26 พ.ย. 2566 – สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “วันลอยกระทงกับวัฒนธรรม ประเพณี และประวัติศาสตร์ไทย” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,424 คน (สำรวจทางออนไลน์) สำรวจระหว่างวันที่ 12-23 พฤศจิกายน 2566 พบว่า กลุ่มตัวอย่างพอมีความรู้บ้างเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของวันลอยกระทง ร้อยละ 69.03 โดยมองว่าวันลอยกระทงเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีไทยสู่สายตาชาวโลก ร้อยละ 95.35 และเห็นว่าประเพณี ลอยกระทงมีศักยภาพในการเป็น Soft Power ในระดับมาก ร้อยละ 70.72 เนื่องจากช่วยดึงดูดความสนใจ ทำให้ต่างชาติเห็นถึงประเพณี ศิลปะ ดนตรี อาหาร การแต่งกาย ร้อยละ 89.63 ทั้งนี้วันลอยกระทงทำให้ประชาชนสนใจเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณี และประวัติศาสตร์ไทยมากขึ้น ร้อยละ 51.54 ด้านปัญหาและอุปสรรคของการถ่ายทอดวัฒนธรรม ประเพณี และประวัติศาสตร์ไทย คือ การเปลี่ยนแปลงของสังคม ค่านิยมและพฤติกรรมของคนไทย ร้อยละ 71.59 จึงควรนำเทคโนโลยีและสื่อโซเชียลมาช่วยเผยแพร่ เชื่อมโยงกับปัจจุบัน ร้อยละ 85.09
ผศ.ดร.สาระ มีผลกิจ โรงเรียนการท่องเที่ยวและบริการมหาวิทยาลัยสวนดุสิตจากการเสวนากลุ่มเรื่อง “ประวัติศาสตร์สร้าง Charisma” พบว่า “ประวัติศาสตร์” อุดมไปด้วยสหวิทยาการความรู้ ทำให้เรารู้มาก เข้าใจมาก อธิบายได้มาก จนทำให้เราเป็นคนรอบรู้ มีเสน่ห์ทางปัญญาและสามารถนำวัฒนธรรม มาปรับใช้ เช่น ม.สวนดุสิตมีวัฒนธรรมสวนดุสิต โดยเฉพาะการมีบุคลิกภาพที่ดีทั้งกายและจิตใจ เติมด้วยภูมิปัญญาทางสมอง ด้วยการมีวิธีคิดทางประวัติศาสตร์ พร้อมเป็นผู้มีความมั่นใจในตัวเอง จะทำให้เป็นคนมีเสน่ห์ด้วย “ประวัติศาสตร์” อ่านแล้วไม่ต้องเชื่อ…ต้องลองสนใจประวัติศาสตร์ เริ่มจากเรื่องใกล้ตัวแล้วจะเข้าใจ ทุกวันนี้คนรู้จักประวัติศาสตร์น้อยไป คิดสั้น ๆ เพียงแค่ว่าคือการท่องจำเรื่องเดิม ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ “น่าขบขันยิ่งนัก”
หากกล่าวถึงความมีเสน่ห์ของวิชา “ประวัติศาสตร์และโบราณคดี” จากมุมมองของคนที่ชื่นชอบและสนใจะแยกแยะได้ถูกต้องว่า วิธีของการศึกษาของศาสตร์ทั้งสองนั้นมีความแตกต่างกัน โดยประวัติศาสตร์จะค้นคว้าศึกษา “เอกสาร ตำรา” อย่างเป็นระบบระเบียบเทียบกับขั้นตอนวิทยาศาสตร์ ส่วนโบราณคดี คือ “การสำรวจขุดค้น” ตรวจสอบชั้นดินที่นำวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยและหลากหลายเข้าช่วยศึกษา แต่โดยรวมแล้วต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือ เพื่อทำความเข้าใจ “มนุษย์” เรื่องราวของสังคม วัฒนธรรมและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ตัวอย่างเช่น “งานลอยกระทง” ที่ผลการสำรวจของสวนดุสิตโพลพบว่า ประชาชนให้ความสนใจมากขึ้นถึงร้อยละ 51.54 ฉะนั้นหากเราย้อนอดีตได้มาก เราก็จะเข้าใจปัจจุบันและอนาคตได้ดีมากขึ้น เชื่อว่าใครได้เรียนสองศาสตร์นี้จะเพิ่มคาริสม่าอย่างแน่นอน
ผศ.ดร.ดวงกมล อัศวมาศ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่าสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง“วันลอยกระทงกับวัฒนธรรม ประเพณี และประวัติศาสตร์ไทย” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,424 คน (สำรวจทางออนไลน์) สำรวจระหว่างวันที่ 12-23 พฤศจิกายน 2566 พบว่า กลุ่มตัวอย่างพอมีความรู้บ้างเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของวันลอยกระทง ร้อยละ 69.03 โดยมองว่าวันลอยกระทงเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีไทยสู่สายตาชาวโลก ร้อยละ 95.35 และเห็นว่าประเพณี ลอยกระทงมีศักยภาพในการเป็น Soft Power ในระดับมาก ร้อยละ 70.72 เนื่องจากช่วยดึงดูดความสนใจ ทำให้ต่างชาติเห็นถึงประเพณี ศิลปะ ดนตรี อาหาร การแต่งกาย ร้อยละ 89.63 ทั้งนี้วันลอยกระทงทำให้ประชาชนสนใจเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณี และประวัติศาสตร์ไทยมากขึ้น ร้อยละ 51.54 ด้านปัญหาและอุปสรรคของการถ่ายทอดวัฒนธรรม ประเพณี และประวัติศาสตร์ไทย คือ การเปลี่ยนแปลงของสังคม ค่านิยมและพฤติกรรมของคนไทย ร้อยละ 71.59 จึงควรนำเทคโนโลยีและสื่อโซเชียลมาช่วยเผยแพร่ เชื่อมโยงกับปัจจุบัน ร้อยละ 85.09
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อิ๊งค์’ปลื้มผลโพลดันก้น โรมรุกทักษิณนอนชั้น14
รัฐบาลปลื้ม! ผลสำรวจดัชนีการเมืองไทยขยับขึ้นเกินครึ่งแล้ว ตัวชี้วัด 25 ประเด็นพุ่ง
เทศบาลนครเชียงใหม่ ยันพร้อมจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็ง ยิ่งใหญ่อลังการหลังน้ำท่วม
นายมนต์ชัย พงษ์เกียรติก้อง รองปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เทศบาลนครเชียงใหม่ได้เริ่มดำเนินการเตรียมความพร้อมและแผนการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ประจำปี 2567 แล้ว ซึ่งในปีนี้จะมีการจัดงานขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการไม่ลดความอลังการใดๆ โดยจัดภายใต้แนวคิด
ดุสิตโพล เผยภัยหลอกลวงออนไลน์ เป็นปัญหาใหญ่สุดอย่างให้เข้มงวดแก้ไข
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ภัยสังคมที่ประชาชนอยากให้เร่งแก้ไข” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,357 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม 2567
เปิดผลสำรวจกลุ่มเปราะบางรับเงินหมื่น พบเอามาต่อยอดลงทุนน้อย
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นต่อนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท ระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มเปราะบางผู้ได้รับเงินแล้ว จำนวน 845 คน