'เศรษฐา' หวังกระทรวงการต่างประเทศเป็นกระทรวงเกรดเอ!

นายกฯ หวัง กต.เป็นกระทรวงเกรดเอ ช่วยส่งเสริมบทบาทไทยในเวทีโลก กำชับทูตไทยทูตพาณิชย์ บีโอไอ ชูศักยภาพเศรษฐกิจไทยต่อนานาชาติ

23 พ.ย.2566 – ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอเรื่อง ประเทศเป้าหมายสำคัญสำหรับการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก ซึ่งงานดังกล่าวมีกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประกอบด้วย เอกอัครราชทูตไทย กงสุลใหญ่ไทย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และกระทรวงการต่างประเทศ โดยก่อนการประชุมนายกฯได้ร่วมถ่ายรูปกับเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ไทยจากทั่วโลกที่ได้เดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้

จากนั้นนายกฯ เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอ โดยมีนายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นผู้กล่าวรายงาน โดยผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ได้นำเสนอกลยุทธ์ 7C : Common Goal ประกอบด้วย Customer-centric, Co-creation, Cooperation, Connectivity, Care และCan do ขณะที่ผู้แทนจากบีโอไอได้นำเสนอยุทธศาสตร์ด้านการประสานงานกับต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมลงทุนในไทย

ทั้งนี้ นายกฯกล่าวตอนท้ายของงานว่า แม้การทำงานจะเจออุปสรรค แต่ถ้าเรามี Can Do Attitude และถ้าสามารถทำลายกำแพงได้ เชื่อว่าศักยภาพไทยจะได้นำมาเผยแพร่ในเวทีโลกอย่างแน่นอน รวมถึงอยากเห็นกระทรวงการต่างประเทศเป็นกระทรวงเกรดเอ ช่วยผลักดันและเอื้อให้การปฏิบัติหน้าที่ในเวทีโลกทำงานได้อย่างสมบูรณ์ และอยากให้มีคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำงานช่วยเสริมสร้างศักยภาพการทำงาน การประชุมและรับฟังการนำเสนอในการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์และฝ่ายส่งเสริมการลงทุน ช่วงเวลา 2 วันที่ผ่านมานี้ ทำให้มีความชัดเจนในนโยบายการทำงานร่วมมือกันในหลายภาคส่วน เพื่อนำศักยภาพของไทยไปสู่เวทีโลก ตนขอชื่นชมแนวทางการจัดประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่ประกอบเป็นทีมไทยแลนด์นี้ และขอฝากอนาคตของประเทศไทยไว้ในมือทุกคนด้วย

ด้านนางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานประชุมดังกล่าวได้มีการนำเสนอสิ่งจะนำไปขับเคลื่อนนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยได้กำหนดกลุ่มประเทศเป้าหมาย 10 ประเทศ ในการส่งเสริมการค้า โดยแบ่งประเทศเป้าหมายตลาดหลักได้แก่สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เยอรมนีและฝรั่งเศส ส่วนตลาดที่มีศักยภาพ คืออินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเกาหลีใต้ ตลาดศักยภาพใหม่ คือ ซาอุดิอาระเบียและแอฟริกาใต้ แต่ทั้งนี้ตลาดอื่นๆก็มีความสำคัญกับประเทศไทย เช่น ตลาดสหภาพยุโรป ตลาดแอฟริกา ตลาดภูมิภาคลาตินอเมริกา ซึ่งเราก็จะส่งเสริมต่อไปด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธีระชัย' ชำแหละกต.ก่อคำถามคาใจ ไม่บอกว่าถ้าเจรจาตาม MOU44 เสี่ยงเสียเกาะกูด 99%

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า

'มาริษ' เผยไทยพร้อมต่อยอดความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ หลังได้ประธานาธิบดีคนใหม่

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างไม่เป็นทางการ ภายหลังผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ 267 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ

'หม่อมกร' เห็นพ้อง 'ปานเทพ' ตอกย้ำ กต.แถลง MOU 44 ขัดกับพระบรมราชโองการโดยชัดแจ้ง

ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าวันนี้ปรากฎหัวข้อข่าวว่า“ปานเทพ ซัด กต.กล้าบังอาจแถลงข่าวตัดตอนพระบรมราชโองการ ร.9 ถามกรมสนธิสัญญาฯ ทำเพื่อประโยชน์รัฐบาลชาติใด”

'ธีระชัย' ท้า! ก.ต่างประเทศแจง กัมพูชายอมรับเกาะกูดเป็นของไทยแล้วลากเส้นผ่าทำไม

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้

เอาแน่! กต. แถลงยัน MOU44 ไม่ใช่ปีศาจร้าย 'ภูมิธรรม' จ่อประธานถกผลประโยชน์กับกัมพูชา

กต.ตั้งโต๊ะแถลงป้อง MOU44 บอกไม่ใช่ปีศาจร้าย ไม่ขัดพระบรมราชโองการประกาศไหล่ทวีป งัดสนธิสัญญากรุงสยาม-ฝรั่งเศส ระบุชัดเกาะกูดของไทย ส่วนเส้นกัมพูชาเคลม ไร้ผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศ รอคณะรัฐมนตรีตั้ง คกก.เทคนิค JTC “ภูมิธรรม” นั่งประธาน

'มาริษ' ร่อนหนังสือ​ประท้วงทางการอิสราเอล หลังแรงงานไทยเสียชีวิต 4 ราย

นายมาริษ​ เสงี่ยมพงษ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ​ กล่าวถึงเหตุยิงจรวดเข้าไปในเขตประเทศอิสราเอล และทำให้คนไทยเสียชีวิต 4 ราย แล