'ปานปรีย์' ประเมินหาก 'วิกฤต' ทะเลแดงรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบการค้าไทย

26 ธ.ค.2566-ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเมินถึงสถานการณ์การค้า และการขนส่งทางเรือจากวิกฤตทะเลแดงที่อาจส่งผลกระทบต่อการค้าของประเทศไทย พร้อมทั้งทางการไทยต้องมีการจ่ายค่าระวางเรือเพิ่มมากขึ้น ว่า สถานการณ์วิกฤตทะเลแดง หากมีความรุนแรงมากขึ้นน่าจะมีผลกระทบกับการค้าของไทย แต่เบื้องต้นยังอยู่ในวิสัยที่เราสามารถบริหารจัดการได้

อย่างไรก็ตาม สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เคยให้ความเห็นเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ทะเลแดงเป็นน่านน้ำที่มีความสำคัญกับการขนส่งเรือพาณิชย์ เนื่องจากมีความเชื่อมต่อระหว่างทวีปเอเชีย และยุโรป ซึ่งไทยส่งออกสินค้าไปยุโรป 8% ของการส่งออกทั้งหมด โดยสินค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาหาร ยางล้อรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

อีกทั้งเส้นทางทะเลแดงยังช่วยร่นระยะเวลาเดินทางที่จะไปอ้อมเส้นทางแหลมกู๊ดโฮปกว่า 10-15 วัน ซึ่งหากสถานการณ์ในทะเลแดงยังไม่มีความคลี่คลายจะทำให้การขนส่งสินค้าโดยเรือพาณิชย์จากไทยต้องแบกรับค่าระวางเรือที่แพงขึ้น 1,500 ดอลลาร์ต่อตู้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ในทะเลแดงเกิดจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตี ในประเทศเยเมน ที่ต้องการตอบโต้กับทางการอิสราเอลที่มีปฏิบัติการโจมตีกลุ่มฮามาส โดยอ้างว่า ทำไปเพื่อสนับสนุนฮามาส และใช้ทะเลแดงเพื่อเป็นตัวประกันในการยกระดับการโจมตี.

เพิ่มเพื่อน