ยุคเฟื่องฟูของเกษตรกร ประกันรายได้ 3 ปีช่วยชาวนา 7.92 ล้านครัวเรือน

ยิ่งกว่าของขวัญ! 'จุรินทร์' ดูแลยุคเฟื่องฟูของการเกษตร ประกันรายได้ 3 ปี มอบ 226,205 ล้านบาท ครอบคลุม 7.92 ล้านครัวเรือน 31.68 ล้านคนโดยเฉลี่ย 'เดินหน้าทำต่อไป ทำได้ไว ทำได้จริง'

23 ธ.ค.2564 - นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ วางแผนงานปี 2565 เดินหน้านโยบายประกันรายได้เกษตรกร ในพืชเศรษฐกิจหลัก 5 ชนิด ข้าว ยางพาราปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมเกษตรกร 7.92 ล้านครัวเรือน โดยแต่ละครัวเรือนมีสมาชิกเฉลี่ยครัวเรือนละ 4 คนทำให้นโยบายนี้ดูแลเกษตรกรและครอบครัวได้ครอบคลุมถึง 31.68 ล้านคนโดยประมาณ

นโยบายประกันรายได้เกษตรกรเดินหน้าสู่ปีที่ 3 คือขอบปี 2565 และในปีที่ 3 นี้ ก็ได้จ่ายเงินประกันรายได้หรือส่วนต่างข้าวกับยางพาราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับพืชอีก 3 ชนิดรัฐบาล โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์นั้นได้ใช้ทั้งนโยบายหลักกับนโยบายเสริมกระตุ้นราคาจนสูงกว่ารายได้ที่ประกันไว้ จึงเป็นความมั่นคงของเกษตรกรอย่างยิ่งโดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน

อย่างไรก็ตามโครงการหลักของรัฐบาลที่นายจุรินทร์รับผิดชอบแยกเป็นได้ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหรือชาวนา 4.69 ล้านครัวเรือน ใช้เงินรวม 3 ปี 155,127 ล้านบาท ยางพาราได้รับสิทธิ์ 1.88 ล้านครัวเรือน เงินรวม 3 ปี 41,494 ล้านบาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เกษตรกร 4.5 แสนครัวเรือน เงินรวม 3 ปี 4,112 ล้านบาท มันสำปะหลังเกษตรกร 5.2 แสนครัวเรือน เงินรวม 3 ปี 18,249 ล้านบาท และปาล์มน้ำมันเกษตรกร 3.8 แสนครัวเรือนเงินรวม 3 ปี 7,221 ล้านบาท สรุปข้อมูลทั้งโครงการซึ่งได้รวมงบประมาณปี 2565 ไว้ในนี้เรียบร้อย จากการอนุมัติขอรัฐบาล เท่ากับว่ารวม 3 ปี ดูแลเกษตรกร 226,205 ล้านบาท ซึ่งเป็นยิ่งกว่าของขวัญและความมั่นคงในชีวิตเกษตรกรและครอบครัวถือว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของการทำการเกษตรทั้งในส่วนของรายได้จากส่วนต่างราคาและในส่วนที่รัฐบาลทำราคาพุ่งสูงขึ้นเกินจากรายได้ที่ประกันไว้ ทั้งหมดล้วนเป็นความสามารถของรัฐบาลซึ่งมีนายจุรินทร์รับผิดชอบภารกิจหลักด้านนี้

เฉพาะโครงการประกันรายได้เกษตรกรนี้ดูแลเกษตรกรและครัวเรือนประชาชนต่างจังหวัดครอบคลุมทั้งประเทศใน 7.92 ล้านครัวเรือนนี้รวมสมาชิกในครัวเรือนคูณ 4 คน โครงการนี้ได้ดูแลประชากรครอบคลุมร่วม 31.68 ล้านคนโดยประมาณ และนายจุรินทร์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำนโยบายพร้อมประกาศ "เดินหน้าทำต่อไป ทำได้ไว ทำได้จริง" นอกจากจะมอบเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศแล้วยังได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์สมาคม ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออกซึ่งอยู่ในโครงสร้างของสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรทั้งหมดด้วย

"ของขวัญถูกใจที่เกษตรกรทั่วประเทศได้รับ ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คือ ส่วนต่างราคาข้าวและส่วนต่างราคายางพาราที่เพิ่งจ่ายไปช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 อันนี้โดยเฉลี่ยแล้วเกษตรกรได้ครัวเรือนละ 30,000-60,000 บาท ตามการลงทะเบียนเพาะปลูกจริง และเงินเข้าบัญชีโดยตรงครบหมดแล้วและยังไม่นับรวมค่าไถหว่านหรือค่าปรับปรุงพัฒนาข้าวอีกครัวเรือนละ 20,000 บาท เงินก้อนนี้ก็จ่ายตรงเข้าบัญชีเกษตรกรครบหมดแล้ว ถือเป็นของขวัญจากรัฐบาลและรองนายกฯจุรินทร์ที่รับผิดชอบโครงการนี้ให้เกษตรกรซึ่งถูกใจเกษตรกรมากที่สุดวันนี้ " นางมัลลิกา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“สุชาติ” ชี้ช่องทางตลาดในและต่างประเทศแก่ผู้ประกอบการถุง พลาสติกสาน สยามแฟล็กซ์แพ็ค จำกัด โอกาสโตยังเปิดกว้าง!

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หารือกับผู้บริหาร บริษัท สยามเฟล็กซ์แพ็ค จำกัด ผู้ประกอบการผู้ผลิตสินค้าถุงกระสอบพลาสติก สร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA

‘สุชาติ’ แนะเกษตรกร/ผู้ประกอบการโคนม นำนวัตกรรม และดูแลสิ่งแวดล้อม เพิ่มมูลค่า พร้อมศึกษาประโยชน์จาก FTA ขยายตลาดส่งออก

รมช.พณ. สุชาติฯ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและผู้ประกอบการนมโคแปรรูป ในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เกษตรและผู้ประกอบการเร่งใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายตลาดส่งออก และเตรียมความพร้อมกลุ่มเป้าหมายเข้าสู่การเปิดเสรีสินค้านมและผลิตภัณฑ์ ภายใต้ FTA ไทย-ออสเตรเลีย และ FTA ไทย-นิวซีแลนด์ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2568

'พาณิชย์ 'แนะผู้ประกอบการอาหาร สปา เร่งทำตลาดสเปนรับเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวโต

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สำรวจภาวะเศรษฐกิจสเปน พบขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวบูมมาก ชี้เป็นโอกาสสินค้าและบริการไทยที่จะขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น ทั้งร้านอาหาร สปา อาหารและเครื่องดื่ม แนะทำการตลาดดิจิทัลสร้างการรับรู้