รัฐบาลมั่นใจช่วย 162 คนไทยในเล้าก์ก่าย กลับบ้านปลอดภัย เหตุสู้รบดุเดือดโกก้าง-ทหารพม่า

โฆษกรัฐบาลเปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในเมียนมา รัฐบาลหารือทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการช่วยเหลืออพยพคนไทยกลับบ้านอย่างปลอดภัย

6 พ.ย.2566 - นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่าย(Laukkaing) ของเมียนมา ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังคงติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในเมืองเล้าก์ก่าย(Laukkaing) ของเมียนมาอย่างต่อเนื่อง และกำชับให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานความมั่นคงประสานงานกับทางการเมียนมาอย่างใกล้ชิด

โดยวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางไปยังเมียนมา พร้อมด้วยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อหารือกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ถึงการเตรียมการนำตัวคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่ายกลับประเทศ โดยยืนยันว่า คนไทยจำนวน 162 คน ยังปลอดภัยดี และอยู่ในพื้นที่ของกองทัพเมียนมาในเมืองเล้าก์ก่ายแล้ว และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง กำลังประสานงานร่วมกับ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง รัฐบาลเมียนมา และสถานเอกอัครราชทูตจีนในเมียนมา ช่วยเหลือคนไทยอีกบางส่วนที่ยังตกค้างออกจากพื้นที่ทั้งหมด และได้วางกระบวนการส่งตัวทุกคนให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ดี ด้วยสถานการณ์ที่มีการสู้รบกัน จึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้มีการประสานการทำงานกับทางการเมียนมาในการช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่นับตั้งแต่ก่อนมีการสู้รบกันในเมืองเล้าก์ก่ายแล้ว และหลังจากการสู้รบเกิดขึ้นได้มีการเร่งรัดการทำงานช่วยเหลือคนไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับประกันความปลอดภัยของคนไทยทั้งหมด รวมถึงมีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือการนำคนไทยออกมายังพื้นที่ปลอดภัยให้เร็วที่สุด สำหรับขั้นตอนต่อไปในการเดินทางกลับประเทศจะมีการเร่งรัดวางแนวทางและกระบวนการส่งตัวกลับประเทศไทยกับทั้งทางการเมียนมาและจีน ซึ่งต้องอาศัยการบูรณาการร่วมกันทั้งหมด รวมถึงยังไม่สามารถเปิดเผยแผนการทั้งหมดได้ เพราะมีเรื่องความมั่นคงและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย

“นายกรัฐมนตรีสั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินมาตรการอย่างใกล้ชิดในการช่วยเหลือคนไทย โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์จะทำการคัดแยกและยืนยันตัวบุคคล รวมถึงดำเนินคดีกับผู้ที่หลอกลวงคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายในเมียนมา เชื่อว่าจะใช้ระยะเวลาอีกไม่นานที่จะสามารถเคลื่อนย้ายคนไทยทั้งหมดออกจากพื้นที่ได้ จึงขอให้พี่น้องคนไทยไว้วางใจรัฐบาล และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะดูแลคนไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งตอนนี้ คนไทยจำนวน 162 คน ได้รับการดูแลความเป็นอยู่จากรัฐบาลโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง แล้ว” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เผยความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในเมืองเล้าก์ก่าย ย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา กลับประเทศไทยว่า ได้เดินทางไปยังเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เพื่อหารือกับทางการเมียนมาในการนำตัวคนไทยกลับประเทศ จากนั้นจะไปค่ายกักกันเพื่อทำการคัดแยกคนไทยทั้ง 164 คน โดยเบื้องต้นในกลุ่มทั้งหมด มีบางคนที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ และบางคนที่อาจเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์รอง ผบ.ตร. บอกอีกว่า แนวทางการช่วยเหลือคนไทย 164 คน ที่ถูกคุมตัวในเมียนมา ที่เมืองเล้าก์ก่าย กลับประเทศไทยนั้น ขณะนี้ได้พูดคุยหารือด้วยวาจากับทางการเมียนมาและจีนแล้ว โดยเบื้องต้น พบว่าสถานการณ์ในพื้นที่ยังมีความเสี่ยง อาจต้องเคลื่อนย้ายอพยพคนไทยทั้ง 164 คนไปที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน ก่อน เพื่อให้คล่องตัวต่อการเคลื่อนย้าย จากนั้นจึงจะนำเครื่องบินไปรับกลับประเทศไทยตามขั้นตอนต่อไป 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่นทันที! นายกฯมาเอง ลงพื้นที่ห้วยขวาง สั่งสอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สน.ห้วยขวาง ติดตามสอบถามข้องเท็จถึงกรณีที่พบมีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายหนังสือเดินทางและพาสปอร์ตที่แยกห้วยขวาง พบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง

'บิ๊กต่อ' สั่งนครบาลสอบด่วน! ป้ายซื้อขายพาสปอร์ต ผิดจริงฟันแน่

'ผบ.ตร.' สั่งตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณาภาษาจีน รับทำหนังสือเดินทาง-ขอสัญชาติต่างๆ กำชับ สตม. ตรวจสอบ คัดกรองคนต่างด้าว เจอกระทำผิดฟันตามกฎหมายทุกมิติ

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 5 อัปเดตเส้นทางพายุโซนร้อน 'พระพิรุณ'

นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “พระพิรุณ” ฉบับที่ 5 (145/2567) โดยมีใจความว่า

กรมอุตุฯ ประกาศฉ.4 พายุพระพิรุณขึ้นฝั่งจีนตอนใต้ 21-23 ก.ค. ไม่ส่งผลกระทบไทย

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ