9 ม.ค.2567- นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ ในระหว่างวันที่ 10 – 12 มกราคม 2567 มีเป้าหมายการตรวจราชการโครงการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล ได้แก่ การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง การพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ในภาพรวม การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) การส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ การส่งเสริมการอนุรักษ์งานประเพณีศิลปวัฒนธรรม โดยมีพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ร่วมคณะตรวจราชการ โดยมีกำหนดการ ดังนี้
วันพุธที่ 10 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. นายกรัฐมนตรีออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
วันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 09.45 น. ณ ห้องประชุมกองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงระบบขนส่งและเดินทางในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ (1) ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสนามบินล้านนา (เชียงใหม่แห่งที่ 2) (2) ความคืบหน้าโครงการรถแดงไฟฟ้า (EV) (3) ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนวงแหวนรอบ 3 เชียงใหม่ (4) แผนการเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยว 7 แห่ง (5) การพัฒนาถนนเพื่อเพิ่มศักยภาพการเชื่อมโยงเชียงใหม่และจังหวัดในภาคเหนือ จากนั้น เวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2566 และในเวลา 11.20 น. นายกรัฐมนตรีจะติดตามความพร้อมปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 และสาธิตวิธีการปล่อยฝนหลวง ณ บริเวณจุดจอดอากาศยานกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กองบิน 41 อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่
สำหรับภารกิจในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะไปยังศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการควบคุมไฟป่าภาคเหนือ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ภาคเหนือ และการทำแนวกันไฟ ต่อจากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. นายกรัฐมนตรีจะติดตามความคืบหน้าแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (โครงการพืชสวนโลก) อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
วันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานพิธีสืบสานอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีปีใหม่ลาหู่นานาชาติ ครั้งที่ 1 ณ อาคารสายธารธรรม มหาวิทยาลัยพายัพ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 12.40 น. ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'คารม' เผยผลมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวรัฐบาลดัน ทอท. กำไรพุ่ง 118.21%
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดตัว “ตู้ห่วงใย” สานต่อนโยบาย
นายกฯอิ๊งค์ เตรียมประชุม ครม.สัญจรเชียงใหม่-เชียงราย 28 พ.ย.
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางลงพื้นที่จังหวัด
ทีมโทรโข่งรัฐบาล ติวเข้มโฆษกกระทรวงส่ง 'ข่าวดี' ทุกสัปดาห์ เร่งตีปี๊บผลงาน 3 เดือน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายคารม พลพรกลาง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
โฆษกศปช. เผยกรณี 'น้ำผุด' อ.เชียงดาว มอบหน่วยงานลงพื้นที่ศึกษาแนวทางใช้ประโยชน์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศปช. ได้เคยประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังฝนตกหนักในพื้นที่ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ย.ไปแล้วก่อนหน้านี้
สาวไทยแพ็คกระเป๋า แอ่วเหนือไปพร้อมกับเจ้าของรอยยิ้มพิฆาต 'คิม ซอน โฮ'
ทรูวิชั่นส์ นาว เอาใจสาวไทย ที่หลงรักในรอยยิ้มกระชากใจของเขยไทยอย่าง “คิม ซอน โฮ” ที่ครั้งนี้จะรับบทแขกรับเชิญพิเศษ พาสาว ๆ ไปออกเดท ท่องเที่ยวกันแบบชุ่มปอดที่ภาคเหนือของประเทศไทย ในรายการ “Brothers who eat and watch S2” (คู่หูตะลุยพาชิม ปี 2) ที่มีพิธีกรหลักดำเนินรายการอย่าง “คิมจุนฮยอน” และ “มุนเชยุน”