โฆษกรัฐบาลยันแลนด์บริดจ์คือจุดยุทธศาสตร์การขนส่งทั่วโลก เชื่อมั่นดึงดูดต่างชาติลงทุนอุตสาหกรรมในไทยเพื่อกระจายสินค้าสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ต่อยอดปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขีดการแข่งขันไทยในเวทีโลก
17 ม.ค.2567 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีโครงการแลนด์บริดจ์ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ว่ารัฐบาลมุ่งต่อยอดใช้ประโยชน์ ในฐานะที่ไทยมีจุดแข็ง เป็นพื้นที่ทางผ่านหลักของโครงข่ายความร่วมมือต่างๆ ในทวีปเอเชียและเป็นจุดศูนย์กลางความเชื่อมโยงระหว่างภาคพื้นทวีปกับมหาสมุทรของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากข้อได้เปรียบด้านปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Factor) นี้ จึงเป็นโอกาสการพัฒนาให้ไทยเป็นจุดศูนย์กลางลงทุนอุตสาหกรรมและการขนส่งของภูมิภาคและของโลกในการผลิตและกระจายสินค้าสู่นานาประเทศอย่างแท้จริง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า โครงการ แลนด์บริดจ์จะสามารถเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าที่ผลิตในไทยไปสู่ประเทศสมาชิกความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation: BIMSTEC) ภูมิภาคเบงกอลอีก 6 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ เมียนมา เนปาล ภูฏาน ศรีลังกา และอินเดีย ที่มีประชากรจำนวนประมาณ 1,730 ล้านคน ถือว่าเป็น Missing Market หรือตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสำหรับการลงทุน คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้น อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อสินค้าไปยังตลาดในกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Great Mekong Subregion: GMS) ได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม และ จีน พื้นที่ทางธุรกิจแบบ Blue Ocean ที่มีการแข่งขันไม่สูงมากและมีคู่แข่งน้อย
นายชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า การเชื่อมอ่าวไทย-อันดามันด้วยโครงการแลนด์บริดจ์จะนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ทั้งสองฝั่ง สร้างความเจริญ กระจายรายได้ให้พื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนไทยและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ รวมทั้งแลนด์บริดจ์อยู่ในพื้นที่ที่สมบูรณ์แบบสามารถลดความเสี่ยงต่อเหตุไม่คาดคิดหากเกิดกับเส้นทางการเดินเรือเส้นทางอื่น
“รัฐบาลมองวิสัยทัศน์ต่อโครงการแลนด์บริดจ์ในภาพกว้าง ว่าจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุน ที่ต้องการบริหารความเสี่ยง เห็นประโยชน์จากโอกาส และเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกปัจจัยขับเคลื่อนให้ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมการผลิตและการขนส่งของภูมิภาคและของโลกอย่างแท้จริง รวมทั้ง ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการขนส่งทางเรือของโลกเพื่อการขนส่งสินค้าได้เร็ว คล่องตัว และปลอดภัย ด้วยการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลกทำให้เกิดประโยชน์จากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ของไทย”นายชัยกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกอิ๊งค์ควง 2 รมต.หญิงลง 'ขอนแก่น-มหาสารคาม' ติดตามแก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง-ตัดริบบิ้นเปิดงาน
นายกฯ เร่งสปีดนโยบายรัฐบาล ลงขอนแก่น-มหาสารคาม 20 ธ.ค. แก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้ง พร้อมติดตามโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน พร้อมตัดริบบิ้นเปิดงานซอฟพาวเวอร์ของไทย
ครม.เคาะแพ็กเกจใหญ่ช่วยเหลือ 'ลูกหนี้รายย่อย-เอสเอ็มอี'
ครม. อนุมัติชุดใหญ่! จัดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ผู้ประกอบการ SMEs มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นแน่
นายกฯ อิ๊งค์ลั่นกลาง ครม.พร้อมลงภาคใต้แต่ไม่รู้เมื่อไหร่!
นายกฯ แจ้งที่ประชุม ครม. พร้อมลงภาคใต้ ขอ ศปช.ส่วนหน้าสรุปแผนแก้ไขน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย
รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่
รัฐบาลพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน เช็กสุขภาพ-เยียวยาจิตใจทันที
นายกฯ รับรายงานพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน ด้าน สธ. เตรียมทีมดูแลสุขภาพกาย-จิตใจ ทันทีที่เหยียบแผ่นดินไทย
รัฐบาลชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญ 'พระเขี้ยวแก้ว' จากดอนเมืองมาสนามหลวง
รัฐบาล เชิญชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากดอนเมือง มาประดิษฐาน มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมเปิดสักการะ 5 ธ.ค.2567 - 14 ก.พ.2568