'บีโอไอ' เห็นชอบขยายมาตรการกระตุ้นลงทุนในพื้นที่ 'อีอีซี' ฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิดคลี่คลาย

บอร์ดบีโอไอเห็นชอบขยายมาตรการกระตุ้นการลงทุน และระยะเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง

20 ธ.ค.2564 - เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ครั้งที่ 5/2564 โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย บีโอไอ รายงานผลการดำเนินการมาตรการกระตุ้นการลงทุน ปี 2564 ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายน มีการยื่นคำขอ 69 โครงการ เงินลงทุน 284,000 ล้านบาท

นายกรัฐมนตรี กำชับทุกหน่วยงานเตรียมหาแนวทางดึงดูดนักลงทุนให้ มาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ให้ประชาชนและสังคมมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินการ นายกรัฐมนตรียังพอใจต่อกรณีที่จะมีนักลงทุนจากญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยและสนใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทย ต้องเตรียมมาตรการกระตุ้นการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ New S-curve จริงจัง รวมถึง Cloud Service และ Data Center ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนปลายน้ำ และ Start up ให้พร้อม เพื่อให้ไทยสามารถแช่งขันได้กับต่างประเทศภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นายกรัฐมนตรียังย้ำนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการประกอบธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG โดยให้ BOI เน้นดึงผู้เล่นรายใหญ่เข้ามาลงทุนในประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศในอนาคต รวมทั้งให้ศึกษาสิทธิประโยชน์เข้ามาส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติมจากมาตรการภาษี โดยให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกและการพัฒนาประเทศเพื่อดึงดูดนังลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยให้มากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและเห็นชอบในประเด็นสำคัญ ดังนี้ ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการลงทุนปี 2565 ครอบคลุมกิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (A1, A2 และ A3) และต้องเป็นโครงการที่มีการลงทุนจริงไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใน 12 เดือนหลังออกบัตรส่งเสริม โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 เป็นระยะเวลา 5 ปี ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอรับการส่งเสริมได้ตั้งแต่วันทำการแรกของปี 2565 ถึงวันทำการสุดท้ายของปี 2565

เห็นชอบขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จนถึงวันทำการสุดท้ายของปี 2565 ยกเว้นโครงการที่ตั้งในเขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ เมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) ศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร ธรรมศาสตร์ (พัทยา) (EECmd) และการแพทย์จีโนมิกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา (บางแสน) (EECg) สามารถยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการนี้ได้โดยไม่กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดในการยื่นคำขอ โดยภายใต้มาตรการอีอีซี โครงการลงทุนในพื้นที่อีอีซี สามารถขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากหลักเกณฑ์พื้นฐานได้ใน 2 กรณี คือ เกณฑ์ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และเกณฑ์ที่ตั้ง โดยสามารถเลือกดำเนินการทั้งสองเกณฑ์ควบคู่กันเพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสูงสุด หรือเลือกเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่งก็ได้

ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้พื้นที่ย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี ตามประกาศของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นเขตส่งเสริมการลงทุน เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยมีพื้นที่ศูนย์กลางนวัตกรรมและการวิจัยทางการแพทย์ สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงการพัฒนานวัตกรรม และแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) ระหว่างผู้ประกอบการกับสถาบันหรือหน่วยงานของภาครัฐ

เห็นชอบให้สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology: AIT) และอาคารศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีประยุกต์สู่ SMEs สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ณ เทคโนธานี เป็นเขตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเชื่อมโยงระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาคการวิจัย เช่น การผลิตชิ้นส่วนระบบราง การผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้าหรือยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมและบริการเพื่อสุขภาพ อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต อุตสาหกรรมเกษตรสมัยใหม่ อุตสาหกรรมชีวภาพ รวมถึงอุตสาหกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยผู้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว จะได้รับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมจากเกณฑ์ปกติ คือ ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 เพิ่มเติมอีก 5 ปี หรือยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 2 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทกิจการ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อันวาร์’ โชว์ภาพคู่ ’ทักษิณ’ ถกดับไฟใต้-แก้วิกฤตเมียนมา ตอกย้ำ ‘อิ๊งค์‘ นายกฯตัวปลอม!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Anwar Ibrahim พร้อมรูปภาพคู่กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ารู้สึกยินดีที่ได้พบกับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยและเพื่อนรักอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหารือกันอย่างน่าสนใจ ครอบคลุม และมีประโยชน์ รวมทั้งในฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของมาเลเซียในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน

'นายกฯอิ๊งค์' มอบคำขวัญวันเด็ก ปี 68 'ทุกโอกาสคือการเรียนรู้'

'นายกฯอิ๊งค์' มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 68 ‘ทุกโอกาสคือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง‘ ยันรัฐบาลเห็นคุณค่าเด็กทุกคน มีสิทธิ์ทำให้ประเทศนี้น่าอยู่

ผวาหายนะ! บี้ '2พ่อลูกชินวัตร' ทบทวนพฤติกรรม บ้านเมืองไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราข โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทักษิณ คุณเป็นใคร? หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร

นายกฯ อิ๊งค์บอกตำรวจอยากดูแล ปท.แบบคนรุ่นใหม่มีอะไรคุยกันได้

นายกฯ มอบนโยบายตำรวจ ขอดูแลปชช.ช่วงปีใหม่ เชื่อ ตร.ภายใต้การนำ ”บิ๊กต่าย“ ทำให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุข-ปลอดภัย บอกอยากดูแลประเทศแบบคนรุ่นใหม่ มีอะไรคุยกันได้

'เท้งเต้ง' เซ็ง 'แพทองโพย' เบี้ยวกระทู้สดชงสภาแก้ข้อบังคับการประชุม

'หัวหน้าเท้ง' หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม หลัง 'นายกฯ' เลี่ยงตอบแล้ว 3 หน ปมค่าไฟแพง เหน็บเมื่อวานนักข่าวถามจะไปสภาหรือไม่ 'อิ๊งค์' กลับตอบ 'เมอร์รี่คริสต์มาส'