ไร้ปัญหาฝ่ายการเมืองปะทะขรก.ประจำ ยันผู้ว่าฯ เข้าเกียร์ 10 ชี้ใครไม่สนองงานชาวบ้าน มีวิธีจัดการร้อยแปดพันเก้า
'อิ๊งค์' ลางาน 1 วัน ก่อนหยุดยาวปีใหม่ ใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ในวันเดียวกันนี้ นายกฯได้ส่งหนังสือลากิจ 1 วันไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เรียบร้อยแล้ว
'เทพไท'แฉ 2 เป้าหมายที่วิษณุให้สัมภาษณ์ เรื่องพ่อนายกฯ เข้าคุก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
ตามนัด! 9 ธ.ค. ‘สนธิ-ปานเทพ’ บุกยื่นหนังสือกล่าวหารัฐบาล ปมMOU44
พรุ่งนี้ 9 ธ.ค.67 9โมงครึ่ง คุณสนธิเเละ อ.ปานเทพ จะไปยื่นหนังสือกล่าวหารัฐบาล ปม MOU 44
รัฐบาลโต้ถังแตก ขึ้นภาษีแวต 15% โยนคลังสรุปให้ชัดก่อน
'ภูมิธรรม' บอกรอคลังสรุปให้ชัดเจน ปมขึ้นภาษีแวต 15% ปัดถังแตกจากโครงการแจกหมื่น ยันทำให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด