28 ต.ค.2566 - ที่สวนสาธารณะหนองน้ำครก อ.ภูเพียง จ.น่าน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงาน “แสงนำใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 9 เฉลิมพระเกียรติ” สนามจังหวัดน่าน โดยมี แพทย์หญิงนวลสกุล บำรุงพงษ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน คณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์วรินทร์เทพ เชื้อสำราญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน นายแพทย์วสันต์ แก้ววี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ประชาชน บุคลากรภาครัฐ เอกชน อาสาสมัครสาธารณสุข และภาคีเครือข่าย ร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า โครงการ “แสงนำใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ” ปีนี้เป็นครั้งที่ 9 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "คนรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนไทยไร้สโตรค (NO STROKE for all Thais by NEW GEN)” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงเป็นดั่งแสงนำใจ และทรงเป็นแบบอย่างในการรักษาสุขภาพและการออกกำลังกาย ตลอดจนเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง และตอกย้ำความสำคัญของการออกกำลังกายป้องกันโรค ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายการรักษาและลดภาระปัญหาโรคเรื้อรัง โดยมี 4 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมอง กิจกรรมออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต และ กิจกรรมคนรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนไทยไร้สโตรค เนื่องจากคนรุ่นใหม่จะเป็นพลังสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในระดับครอบครัว ชุมชน สังคม ซึ่งจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ไร้สโตรคต่อไป
“ประเทศไทย พบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 1,880 คนต่อประชากรแสนคน เฉพาะจังหวัดน่าน พบผู้ป่วยรายใหม่มากกว่าปีละ 700 ราย ซึ่งโรคนี้เป็นสาเหตุสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้เกิดการเสียชีวิต นอกเหนือจากอุบัติเหตุและโรคมะเร็ง และยังมีอัตราความพิการสูง เกิดปัญหาเรื่องความจำเสื่อมในภายหลัง แต่ก็สามารถป้องกันได้ หากมีความรู้ด้านการป้องกันหรือรักษาอย่างถูกวิธี และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค โดยหนึ่งในวิธีป้องกันโรคที่สำคัญ คือ การออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น การเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน” นพ.ชลน่าน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอกชนแนะ สร้าง Ecosystem ด้านสุขภาพ เพื่อเป็นศูนย์กลาง Medical Hub ของอาเซียน
ประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ผ่านการพัฒนา Ecosystem ด้านสุขภาพที่ครบวงจร ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมเศรษฐกิจ แต่ยังยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ