'ศรีริต้า' ขอบคุณศาลให้ความยุติธรรม สั่งจำคุก 12 เดือน มือตัดต่อคลิปอนาจาร

25 ต.ค.2566 - ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ น.ส.ศรีริต้า เจนเซ่นณรงค์เดช นักเเสดงชื่อดังยื่นฟ้องกรณีมีบุคคลนำคลิปวิดีโอที่ถูกตัดต่อเชิงอนาจารเผยแพร่ในสื่อออนไลน์อย่างแพร่หลาย เป็นเหตุให้ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2564 โดยวันนี้ น.ส.ศรีริต้าพร้อมด้วยนายกรณ์ ณรงค์เดช สามี และน.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายนิด้า เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา หลังดำเนินคดีมา 2 ปี 3 เดือน 18 วัน

น.ส.ศรันยา กล่าวว่า สำหรับคำพิพากษาของศาลในวันนี้ ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดลหุโทษ ศาลพิพากษาว่าพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(4)(5) ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท , ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท , ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 ลงโทษปรับ 1,000 บาท รวมโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 121,000 บาท ทั้งนี้จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 12 เดือน และปรับ 60,500 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี เนื่องจากจำเลยไม่เคยกระทำความผิดและจำเลยยังได้วางเงินชดใช้ค่าเสียหายก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา โดยให้รายงานตัวพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้งใน1 ปี ทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง และให้จำเลยลบ ทำลาย ข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ ให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 15 วัน และโฆษณาคำขออภัยผ่านทางเฟซบุ๊กของโจทก์เป็นเวลา 30 วัน พร้อมกับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 100,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย

ทั้งนี้คู่กรณีมีจำนวน 1 คน และเป็นการส่งต่อข้อมูลและ สื่อลามกอนาจาร โดยคู่กรณีไม่ได้เป็นคนตัดต่อคลิปขึ้นมาเองซึ่งหากใครติดตาม น.ส.ศรีริต้า จะทราบว่าน.ส.ศรีริต้ามีประเด็นเรื่องนี้มานาน และถูกกล่าวหาว่าไปปรากฏอยู่ในคลิปลามกอนาจาร ทั้ง ๆ ที่มีการออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่จำเลยก็ยังมีการส่งต่อก็ยังถือว่าเป็นความผิดเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ตนเองได้พูดคุยกับคู่กรณีถึงสาเหตุที่ทำ ซึ่งทางคู่กรณีก็ตอบว่าไม่ได้ตั้งใจทำไปด้วยความคึกคะนอง ซึ่งวันนี้พอได้รับหมายศาลก็สลดกันทุกคน ตนเองอยากให้ คนที่ทำแบบนี้ตระหนักได้แล้ว อย่างวันนี้ที่ผู้เสียหายต้องมาศาลก็ต้องเสียทั้งเวลาทั้งเงิน แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ

ด้าน น.ส.ศรีริต้า เจนเซ่น กล่าวว่า วันนี้ตนเองต้องขอขอบคุณผู้พิพากษามาก ๆ และขอบคุณทนายนิดาที่วันนี้ตนเองได้รับความเป็นธรรม ยอมรับว่าตนเองลำบากใจเพราะไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน และไม่ได้ทำด้วยความโกรธแค้น แต่ตนเองไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องดังกล่าวได้ ตนเองเลยตัดสินใจดำเนินคดี เพื่อปกป้องชื่อเสียงศักดิ์ศรีของตัวเองปกป้องครอบครัว โดยเฉพาะลูก ตนเองไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงที่เข้ามาบั่นทอนชีวิตของตนเองและชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และตนเองอยากให้เรื่องนี้เป็นกรณีตัวอย่าง เป็นบทเรียนว่าการกระทำแบบนี้สามารถเข้าไปทำลายชีวิตคนอื่นได้จริงๆ อยากให้คิดก่อนทำ ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจหรือด้วยความคึกคะนองอะไรก็ตาม อยากให้ฉุกคิดว่ามันจะไปสร้างผลกระทบต่อชีวิตคนอื่น และทำลายชีวิตใครหลาย ๆ คนตามที่เราเห็นข่าวทุกวันนี้จากอาชญากรรมไซเบอร์ ที่ทำลายทั้งชื่อเสียงและทรัพย์สินอย่างตนเองเป็นต้น เรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นตนเองเลยอยากให้สังคมรู้ว่าบ้านเมืองมีกฎหมายมีศาล จึงยิ่งทำให้ตนเองไม่สามารถเพิกเฉยกับเรื่องดังกล่าวได้จริงๆ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนตัดต่อ แต่วันนี้รู้ว่าใครเป็นคนแชร์คลิป ทั้งทั้งที่ปฏิเสธแล้วว่าไม่ใช่ตนเองแต่ก็ยังแชร์อยู่

ทั้งนี้ตนเองได้เจอคู่กรณีในศาล และตนเองก็บอกแต่วันแรกแล้วว่าเรื่องเงินไม่ใช่ประเด็น เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ตนเองจะนำไปทำบุญทั้งหมด ตนเองเพียงแค่อยากให้คู่กรณีได้รับบทเรียนจากการกระทำ และตลอดระยะเวลา 2 ปีเรื่องนี้ติดในใจตนเองอยู่ตลอด ตนเองทำงานตั้งแต่อายุ 13 ปี ทำงานด้วยความทุ่มเท และอยู่ดี ๆ ก็มีคลิปตัดต่ออนาจารเป็นตนเอง มันบั่นทอนจิตใจเราเป็นอย่างมาก มากกว่าที่ใครหลายคนจะเข้าใจ ได้ โดยเฉพาะวันนี้ตนเองมีลูกไม่อยากให้ลูกโตมาแล้วเกิดคำถาม ตนเองเลยอยากให้มันชัดเจนตั้งแต่วันนี้ว่ามันไม่ใช่เรา ทั้งนี้ยอมรับว่าเรื่องนี้ทำให้ตนเองเสียโอกาสเสียชื่อเสียงสร้างความเดือดร้อน สุดท้ายนี้ตนเองอยากฝากไปถึงคนที่ทำแบบนี้ว่าทุกอย่างมันมีผลกระทบ และยอมรับว่าเรื่องนี้มีผลกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างมาก

ด้าน นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเองดีใจกับภรรยาและขอบคุณกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกข์ใจหนักใจมาโดยตลอด หากหลายคนจำได้ตอนที่เกิดเรื่องดังกล่าวเป็นตอนที่ภรรยากำลังตั้งท้องซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจอย่างรุนแรง และและตลอดระยะเวลาที่อยู่ในวงการวางตัวดีมา โดยตลอดไม่เคยมีข่าวเสื่อมเสียใด ๆ วันนี้จะได้เคลียร์ให้ชัดว่าผู้หญิงที่อยู่ในคลิปเป็นการตัดต่อไม่ใช่ภรรยา และถือว่าได้เคลียร์ชื่อเสียง 100% เปอร์เซ็นต์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

RML เพิ่มทุน 3,588 ล้านบาทหนุนขยายฐานธุรกิจ 

ไรมอนแลนด์ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน 3,588 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 4,172 ล้านบาท เป็น 7,760 ล้านบาท รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มผลกำไรอย่างต่อเนื่อง

นางฟ้าแสนสวย 'ศรีริต้า' มอบเงินครึ่งล้านให้ UNHCR

นางฟ้าลาเวนเดอร์ "ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช" ภรรยาคนสวยของทายาทหมื่นล้าน "กรณ์ ณรงค์เดช" ยังเดินช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในฐานะสมาชิกกิตติมศักดิ์กองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่เพื่อผู้ลี้ภัยของ UNHCR ได้มอบเงินการจัดกิจกรรมทั้งปีเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท แก่ UNHCR

'ศรีริต้า-กรณ์' ควงคู่ทอดกฐินพระราชทาน

นางฟ้าคนสวย ศรีริต้า เจนเซ่น ควงแขนสามี กรณ์ ณรงค์เดช ร่วมด้วย กัลยาณมิตร พร้อมคณะเจ้าภาพ ร่วมทอดกฐินพระราชทาน ณ วัดเทพนิมิตต์ แขวงดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

'ริต้า' ส่งต่อความรักผ่านกุหลาบขาวให้คนที่ผ่านไป-มา

คุณแม่คนสวย ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช เเบ่งปันความรักต่อผู้อื่น เอาดอกไม้ช่อใหญ่ที่สามี กรณ์ ณรงค์เดช ทำเซอร์ไพรส์ในวันครบรอบเป็นแฟน 6 ปี มาส่งต่อความรัก ให้คนได้หยิบกลับบ้านกัน

'กรณ์- ริต้า' คู่รักสายบุญ มอบทุนการศึกษาเด็กๆ

ครอบครัวสายบุญ กรณ์ ณรงค์เดช ควงภรรยานางเอกสาว ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช ไปทำบุญมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์การกีฬา และข้าวสาร 1,260 กิโลกรัม ณ โรงเรียนวัดแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

'ศรีริต้า-กรณ์' วางแผนสุขภาพ เก็บสเต็มเซลล์ลูกชาย 'น้องกวินท์'

เป็นครอบครัวที่น่ารักนมากๆ สำหรับ “ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช” และ “กรณ์ ณรงค์เดช” หลังจากแต่งงานใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาจนมีลูกชาย อย่าง “น้องกวินท์ อัศวิน” มาเป็นโซ่ทองคล้องใจและเติมเต็มความสุขให้ครอบครัว ล่าสุดทั้งคู่ได้มีการจัดเก็บสเต็มเซลล์ให้ลูกด้วย