ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจความพร้อม รปภ. เคาท์ดาวน์เซ็นทรัลเวิลด์  

31 ธ.ค.2566-ที่ลานเซ็นทรัลเวิลด์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เดินทางมาตรวจเยี่ยมมาตรการรักษาความปลอดภัยการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการดูแลความปลอดภัยงานเคาท์ดาวน์ ที่ลานเซ็นทรัลเวิลด์ ทุกฝ่ายมีความพร้อม มีการซักซ้อมแผนปฏิบัติเหตุต่างๆ ภาพรวมค่อนข้างมั่นใจในการรักษาความปลอดภัย  คาดว่าคนจะมาร่วมงานหลายหมื่นราย จึงได้กำชับมาตรการดูแลความปลอดภัย ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย การดื่มสุรา ทะเลาะวิวาท หรือเหตุอื่นๆ โดยเฉพาะงานใหญ่ๆ ที่มีคนมาร่วมงานจำนวนมากอาจจะทำให้เกิดความสูญเสียได้

ทั้งนี้ มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ควบคุมภาพรวมความปลอดภัย มีกล้อง CCTV แผนการปฏิบัติกรณี จำนวนคน ลดความแออัด พื้นที่เข้าออกที่สะดวก ปลอดภัย การตรวจตราความปลอดภัยช่วงก่อน ขณะ และหลังการจัดงาน จัดเจ้าหน้าที่ EOD และสุนัข K9 สนับสนุนการปฏิบัติ โดยต้องทำให้ครบทุกมิติ ให้ผู้บังคับบัญชาเข้าไป ควบคุมดูแลรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ในภาพรวมทั่วประเทศมีการจัดงานขนาดใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มเป็นพิเศษ 46 แห่ง เช่น พื้นที่ กทม. ลานเซ็นทรัลเวิลด์ เอเชียทีค ไอคอนสยาม ในส่วนต่างจังหวัดจะมีการจัดงานขนาดใหญ่ตามจังหวัดท่องเที่ยว เช่น พัทยา ชลบุรี เชียงใหม่ บุรีรัมย์ ขอนแก่น ภูเก็ต หาดใหญ่ ส่วนโครงการ “ร่วมใจดูแลความปลอดภัยประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0)” มีประชาชนเข้าร่วมโครงการ ฝากบ้านกว่า 6,000 หลังขณะนี้ทุกหลังเรียบร้อยดี ยังไม่มีเหตุ

นอกจากนี้ การป้องกันและลดอุบัติเหตุ มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดภาพรวมทั่วประเทศ จับกุมเมาแล้วขับไปแล้ว 6,349 ราย รวม 10 ข้อหาหลัก 132,686 ราย แต่ภาพรวมอุบัติเหตุปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องดำเนินการคุมเข้มบังคับใช้กฎหมายในช่วงที่เหลือต่อไป ส่วนการจราจร ตำรวจทางหลวงรายงานว่า วันที่ 30 ธ.ค.66 มีรถออกกว่า 544,459 คัน แต่น้อยกว่าวันที่ 29 ธ.ค.ที่รถออกกว่า 639,999 คัน มีการเปิดช่องทางพิเศษต่อเนื่องทั้งวัน ส่วนมอเตอร์เวย์ M6 มีรถเดินทางกว่าวันละ 30,000 กว่าคัน แบ่งเบาถนนมิตรภาพได้เกือบ 30% ภาพรวมสามารถส่งรถออกห้วง 26-30 ธ.ค.66 กว่า 3 ล้านคัน  ซึ่งขณะนี้การจราจรสู่ภาวปกติ ประชาชนเดินทางถึงภูมิลำเนา ส่วนการเดินทางกลับ คาดว่าวันนี้จะมีประชาชนเดินทางกลับเข้า กทม.บางส่วน แต่จะหนาแน่นมากที่สุดจะเป็นวันที่ 1 ม.ค.67 คาดว่าจะมีรถเดินทางกว่า 617,000 คัน มากกว่าปกติเกือบ 30%

“ขอให้พี่น้องประชาชนมีความสุขกับการเฉลิมฉลองงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความพร้อม ส่งตำรวจกว่า 1 แสนนาย ดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกมิติ เพื่อมอบเป็นของขวัญให้พี่น้องประชาชนมีความสุขในช่วงปีใหม่นี้ ตามนโยบาย นาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณกำลังพลตำรวจทุกนาย ที่ร่วมการปฏิบัติในห้วงที่ผ่านมา มีความตั้งใจ ทุ่มเท เสียสละ เพื่อดูแลทั้งการจราจร ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่อ' สั่งนครบาลสอบด่วน! ป้ายซื้อขายพาสปอร์ต ผิดจริงฟันแน่

'ผบ.ตร.' สั่งตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณาภาษาจีน รับทำหนังสือเดินทาง-ขอสัญชาติต่างๆ กำชับ สตม. ตรวจสอบ คัดกรองคนต่างด้าว เจอกระทำผิดฟันตามกฎหมายทุกมิติ

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่

เสนอปูนบำเหน็จ เลื่อนยศ รอง ผกก.ป.ท่าข้าม เป็น 'พล.ต.อ'

ผบ.ตร.แสดงความเสียใจ – เสนอปูนบำเหน็จ เลื่อนยศเป็น "พล.ต.อ" รอง ผกก.ป.ท่าข้าม เสียชีวิตระหว่างสยบชายคลั่ง พร้อมสั่งถอดบทเรียนป้องกันความสูญเสียซ้ำรอย