7 ธ.ค. 2566 -ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญา มีคำสั่งศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ 1225/2566 ที่พรรคภูมิใจไทยโดยนายศุภชัย ใจสมุทร เป็นโจทก์ ฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นจำเลยในความผิด กล่าวหาว่าเป็นพรรคที่ไม่ดี จูงใจประชาชนไม่ลงคะแนนเสียงแก่ผู้สมัคร ใช้สื่อโทรทัศน์ และเครือข่ายเผยแพร่สู่สาธารณะคัดค้านนโยบายกัญชาเสรีของพรรค
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า โจทก์ผู้รับมอบอำนาจโจทก์เป็นพยานเบิกความประกอบเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ. 16 ว่าก่อนวันสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนรายฎร ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคโจทก์กำลังหาเสียงเลือกตั้งจำเลยเป็นผู้นำกิจกรรมทางการเมืองตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปมีการถ่ายทอดภาพ และเสียงทางสื่อโทรทัศน์และเครือข่ายระบบอินเตอร์เน็ตออกเผยแพร่ สู่สาธารณะ โดยคัดค้านนโยบาย
กัญชาเสรีของพรรคโจทก์ กล่าวถ้อยคำใส่ความจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมโจทก์ทำนองว่านโยบายกัญชาเสรี อย่าเลือกพรรคภูมิใจไทย เพราะเขานำกัญชาเข้ามามอมเมาเยาวชนขายกัญชาอย่างเสรีกัญชาสามารถพี้ได้อย่างเสรีมันคือนโยบายที่เลวทรามที่สุดที่พรรคการเมืองเคยกระทำ โดยใช้อุปกรณ์เครื่องขยายเสียงขนาดพกพา และจำเลยให้ถ้อยคำเช่นนี้หลายครั้ง อีกทั้งมีแผ่นปัายต่างๆ ระบุข้อความว่า กัญชาฆ่าเยาวชน ภูมิใจไทยพี้ พรรคบ้ากัญชาไม่เลือก พรรคบ้ากัญชา กัญชาคือยาเสพติด ยกเลิกกัญชา เยาวชนติดกัญชาเพราะมึง และเลือกพรรคผิดติดกัญชา
ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าพรรคที่จำเลยกล่าวหาหมายถึงพรรคโจทก์ และถ้อยคำที่จำเลยกล่าวแสดง ให้เห็นว่าพรรคโจทก์เป็นพรรคที่ไม่ดี และจำเลยแจกเสื้อซึ่งเป็นทรัพย์สินให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยมีเจตนาทุจริตเพื่อจูงใจให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งงดเว้นการลงคะแนนเสียงให้แก่ผู้สมัคร ในสังกัดพรรคโจทก์ และชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครในสังกัดพรรคโจทก์เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์นั้นเสียชื่อเสียง และเสียคะแนนนิยมทางการเมืองในช่วงเวลาการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาในชั้นไต่สวนมูลฟ้องเพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ได้กระทำโดย
การโฆษณาเพราะจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งงดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครพรรคโจทก์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วยวิธีการให้ผลประโยชน์อื่นอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายคดีของโจทก์มีมูลตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326,328 และ 384 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. 2561 มาตรา 73 วงเล็บหนึ่งวงเล็บ 51,58,159 และ 169 ให้ประทับฟ้องไว้
พิจารณาหมายเรียกจำเลยมาสอบคำให้การตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 9.00 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทักษิณ' แจงไปตีกอล์ฟ ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ 'อนุทิน' เป็นเรื่องธรรมดาลิ้นกับฟัน
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปรากฎภาพตีกอล์ฟร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสารัชถ์ รัตนาวะดี
ไม่ใช่อีแอบแล้ว แนวทางชัดขนาดนี้! 'สุขุม' อ่านเกม 'ภูมิใจไทย' ปมโหวตประชามติแก้ รธน.
ต่อประเด็นเรื่องการโหวตประชามติแก้ไข รธน. ที่พรรคภูมิใจไทย โหวตต่างจากพรรคแกนนำรัฐบาล ขณะที่พรรคร่วมบางพรรค ไม่ร่วมโหวต ซึ่งทาง สส.เพื่อไทย มองเป็นอีแอบ
'ทักษิณ' ขออย่าสนใจ 'อีแอบ' ยันคุยกับ 'ภูมิใจไทย' อยู่ตลอด
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยตบไหล่ผู้สื่อข่าว พร้อมกล่าวว่า “เดี๋ยวไว้เราเจอกันที่เชียงใหม่”
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัด 'ประชามติชั้นเดียว' แค่ยกแรก 'แก้รธน.ทั้งฉบับ' เจอด่านหิน-นโยบายขายฝัน!
“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชี้ กลไกแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับผ่านด่านหินยาก แม้เพื่อไทยใช้เทคนิคช่องทางพ้น 180 วัน ผ่านร่าง พรบ.ประชามติ เป็นเพียงนโยบายในฝัน
นายกฯอิ๊งค์ บอกไม่เป็นไร พรรคร่วมฯเห็นต่างกฎหมายประชามติ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการลงมติร่างพ.ร.บ.ประชามติ ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วมสส. -สว. ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลมีเสียงไม่เป็นเอกฉันท์