กสม.ร่วมจัดประชุมระดับภูมิภาคว่าด้วยผลกระทบนโยบายยาเสพติด สนับสนุนการลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติดแทนมาตรการทางกฎหมาย สร้างการยอมรับผู้เสพเป็นผู้ป่วย
30 พ.ย.2566 - นายชนินทร์ เกตุปราชญ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2566 กสม.ร่วมกับกรอบความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEANF) และ คณะกรรมการประจำกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (Committee on Economic, Social and Cultural Rights: CESCR) จัดการประชุมปรึกษาหารือระดับภูมิภาคว่าด้วยการจัดทำความเห็นทั่วไปเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อสิทธิมนุษยชนของนโยบายยาเสพติด โดยเป็นกิจกรรมคู่ขนานกับการประชุมประจำปี SEANF ครั้งที่ 20 และเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดทำข้อคิดเห็นทั่วไป (General Comment) ของคณะกรรมการ CESCR มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อสิทธิมนุษยชนของนโยบายยาเสพติด โดยเฉพาะสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพื่อคณะกรรมการ CESCRจะได้นำไปเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแนวทางสำหรับรัฐภาคีในการกำหนดนโยบายยาเสพติดที่เคารพสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีผู้เข้าร่วม ประกอบด้วยสมาชิก SEANF ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม องค์การระหว่างประเทศ สถานทูต นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
โดย น.ส.สุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้กล่าวเปิดงานและกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการครบรอบ 75 ปี ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UDHR) และการครบรอบ 30 ปี ของหลักการปารีส (Paris Principles) ซึ่งเป็นหลักการที่กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อแสดงถึงความน่าเชื่อถือและความมีประสิทธิภาพในการทำหน้าที่ของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รวมถึงเรื่องที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ได้เรียกร้องให้ภาคส่วนต่าง ๆ มุ่งมั่นที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของหลักการปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
Mr.Anand Grover ผู้แทนคณะกรรมาธิการระดับโลกว่าด้วยนโยบายยาเสพติด (Global Commission on Drug Policy) บรรยายเรื่อง “สถานการณ์โลกเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายยาเสพติด” นายเสรี นนทสูติ กรรมการประจำกติกา CESCR และหัวหน้าผู้รายงานร่างเอกสารความเห็นทั่วไปว่าด้วยผลกระทบของนโยบายยาเสพติดต่อสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม บรรยายเรื่อง “คณะกรรมการว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติและนโยบายยาเสพติด” และ Ms. Rebecca Schleifer นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล (เครือข่ายความยุติธรรมด้านสุขภาพระดับโลก) และที่ปรึกษาการจัดทำร่างเอกสารความเห็นทั่วไป บรรยายเรื่อง “การนำเสนอเค้าโครงของร่างเอกสารความเห็นทั่วไปว่าด้วยผลกระทบของนโยบายยาเสพติดต่อสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม”
นอกจากนี้ สมาชิก SEANF แต่ละประเทศได้นำเสนอสถานการณ์และนโยบายยาเสพติดของประเทศ ที่ส่งผลกระทบสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยนางสาวสุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้นำเสนอสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้ยาเสพติดประมาณ 4 ล้านคน กฎหมายกำหนดให้การเสพยาเสพติดเป็นความผิดทางอาญา ประเทศไทยมีผู้ต้องขังในเรือนจำสูงเป็นอันดับ 8 ของโลก ร้อยละ 79.2 ของผู้ต้องขังเป็นผู้กระทำผิดในคดียาเสพติด ในปี 2564 ได้มีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดโดยมีจุดเปลี่ยนที่สำคัญจากการประชุมสมัชชาสหประชาชาติวาระพิเศษว่าด้วยยาเสพติด (UNGASS 2016) ซึ่งมีการพูดถึงมิติสิทธิมนุษยชนในการควบคุมปัญหายาเสพติด และเป็นครั้งแรกที่มีการบรรจุคำว่า การลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด (Harm Reduction) ไว้ในกฎหมาย แต่ยังคงกำหนดให้การเสพยาเสพติดเป็นความผิดทางอาญา และให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการบำบัด รักษา ฟื้นฟู สมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ซึ่งมีความเหมาะสม แต่ก็ยังขาดความพร้อมในหลายด้าน ที่ผ่านมา กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ใช้ยาเสพติด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องสิทธิในกระบวนการยุติธรรม เช่น การจับกุมโดยเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบการทำร้ายร่างกาย การให้อำนาจพิเศษ ป.ป.ส.ในการควบคุมตัว เป็นต้น
กสม. สนับสนุนการนำมาตรการการลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด (Harm Reduction) มาใช้แทนมาตรการทางกฎหมาย ในส่วนของผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด เพราะเป็นมาตรการที่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ควรยกเลิกโทษอาญาสำหรับผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด เพื่อลดการตีตรา การเลือกปฏิบัติ ยกเลิก การบังคับบำบัดยกเว้นกรณีที่เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่นหรือสังคม การพัฒนาระบบบริการสำหรับผู้ใช้ยาเสพติดที่เพียงพอ การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ยา ชุมชน ภาคประชาสังคม ในการร่วมจัดบริการที่สำคัญคือ การสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับมาตรการลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด (Harm Reduction) ให้กับผู้กำหนดนโยบาย ผู้ให้บริการ และประชาชนทั่วไป
ในช่วงบ่าย ที่ประชุมทั้งกลุ่มย่อยจากหน่วยงานรัฐและนักวิชาการ และกลุ่มภาคประชาสังคม ได้นำเสนอและวิพากษ์ประเด็นเกี่ยวกับมิติระดับชาติและการกำหนดนโยบายยาเสพติด องค์ประกอบสำคัญที่ควรระบุในร่างเอกสารความเห็นทั่วไปดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (AICHR) กรอบความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APF) และคณะกรรมาธิการระดับโลกว่าด้วยนโยบายยาเสพติด ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองนโยบายยาเสพติดและสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมในระดับภูมิภาค และ Mr. Virgilio da Silva Guterres ผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม SEANF ครั้งที่ 21 ในปี พ.ศ. 2567 กล่าวปิดประชุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สนธิญา' ยื่น 'กสม.' สอบ 'ทักษิณ' ละเมิดสิทธิ์ หานักร้องเป็นหมา
ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายสนธิญา สวัสดี เดินทางยื่นหนังสือ พร้อมหลักฐานภาพข่าวการหาเสียงนายก องค์การ
เปิดฉบับเต็ม! รายงานกสม. มัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพ-รพ.ตำรวจ เลือกปฏิบัติช่วยทักษิณ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน รายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่อง "การเลือกปฏิบัติและสิทธิของผู้ต้องขัง กรณีร้องเรียนว่า นายทักษิณ ชินวัตร ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่น" กรณีผู้ร้อง(ปกปิดชื่อ) ผู้ถูกร้อง เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ที่ 1โรงพยาบาลตำรวจที่ 2
กสม.แถลงค้าน ปิดศูนย์เรียนรู้เด็กข้ามชาติ ชี้สถานศึกษาในพื้นที่ ยังไม่มีความพร้อม
ตามที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานีประกาศปิดศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ บางกุ้ง ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
'ทวี' ขึงขัง! สั่ง 'กรมคุก' ตามดู 'นช.ทักษิณ' รักษาตัวชั้น 14 ละเมิดสิทธิผู้ต้องขังภาพรวมหรือไม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ส่งเรื่องให้
เอาแล้ว! ป.ป.ช.รับข้อมูล กสม. พิจารณา ปมเอื้อ ‘ทักษิณ’ รักษาตัวชั้น 14
เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงรวบรวมพยานหลักฐานของคณะทำงานไต่สวนที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและทบทวนพยานหลักฐาน ซึ่งสุดตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ส่งรายงานการพิจารณาของกสม.มาให้ป.ป.ช.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
กสม. ชงแก้กม. ให้ผู้ติดยาเสพติดได้บำบัดรักษา โดยไม่ถูกจำกัดสิทธิ
'กสม.' ชงแก้ไข กม. ให้ผู้ติดยาเสพติด เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาได้ โดยไม่จำกัดสิทธิว่าเป็นผู้กระทำผิด ตามหลักสากล 'ผู้เสพคือผู้ป่วย'