‘พีระพันธุ์’ ย้ำต้องเดินหน้า รื้อโครงสร้างพลังงานใหม่ให้นิ่ง ป้องเต้นตามกระแส-ปัจจัยอื่น ส่งผลต่อราคาน้ำมันสูงขึ้น
3 พ.ย. 2566 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ลง 2.50 บาทต่อลิตร มีการประเมินถึงผลกระทบอย่างไร หากใช้กลไกนี้ ว่า ถ้ามี ก็คงทำไม่ได้ หากสถานการณ์โลกทำให้ราคาน้ำมันขึ้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเคยกล่าวไปแล้วว่า มาตรการต่างๆ เหล่านี้ เป็นมาตรการระยะสั้น
“ผมคิดว่าต้องศึกษาปรับโครงสร้างแบบใหม่ ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาว่า เวลาราคาน้ำมันโลกลดลง หรือเกิดสถานการณ์ต่างๆ เราต้องเต้นตามกระแส เราควรหาทางทำให้ราคาพลังงานในประเทศนิ่งให้ได้ และทำให้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกลดลง เพราะฉะนั้น การจะทำตรงนี้ได้ ต้องปรับปรุงกฎหมาย และรูปแบบการทำงาน หรือการกำหนดวิธีการดูแลระดับราคาพลังงานให้เป็นรูปแบบใหม่ ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน” นายพีระพันธุ์ ระบุ
เมื่อถามว่า หากการสู้รบในต่างประเทศยืดยาว อาจมีผลกระทบเรื่องพลังงาน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ถ้ามีปัญหาแบบนี้ กระทบทั่วโลกอยู่แล้ว แต่คิดว่าทุกประเทศก็ต้องคิดว่า เมื่อเจอปัญหาแบบนี้ จะดูแล และป้องกันตนเองอย่างไร ซึ่งประเทศไทยก็หนีไม่พ้น เราต้องมานั่งคิดว่า ควรทำอย่างไร เมื่อเกิดเหตุต่างๆ เพื่อกำกับดูแลราคาพลังงานให้อยู่ในหลักที่ประชาชนไม่เดือดร้อน ไม่ใช่ปล่อยนิ่งให้อยู่แบบที่เป็นมา ไม่งั้นเราจะเจอผลกระทบอีกแบบหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ตนกำลังศึกษารูปแบบต่างๆ เพื่อจะดำเนินการให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ในส่วนแนวทางมีอยู่ ตนยังพูดไม่ได้ เนื่องจากยังไม่สรุปว่าจะเป็นแบบไหน หากพูดไปก่อนอาจทำให้ข้อมูลสับสน เอาเป็นว่าตอนนี้เรากำลังหาวิธีการใหม่ในการรักษาระดับราคาพลังงานไม่ให้กระทบปัจจัยภายนอก.