ยกเคส 'ป้าบัวผัน' แนะหน่วยงานรัฐเปิดข้อมูล เคลียร์ข้อกังขาขจัดทุจริต

‘สมศักดิ์’ ยกเคส ‘ป้าบัวผัน’ แนะหน่วยงานรัฐเปิดเผยข้อมูลลดข้อกังขา ให้สาธารณะเห็นขั้นตอนทำงาน

19 ม.ค. 2567 – เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการโดดเด่น ปี 2565 – 2566 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ข้อมูลภาครัฐโปร่งใส ราชการไทยไร้ทุจริต” โดยมี นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตลอดจนหน่วยงานที่ได้รับรางวัล และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน

โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่หน่วยงานที่มีศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการโดดเด่น ประจำปี 2565 – 2566 จำนวน 109 โล่ จาก 73 หน่วยงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ข้อมูลภาครัฐโปร่งใส ราชการไทยไร้ทุจริต” ว่า สืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่กำหนดให้ชุมชนย่อมมีสิทธิรับทราบและเข้าถึงข้อมูลสาธารณะของหน่อยงานราชการ รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นที่จะทำให้รัฐบาลขับเคลื่อนข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัยอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยปรับปรุงหน่วยงานราชการให้เป็นดิจิทัลเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม สนับสนุนการขจัดปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาด โดยตระหนักดีว่าในยุคที่มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารรวดเร็วทั้งข่าวจริงและข่าวปลอม รัฐบาลจึงมีหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลที่ให้เห็นถึงความโปร่งใสในการทำงาน

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าการเข้าถึงข้อมูลของภาคประชาชนมีความเกี่ยวเนื่องกับการลดปัญหาทุจริตคอรัปชันในภาครัฐ จึงเสนอแนวทางปฏิบัติที่หน่วยงานสมควรยึดถือ 4 ข้อดังนี้ 1.การยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลหรือหลักบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี อันมีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ หลักความคุ้มค่า และหลักความโปร่งใส ซึ่งหลักความโปร่งใสจะช่วยขับเคลื่อนการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา ตรวจสอบความถูกต้อง การเข้าถึงได้อย่างสะดวกหากภาคเอกชนและภาครัฐดำเนินการตามหลักการเพื่อช่วยให้ปลอดจากการทุจริตคอรัปชั่นได้

2.การปฎิบัติตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2540 ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานของรัฐต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานรัฐ โดยกฎหมายฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียและประชาชนได้เข้าถึง รับรู้ข้อมูลและใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสารของรัฐนำไปสู่การมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐให้เป็นไปอย่างโปร่งใส 3.การปฎิบัติตามเกณฑ์และตัวชี้วัดด้านความโปร่งใสซึ่งกำหนดให้หน่วยงานต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับประเด็นต่างๆ และ 4.พัฒนาการแสดงข้อมูลให้รู้ ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลเนื่องจากเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการทำงานในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้น เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว การพัฒนารูปแบบข้อมูลราชการให้อยู่ในรูปดิจิทัล ถือเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยให้ภาครัฐได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบและกำหนดนโยบายของภาครัฐมากยิ่งขึ้น

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดให้ประชาชนมีสิทธิได้รับทราบถึงข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานที่มีหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสาธารณะของหน่วยงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐหรือทางราชการ รัฐบาลนี้มุ่งมั่นทำให้รัฐบาลขับเคลื่อนไปสู่ข้อมูลที่ทันสมัย อยู่บนพื้นฐานความโปร่งใส และตรวจสอบได้และปรับปรุงการทำงานภาคของรัฐไปสู่รัฐบาลดิจิทัล โดยต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมและสามารถเข้าถึงข้อมูล เพื่อให้เกิดความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นของประชาชนและยังลดปัญหาคอร์รัปชัน เมื่อประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบได้ และนำไปสู่การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐให้เกิดความโปร่งใส โดยยึดหลักธรรมาภิบาลเป็นแนวทางปฎิบัติ

เช่น กรณีของป้าบัวผัน จ.สระแก้ว ที่ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. พ.ศ. 2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย ต้องเปิดภาพการทำงาน แต่ไม่มีการบันทึกเทปในการเข้าจับกุมทำให้เกิดข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใส เป็นต้น จึงต้องนำมาซึ่งการปรับปรุงการทำงาน กฎเกณฑ์ระเบียบของราชการ และจะต้องอธิบายเหตุผลให้ในการปฎิบัติงานได้ รวมถึงกรณีการจัดซื้อจัดจ้าง ควรเปิดเผยราคากลาง และกำหนดด้วยเวลาก่อสร้าง สิ่งเหล่านี้ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร เพราะจะเป็นประโยชน์ ลดการถูกร้องเรียน

“ผมมีโอกาสได้คุยกับผู้ตรวจราชการ ได้นำเสนอความคิด สะท้อนความเห็นที่เห็นด้วยกับแนวทางเรื่องความโปร่งใสและความชัดเจนของข้อมูลข่าวสาร จะได้ไม่ต้องแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และยังประหยัดงบประมาณ แรงงานในการดำเนินงานลง” นายสมศักดิ์ ระบุ

สำหรับหน่วยงานที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการโดดเด่น ประจำปี 2565 – 2566 จำนวน 109 โล่ จาก 73 หน่วยงาน มีดังนี้ 1.โล่เงิน จำนวน 1 หน่วยงาน ได้แก่ กรมอนามัย 2.โล่ทองแดง จำนวน 14 โล่ จากหน่วยงาน ได้แก่ การประปานครหลวงได้รับโล่ 2 ปี ติดต่อกัน สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมสุขภาพจิต การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานคลังจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานคลังจังหวัดนครนายก สำนักงานคลังจังหวัดยโสธร สำนักงานคลังจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานคลังจังหวัดลำปาง สำนักงานคลังจังหวัดสตูล และสำนักงานคลังจังหวัดสมุทรสงคราม 3.โล่มาตรฐาน จำนวน 94 โล่ จาก 73 หน่วยงาน เช่น สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสถิติแห่งชาติ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้รับโล่ 2 ปีติดต่อกัน และสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม และสำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

เฉลิมพระเกียรติ ‘ในหลวง‘ ทส.-มท. ลุยแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ภัยแล้ง

‘เกณิกา’ เผย ‘ทส.-มท.’ จับมือเดินหน้าสานต่อ โครงการแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 72 แห่งเฉลิมพระเกียรติ ในหลวง ครบ 6 รอบ 72 พรรษา

รัฐบาลชวนปชช. จอง-แลกเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เริ่ม 24 ก.ค.

รัฐบาลเชิญชวนประชาชน จอง-แลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ตั้งแต่ 24 ก.ค.นี้

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่