24 ธ.ค. 2566 – สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลการศึกษา เรื่อง ความหวัง กับ ความกลัว ปีหน้า กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพในเขตกรุงเทพมหานครอายุ 18 ปีขึ้นไป ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวน 1,134 ตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติ ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 – 23 ธันวาคม พ.ศ.2566 โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95 พบว่า การแก้ไขหนี้ในระบบ เป็นความหวังจะได้จาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 51.7 รองลงมาคือ แก้ไขปัญหายาเสพติด ร้อยละ 51.3 แจกเงินหมื่นร้อยละ 50.6 แก้ไขปัญหาภัยไซเบอร์ คอลเซนเตอร์ ร้อยละ 50.2 แก้ไขหนี้นอกระบบ ร้อยละ 49.8 และ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ร้อยละ 42.2 ตามลำดับ
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึง ความฝันอยากได้ของประชาชนจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบว่า ความฝันอยากได้รถยนต์คันใหม่ มาเป็นอันดับที่ 1 คือ ร้อยละ 45.3 รองลงมาคือ อยากได้สิทธิประกันสังคม สถานพยาบาลแห่งใหม่ ร้อยละ 43.8 อยากได้ขึ้นเงินเดือน ร้อยละ 43.3 อยากได้บ้านหลังใหม่ ร้อยละ 42.8 อยากมีงานทำ มีรายได้เสริม ร้อยละ 35.1 อยากได้การศึกษาใหม่ ร้อยละ 25.7 อยากเปลี่ยนงานใหม่ ร้อยละ 16.8 และอยากได้คนรักใหม่ ร้อยละ 8.0 ตามลำดับ ที่น่าพิจารณาคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.3 มีความหวังที่จะก้าวต่อไปในปีหน้า ในขณะที่ร้อยละ 25.7 มีความกลัว
รายงานของสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ระบุว่า รัฐบาลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี อาจจะรณรงค์ให้ปีใหม่ คือ ปี พ.ศ. 2567 ที่จะมาถึงนี้ เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านของประเทศไทยและประชาชนคนไทยทั้งประเทศสู่ความเป็นประเทศดิจิทัลและประชาชนคนไอทีที่นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาให้ในการแก้ไขปัญหาเดือดร้อนหนี้นอกระบบ แก้ไขปัญหายาเสพติด แจกเงินหมื่น แก้ไขปัญหาภัยไซเบอร์ คอลเซนเตอร์ แก้ไขหนี้นอกระบบ และ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ด้วยกลไกเทคโนโลยีสารสนเทศ ผ่านทางแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ (Applications) และโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (IT Infrastructure) และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytics) เกาะติดการแก้ไขปัญหาเดือดร้อนของประชาชนทุกมิติทั้งระบบ จะทำให้ได้ข้อมูลการตัดสินใจที่ถูกต้องแม่นยำ คาดการณ์อนาคตแห่งการเปลี่ยนแปลง และกำกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงของประเทศให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์ได้ และจะได้รับการสนับสนุนจากสาธารณชนเพราะประชาชนเมื่อถูกถามวันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ตอบว่า มีความหวังจะก้าวต่อไปในปีหน้า มากกว่า กลุ่มประชาชนที่กลัวจะไปต่อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นับถอยหลัง 2567 5 ฉากร้อนการเมืองไทย
นับถอยหลังต่อจากนี้ ก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 สัปดาห์ ก็เข้าสู่ช่วง “นับถอยหลังอำลา 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568” กันแล้ว
3 นายกฯ 'อิ๊งค์-ทักษิณ-เศรษฐา' ร่วมเปิดงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทยจัดสัมนาภายใต้โครงการ เสริมศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมือง มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ รวมถึงแกนนำ
หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี
’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี
รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย
รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่
'เพื่อไทย' ไม่ฟังเสียงต้าน! ดันทุรังเข็น 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า รัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
'สนธิ' ประกาศปีหน้าทำ 3 เรื่อง ปลุกไล่รัฐบาล เป็นการเดินครั้งสุดท้ายในชีวิต
เมื่อวันที่ 30 กันยายน ช่องยูทูบที่ใช้ชื่อว่า Sondhitalk ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิ