'ปานปรีย์' เผยมีสัญญาณบวกช่วยตัวประกัน ประสานผู้นำตะวันออกกลางช่วยเจรจา

“ปานปรีย์” ระบุมีสัญญาณบวกช่วยตัวประกันไทย เผยดีลผู้นำตะวันออกกลางช่วยเจรจาอยู่ เดินหน้าประสานสายการบินในพื้นที่อิสราเอล-ตะวันออกกลางเพิ่ม นำแรงงานไทยกลับจนครบ

16 ต.ค.2566 - เมื่อเวลา 12.35 น. ที่อาคารรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ และความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล ว่าเมื่อช่วงเช้ามีแรงงานไทยเดินทางกลับมาจำนวนหนึ่ง และในช่วงเย็นวันนี้จะมีมาเพิ่มเติม โดยเวลา 19.30 น. จะกลับมาอีก 250 คน และไม่ปรากฏตัวอีก 6 คน จะเหลือ 244 คน ในจำนวนนี้คาดว่าจะมีนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยนราธิวาส 30 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร 3 คน ส่วนที่เหลือที่มาศึกษาอยู่ไม่แสดงความจำนงที่จะกลับ ในเรื่องนี้เข้าใจว่าผู้ปกครองของนักศึกษามีความเป็นห่วง ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอลกำลังดำเนินการที่จะให้นักศึกษาเดินทางกลับมาก่อนเพื่อความปลอดภัย ขณะนี้ใครที่แสดงความจำนงกลับมาก่อนสถานทูตก็จะพร้อมนำส่งกลับไปทันที โดยมีทั้งหมด 32 เที่ยวบิน คาดว่าไม่ต่ำกว่า 5,600 คน ส่วนที่เหลือกำลังประสานอยู่ให้กลับมาโดยเร็วที่สุด

เมื่อถามถึง 6 คน ที่แสดงความจำนงจะกลับ แต่หาตัวไม่พบเกิดจากสาเหตุใด ปานปรีย์ กล่าวว่า มีการลงชื่อไว้แล้วแต่ไม่มา กำลังติดตามตัวอยู่ว่ามีสาเหตุใดถึงไม่มา และเครื่องบินไม่สามารถรอได้ แต่ไม่เป็นไรหากจะกลับมาก็ยังมีเที่ยวบินอยู่ ยืนยันว่าไม่น่าจะมีปัญหา น่าจะปลอดภัย ส่วนเรื่องการขยายเที่ยวบินเพิ่มอีก เนื่องจากว่ามีผู้ประสงค์ที่จะขอกลับมาเกือบ 7,500 คนแล้ว โดยตามแผนสามารถที่จะนำคนไทยกลับมาได้เกือบ 6,000 คนแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 1,000 คนนั้น ขณะนี้กำลังประสานงานกับสายการบิน ที่อยู่ในพื้นที่อิสราเอล และตะวันออกกลาง โดยจะนำกลับมาเพิ่มขึ้นโดยเร็วที่สุด

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข้อสงสัยเรื่องเที่ยวบินของไทยบินอ้อมหลายประเทศ นายปานปรีย์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือจะทำอย่างไรให้แรงงานไทย หรือนักศึกษา สามารถเดินทางกลับมาได้ เรื่องการบินผ่านน่านฟ้าเงื่อนไขของแต่ละสายการบินก็มีความแตกต่างกัน เช่น สายการบินของกองทัพอากาศจะต้องบินอ้อมไปบ้าง แต่หากเป็นสายการบินพาณิชย์ที่อยู่ในพื้นที่จะสามารถบินตรงได้เลย ส่วนเครื่องบินที่บินจากประเทศไทยไปถ้าเราไม่เคยบินผ่านมาก่อนก็ต้องไปทำข้อตกลงกันใหม่ เรื่องนี้อยากให้สื่อมวลชนและประชาชนเข้าใจ ที่จะทำให้คนไทยว่าทำอย่างไรก็ได้ให้คนไทยกลับสู่ประเทศไทยอย่างปลอดภัยและเร็วที่สุด ถึงแม้จะใช้เวลาเพิ่มไปอีก 1-2 ชั่วโมงก็ตามที

เมื่อถามถึงเรื่องตัวประกันที่เป็นคนไทยซึ่งถูกจับอยู่ในอิสราเอล มีสัญญาณบวกหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า มีสัญญาณบวก แต่ยังไม่แถลงถึงความชัดเจนและประสานงานทุกฝ่าย อาจจะไม่ได้บอกถึงรายละเอียดว่าประสานประเทศไหนบ้าง แต่ยืนยันเราประสานทั้งสองฝ่าย คือฝ่ายอิสราเอล เพราะเขาต้องมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับคนของเรา ส่วนประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางที่มีความสนิทสนมและคุ้นเคยกับทางปาเลสไตน์และกลุ่มฮามาสนั้น เราก็ประสานกับเขาด้วย

“ล่าสุดเขาได้ส่งข่าวมาว่าแนวโน้มในการปล่อยตัวประกันมีสูงมาก ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ต้องใช้เวลา ในภาวะสงครามแบบนี้ จำนวนคนที่จะพิสูจน์อัตลักษณ์ก็จะต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร อย่างไรก็ตาม พยายามเร่งทางการอิสราเอล โดยขอให้เร่งทำในส่วนของประเทศไทยก่อน เพราะเราได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่น ซึ่งทางการอิสราเอลรับปากแล้วว่าจะเร่งให้”

นายปานปรีย์ ยังเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตเช้าวันนี้ว่า พบคนไทยเสียชีวิต 29 คน บาดเจ็บ 16 ราย ถูกจับเป็นตัวประกัน 17 ราย ยืนยันว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมง ซึ่งน่าเห็นใจที่สุดคือ คนที่อยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะเอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่ที่ส่งไปเพิ่ม ภายใต้ความกดดันที่มีมาก และอยู่ภายใต้ความเสี่ยง ดังนั้น จึงขอส่งกำลังใจไปให้เจ้าหน้าที่บ้าง เราจะทำให้ดีที่สุด และนำคนไทยกลับมาสู่ที่ปลอดภัยโดยเร็ว

เมื่อถามว่า มีแรงงานที่อยากเดินทางกลับประเทศไทยแต่ติดปัญหาเรื่องนายจ้างยึดพาสปอร์ตไว้ จึงไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ นายปานปรีย์ กล่าวว่า นายกฯสั่งการไปแล้วว่าขั้นตอนเรื่องเอกสารให้ผ่านไปเลย ในเวลานี้กระทรวงการต่างประเทศได้ตั้งระบบให้สามารถออกพาสปอร์ตให้คนไทยได้เลยทันทีโดยไม่ต้องสนใจว่าคนนั้นรายนั้นเขาจะเคยมีบัตรประชาชนพาสปอร์ตของตัวเองหรือไม่ เพื่อให้สามารถกลับประเทศไทยได้โดยเร็ว

เมื่อถามว่า มีแรงงานไทยบางส่วนประสงค์ที่จะอยู่ต่อและทำงานภายใต้ภาวะสงคราม ทางกระทรวงการต่างประเทศจะประสานช่วยเหลือพูดคุยกับนายจ้างแรงงานไทยกลุ่มนี้อย่างไร นายปานปรีย์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้สถานทูตไทยในอิสราเอลมีข้อมูลทั้งหมดอยู่แล้ว มีการติดต่อประสานงานกันอย่างใกล้ชิด หากนายจ้างไม่ยอมให้ออกมา ตนก็คิดว่าเป็นเรื่องบังคับไม่ได้ เป็นเรื่องของชีวิต เรื่องอื่นเป็นเรื่องทีหลัง แต่ถ้าแรงงานประสงค์จะกลับเราพร้อมดำเนินการทันที

นายปานปรีย์ กล่าวว่า เราต้องการให้ยุติสงครามตั้งแต่ตอนนี้เลย ได้คุยกับผู้ใหญ่ในประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งกำลังประสานงานและขับเคลื่อนต่างๆ โดยข้อแรกขอให้มีการหยุดยิงก่อนและให้มีการเจรจา เพราะเขาเป็นห่วง ถึงแม้จะเป็นภูมิภาคเดียวกับอิสราเอลและปาเลสไตน์ แต่ทุกประเทศภูมิภาคต่างเร่งรัดและพยายามให้เกิดความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในอิสราเอล และในฉนวนกาซ่าโดยเร็วที่สุด

รมว.ต่างประเทศ ยังกล่าวถึงสถานเอกอัครราชทูตไทยในฝรั่งเศสได้มีการประกาศแจ้งเตือนให้คนไทยที่อยู่ในฝรั่งเศสและนักท่องเที่ยวระมัดระวังตัวเพราะมีข้อมูลว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยจากกรณีผลกระทบจากการสู้รบในอิสราเอลว่า ทุกสถานทูตกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งไปยังทุกสถานทูต ขอให้คนไทยในทุกประเทศระมัดระวังตัว แม้จะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก็ตาม รวมถึงจะไม่มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวไทยในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งต่อให้ไม่มีสถานการณ์นี้คนไทยเองต้องระมัดระวังตัวกัน อาจจะมีคนที่ไม่ประสงค์ดีเข้ามาทำร้าย โดยคาดว่าเป็นประเทศในแถบยุโรป คนไทยที่จะเดินและมั่นใจว่าไม่มีผลกระทบต่อคนไทยที่จะไปท่องเที่ยวในแถบยุโรปในช่วงไฮซีซั่น เป็นเพียงแค่การระมัดระวังตัว เพราะเราไม่มีความขัดแย้งกับประเทศ ไม่มีเหตุผลที่จะมาทำร้ายอะไรเรา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘คิวบา’ ร่วมฟ้องอิสราเอลต่อศาลแห่งสหประชาชาติคดี ‘ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’

ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2023 อิสราเอลได้ทำสงครามอันขมขื่นกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา สร้างความทุกข์ทรมานให้กับ

อิหร่านขู่อิสราเอล หลังจากนายทหารปฏิวัติเสียชีวิตอีกคนในซีเรีย

การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเมืองดามัสกัสเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนทำให้นายพลระดับสูงของอิหร่านต้องเสียชีวิต ครั้

“พิพัฒน์” ถึงไทยพร้อมข่าวดี รัฐบาลอิสราเอลแย้มเพิ่มความต้องการคนไทยทำงาน “ภาคอุตสาหกรรม”

กระทรวงแรงงาน เผยทางการอิสราเอลปลื้มคนไทย เชี่ยวชาญงาน รักครอบครัว ไม่ลักลอบเป็นแรงงานผิดกฎหมาย เร่งแจ้งข่าวดีตามหลัง ต้องการรับแรงงาน “ภาคอุตสาหกรรม” เพิ่ม

สำเร็จ! "พิพัฒน์" คุย 3 รมว.อิสราเอล เพื่อแรงงานไทย มุ่งเพิ่มการจ้างงานใหม่ พร้อมข่าวดีคนเก่ากลับไปทำงานได้

วันที่ 28 พฤษภาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายวิชิต อินทรเจริญ

ไม่หวั่น ! "พิพัฒน์" เยือน อิสราเอล เร่งจัดส่งแรงงานไทยเพิ่ม!! ปลื้มส่งเงินกลับบ้านเดือนละแสน มอบ ยันต์สมเด็จธงชัย-หลวงปู่ทวด สร้างขวัญกำลังใจทำงาน

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เยือนอิสราเอล