'เศรษฐา' ขอโทษผู้ว่าฯททท. หากพูดไม่รื่นหู แนะใช้เม็ดเงินชี้วัดผลสำเร็จมากกว่าจำนวนคน

“เศรษฐา” มอบนโยบายท่องเที่ยว ย้ำ กระตุ้นเมืองรอง หวังไทยเป็นไฮซีซั่นทั้งปี บอก ตัวชี้วัดอย่าดูแค่จำนวนนักท่องเที่ยว แต่ต้องดูยอดการใช้จ่าย ลั่นขอโทษหากพูดอะไรไม่ลื่นหู

13 ธ.ค.2566 - เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายเพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ โดยมี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวเข้าร่วมประชุมรับมอบนโยบาย

นายเศรษฐา กล่าวว่า การท่องเที่ยวถือว่าเป็นกลไกที่สำคัญที่สุด ตนพยายามหลีกเลี่ยงคำว่า Quick Win เพราะมีคนนำไปใช้เป็นวาทะกรรมเยอะ แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดเพราะการท่องเที่ยวเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทุกคนในที่นี้รวมถึงนี้ผู้ว่าฯ ททท.ก็เป็นลูกหม้อของหน่วยงานนี้ รัฐมนตรีก็ทำงานหนักลงพื้นที่มาเยอะเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงปัญหา เหนือสิ่งอื่นใดเรื่องของโอกาสเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง วันนี้เรามาพูดคุยกันเพื่อให้ทราบถึงนโยบายและทิศทางของรัฐบาล แน่นอนว่าเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลก็มีการเปลี่ยนนโยบาย ตนเชื่อว่าทุกรัฐบาลมีความหวังดี ให้มีความเจริญก้าวหน้าในด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพราะฉะนั้น ต้องมีการปรับเปลี่ยนตามแต่ละนโยบายของรัฐบาล

นายเศรษฐา กล่าวว่า ภาคส่วนการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ตนใช้เวลาค่อนข้างเยอะจากการลงพื้นที่มา และนโยบายที่ออกมาตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่ตำแหน่ง เราให้ความสำคัญเรื่องของการท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากตนมอบนโยบายแล้วหากใครไม่สบายใจ หรือข้องใจนโยบายไหนก็สามารถพูดคุยกัน เพราะตนไม่อยากมาสื่อสารเพียงฝ่ายเดียว เราต้องส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นไฮซีซั่นตลอดทั้งปี และให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น การส่งเสริมการท่องเที่ยวไม่เพียงแต่พื้นที่เศรษฐกิจหลัก เช่นเชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ หัวหิน แต่ต้องมีการกระตุ้น การใช้จ่ายในเมืองรอง เพื่อกระจายรายได้สู่เมืองรองมากยิ่งขึ้น โดยเน้นจุดเด่นของแต่ละพื้นที่ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างแลนด์มาร์กใหม่ๆ ขอให้ช่วยหาจุดแข็งจุดเด่นและที่เป็นซอฟพาวเวอร์ของแต่ละที่นำมาโปรโมตในทิศทางที่ถูกต้อง เรื่องของการโปรโมต ตนขอให้ผู้ว่าฯททท.ที่ได้เดินทางไปงานท่องเที่ยวระดับโลก ให้เอื้อดึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา อยากให้ท่านให้นโยบายกับเจ้าหน้าที่ในระดับสูงได้ลงไปเมืองรองมากยิ่งขึ้น เข้าใจว่าอาจจะลำบากในการเสาะแสวงหาของดีๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยว ตนเชื่อว่ามีอยู่เยอะที่จะต้องอาศัยการประสานงานระหว่างท้องถิ่นและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อขุดแหล่งท่องเที่ยวออกมาให้ได้

นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยฤดูหนาวคนหนีหนาวจากประเทศอื่นมายังประเทศไทย แต่ยอมรับว่า ประเทศไทยยังมีปัญหาเรื่องฝุ่นละอองPM 2.5 แต่เราต้องแก้ปัญหากันไป ตนขอให้ทุกคนทำการบ้าน ในการโปรโมต แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวไทยทั้งปี ททท. ต้องให้ข้อมูลกับนักท่องเที่ยวทุกภาษา เข้าใจง่ายประชาสัมพันธ์ที่มีความหลากหลายสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว อย่าให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นผู้ตามเพียงอย่างเดียว หากพูดถึงเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หากแข่งกับประเทศเพื่อนบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นเวียดนามหรือมาเลเซีย พูดได้เต็มปากว่าเรื่อง เราสูงสุดในอาเซียน

นายกฯ กล่าวว่า โจทย์สำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวอีกอย่างหนึ่งคือ คือการเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ไม่อยากให้สนใจแค่ยอดจำนวนนักท่องเที่ยว แต่อยากให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วอยู่ท่องเที่ยวเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้เพิ่มการใช้จ่ายมากขึ้น อย่าหลงรักกับข้อมูลที่อยากจะเห็น ขอให้มองจากความเป็นจริง สำหรับตัวชี้วัดตนไม่อยากให้ท่านเข้าใจผิดว่าวัดจากจำนวนคน แต่อยากให้มองเรื่องจำนวนเงินที่สะท้อนถึงผลสำเร็จที่เราได้จากการท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากมีอะไรติดขัด หรือมีอะไรอยากจะเรียกร้อง ผู้ว่าฯททท. สามารถสายตรงกับตนได้ตลอด

“หากผมพูดอะไรไม่รื่นหู หรือ ตรงไปตรงมามากเกินไปก็ขอโทษ แต่ผมมีเจตนา รู้ซึ้งถึงปัญหาที่ท่านประสบอยู่เข้าใจถึงศักยภาพที่ประเทศชาติมีอยู่ เพราะฉะนั้น ผมจึงต้องการดึงศักยภาพออกมา วันนี้ถึงได้มีการพูดคุยกัน เพราะประชาชนมีความคาดหวังกับพวกท่านสูง และผมก็มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงขอฝากการท่องเที่ยวไว้ในมือพวกท่าน”นายกฯ ระบุ

ทั้งนี้ ภายหลังกล่าวมอบนโยบายแล้วนายกรัฐมนตรีได้ยืนพูดคุยกับ รมว.การท่องเที่ยวและผู้ว่าฯททท. หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยติติงการทำงานของผู้ว่าฯททท. เมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค. ระหว่างลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่นทันที! นายกฯมาเอง ลงพื้นที่ห้วยขวาง สั่งสอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สน.ห้วยขวาง ติดตามสอบถามข้องเท็จถึงกรณีที่พบมีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายหนังสือเดินทางและพาสปอร์ตที่แยกห้วยขวาง พบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ แก่ 'เศรษฐา ทวีสิน'

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยา