รัฐบาล โชว์ผลงานค้ำประกันสินเชื่อช่วยSMEs เข้าถึงแหล่งทุน 2.4 แสนล้าน รักษาระดับจ้างงาน กว่า2 ล้านตำแหน่ง จ้างงานใหม่ 4.43 แสนคน
17 ธ.ค.2564 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนมาตรการรัฐช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งทุน เพื่อพยุงกิจการให้เดินหน้าต่อ สามารถก้าวข้ามปัญหาสภาพคล่องในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) หน่วยงานของรัฐที่มีบทบาทการ “ค้ำประกันสินเชื่อ” ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และคาดว่า ณ สิ้นสุดปี 2564 จะมียอดค้ำประกันสินเชื่อมากกว่า 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่สร้างสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้ง บสย. ก่อให้เกิดการจ้างงาน 2.65 ล้านคน แบ่งเป็นการรักษาการจ้างงาน 2.12 ล้านคน และ การจ้างงานใหม่ 4.43 แสนคน
รองโฆษกฯ กล่าวว่า ตัวเลข ณ 13 ธ.ค. 2564 มียอดอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ 2.34 แสนล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการ SMEs 2 แสนกว่าราย ประกอบด้วยโครงการที่โดดเด่น 3 โครงการได้แก่ 1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อตาม พ.ร.ก. สินเชื่อฟื้นฟู 2.โครงการ PGS-9 วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ และ 3. โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Micro 4 มีรายละเอียด คือ 1. โครงการค้ำประกันสินเชื่อ ตาม พ.ร.ก.สินเชื่อฟื้นฟู เฟส 1-2 คิดเป็นสัดส่วน 53.2% ยอดอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ 124,912 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 36,776 ราย เกิดสินเชื่อจากการค้ำประกัน 127,310 ล้านบาท วงเงินค้ำประกันสินเชื่อเฉลี่ยต่อราย 3.17 ล้านบาทต่อฉบับ ทั้งนี้เกิดการจ้างงานรวม 1,206,367 ราย เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ รวม 515,885 ล้านบาท ธุรกิจที่มีการค้ำประกันสินเชื่อสูงสุดภายใต้ โครงการ 3 ลำดับ ได้แก่ 1. ธุรกิจบริการ 28% 2.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 10% 3. ธุรกิจยานยนต์ 9%
รองโฆษกฯกล่าวว่า 2. โครงการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. คิดเป็นสัดส่วน 46.8% ประกอบด้วยโครงการ PGS-9 โครงการไมโคร4 และโครงการอื่นๆ ยอดอนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อกว่า 110,080 ล้านบาท อนุมัติ LG 184,724 ฉบับ จำนวนลูกค้า 176,525 รายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อเฉลี่ยต่อราย 0.60 ล้านบาทต่อฉบับ เกิดสินเชื่อจากการค้ำประกัน 122,038 ล้านบาท เกิดการจ้างงานรวม 1,320,732 ราย เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 454,634 ล้านบาท ธุรกิจที่มีการค้ำประกันสินเชื่อสูงสุด ได้แก่ 1. ธุรกิจบริการ 29% 2.ธุรกิจการผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆ 16% 3. เกษตรกรรม 10%
นางสาวรัชดา กล่าวว่า บสย.เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงสินเชื่อผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาล เป็นการสร้างความมั่นใจให้ธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยกู้ ช่วยให้ภาคธุรกิจไม่ขาดสภาพคล่องและสามารถประคับประคองตัวเองต่อไปได้ สำหรับ SMEs ที่ขณะนี้มีปัญหาเรื่องการเงิน สามารถขอรับคำปรึกษา ได้จาก บสย.F.A. Center ซึ่งพร้อมให้คำปรึกษาทางการเงิน การปรับโครงสร้างหนี้ การพัฒนาธุรกิจ แก่ผู้ประกอบการ SMEs ทุกราย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขุดคำพูด 'เผ่าภูมิ' โจมตีคนละครึ่ง ตอนนี้เป็นรมต.แล้ว คงได้บทเรียนอย่าพูดแต่เอามัน
กรณีรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจโดยฟื้นโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่งนั้น
เตือนทูต 18 ประเทศ อย่าแทรกแซงศาลไทย คดี 'ยุบก้าวไกล'
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของทูต 18 ประเทศ ต่อการพิจารณาคดีพรรคก้าวไกลของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 ส.ค.นี้
'รัชดา' แนะเพื่อไทยอ่านบทความ IMF จะได้ไม่เขลาเรื่องอิสระของแบงค์ชาติ
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก อดีตส.ส.กทม พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองโฆษกรัฐบาล โพสต์เฟซบุ๊คชวนพรรคเพื่อไทยอ่านบทความจาก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
'รัชดา' ทักนายก เพ้อเจ้อ! ตั้งเป้าขายทุเรียน 1 ล้านล้าน
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก อดีตรองโฆษกรัฐบาล และอดีต ส.ส พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัววิจารณ์นายก กับเป้าหมายทุเรียน 1ล้านล้านบาท ในสิบปี