7 พ.ย.2566 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ 2 มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ซึ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อช่วยเหลือชาวนาในการดูดซับปริมาณข้าวออกจากตลาด แบ่งเป็น
1. สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี
2. สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม
โดยทั้ง 2 มาตรการมีวงเงินรวมกว่า 55,038.96 ล้านบาท แบ่งเป็น วงเงินสินเชื่อของ ธ.ก.ส. 44,437 ล้านบาท และวงเงินจ่ายขาด 10,601.96 ล้านบาท
นายชัย กล่าวว่า เหตุผลของการออกมาตรการมาช่วยเหลือชาวนาเป้นผลมาจากในขณะนี้ราคาข้าวเปลือก ยกเว้นข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาตลาดค่อนข้าวจะดี แต่ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิที่กำลังจะทยอยออกมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ทั้งภาคอีสาน และภาคเหนือ ประมาณ 9.5 ล้านตัน
โดยราคาข้าวเปลือกหอมมะลิราคาตลาดอยู่ประมาณตันละ 14,800 – 15,000 บาท ซึ่งเป็นข้าวเปลือกแห้งความชื้น 15% แต่สภาพความเป็นจริงเวลาชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวแล้วขายเลย จะมีความชื้นอยู่ที่ 25% มีราคาแค่ตันละ 12,000 – 12,300 บาท ซึ่ง ราคาตลาด ณ ขณะนี้ รับซื้ออยู่ที่ตันละ 11,000 บาทเท่านั้น ถือว่าต่ำกว่าราคาที่เป็นธรรมที่ควรจะได้
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงพาณิชย์ จึงได้จัดทำมาตรการมาแทรกแซงราคาด้วยการออก 2 มาตรการมาช่วยดูดซับปริมาณข้าว เพื่อดึงราคาข้าวให้ปรับเพิ่มขึ้นมา โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี
มีเป้าหมายดูดซับปริมาณข้าวออกสู่ตลาด 3 ล้านตัน โดยให้สถาบันเกษตรกร และ เกษตรกรที่มียุ้งฉางของตัวเองเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉาง 5 เดือน เพื่อรอการขาย ซึ่งรัฐบาลจะให้สินเชื่อโดยกำหนดปล่อยสินเชื่อในกลุ่มข้าวหอมมะลิ ตันละ 12,000 บาท ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 10,500 บาท ข้าวหอมมะลิปทุมธานี ตันละ 10,000 บาท ข้าวเจ้า ตันละ 9,000 บาท ข้าวเหนียว ตันละ 10,000 บาท
พร้อมทั้งช่วยค่าฝากอีก ตันละ 1,500 บาท (สหกรณ์รับตันละ 1,000 บาท+เกษตรกรรับตันละ 500 บาท) มีวงเงินสินเชื่อ 34,437 ล้านบาท และวงเงินจ่ายขาด 10,120.71 ล้านบาท กำหนดเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567
2. สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม
มีเป้าหมาย 1 ล้านตัน โดยให้สถาบันเกษตรกรรวบรวม รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา มีวงเงินกู้ 10,000 ล้านบาท และวงเงินชดเชยดอกเบี้ย 481.25 ล้านบาท โดยจะให้สหกรณ์จ่ายดอกเบี้ย 1% และ รัฐช่วยดอกเบี้ย 3.85% ระยะเวลา 15 เดือน ส่วนการชดเชยดอกเบี้ย ธ.ก.ส. 4.85% นั้น รัฐบาลจะช่วยรับภาระดอกเบี้ย 3.85% ส่วนสถาบันเกษตรกร รับภาระ 1% กำหนดเริ่ม 1 ตุลาคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2567
“มาตรการนี้ จะให้สถาบันเกษตรกรเข้าไปซื้อแข่งและแทรกแซงตลาด โดยซื้อในราคานำร่องข้าวเปลือกหอมมะลิ ในความชื้น 25% ราคาตันละ 12,200 บาท เมื่อขายได้แล้ว มีกำไรจะแบ่งชาวนาตันละ 300 บาท ซึ่งจะทำให้ชาวนาได้รับเงินรวมตันละ 12,500 บาท ซึ่งจะดีกว่าเดิมหากไม่ไปแทรกแซง เพราะจะทำให้ชาวนาได้เงินเพิ่มจากราคาตลาด อีก 1,500 บาท” นายชัย กล่าว
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการชะลอข้าวออกสู่ตลาดครั้งนี้ เบื้องต้นในฤกาลผลิต 2566/67 คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวออกสู่ตลาด 10 ล้านตัน ซึ่งการดูแลช่วยเหลือจะดำเนินการ ผ่านสหกรณ์และเกษตรที่มียุ้งฉาง และเกษตรกรโดยตรง คาดว่าจะสามารถดูดซับสภาพคล้องได้ 4 ล้านตัน ซึ่งจะมีผลกับราคาข้าวอย่างมีนัยสำคัญไม่ให้ราคาตกลงไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โฆษกรัฐบาล ยัน 'ศุภจี' ไม่ขาดคุณสมบัติ ไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่ทำหนังสือแจ้งเหตุแล้ว
"สิริพงศ์" ระบุ "ศุภจี" มีเหตุไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่แจ้งเหตุแล้ว ยันไม่ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งการเมือง วอนอย่าสร้างความสับสน ให้คนทำงานเสียกำลังใจ
ครม. อนุมัติหลักเกณฑ์เยียวยาผู้อพยพชายแดน 4.6 แสนครัวเรือน วงเงิน 2.3 พันล้าน
ครม. เห็นชอบหลักเกณฑ์จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยชายแดนเพิ่มเติม 2.3 พันล้าน จ่ายให้เสร็จภายใน 30 วัน
นายกฯ แจ้ง ครม. ประชุม GBC พรุ่งนี้ ยังไม่ชัดจะจบหรือไม่ ย้ำกัมพูชาต้องขอโทษไทย
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้กล่าวในที่ประชุมแสดงความห่วงใยต่อ
รัฐบาลขออภัย 'คนละครึ่งพลัส' ไม่ได้ไปต่อ ซัดเพื่อไทยล้มเหลว 'แจกเงินหมื่น' แต่ไม่ยอมรับผิด
รัฐบาลกราบขออภัย "คนละครึ่งพลัส" ไม่ได้ไปต่อ โต้ พท.กล่าวหารัฐบาลเสียงข้างน้อยตีตกเงินหมื่น จวก เป็นความล้มเหลวปฏิบัติหน้าที่รัฐบาลในอดีต
ธกส. ช่วยคนชายแดน ยกหนี้กรณีเสียชีวิต ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
ธกส. ออกมาตรการช่วยลูกค้าได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ยกหนี้กรณีลูกหนี้เสียชีวิตหรือสาบสูญ พร้อมปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 2 หมื่นบาท
'ยศชนัน' ลงจากหอคอยพบชาวนา ชูเทคโนโลยีแก้น้ำทั้งระบบ
“ยศชนัน-จุลพันธ์” นำเพื่อไทยยกทัพลุยอยุธยา รับฟังปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก-ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ชูแก้น้ำท่วมทั้งระบบ ระบายน้ำเป็นธรรม ใช้ข้อมูลจริง-เทคโนโลยี-วิศวกรรม วางแผนป้องกัน-เยียวยาครบวงจร

