พี่น้องคนไทยกลุ่มที่ 3 กว่า 90 ชีวิต หนีตายสงครามอิสราเอล ถึงไทยแล้ว ทัพเรือให้การต้อนรับ

15 ต.ค. 2566 – เมื่อวันที่ 15 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ พลเรือเอก สิทธิชัย ต่างใจ ผู้อำนวยการ การท่าอากาศยานอู่ตะเภา อำนวยความสะดวกให้การต้อนรับพี่น้องคนไทย ที่อพยพจากภัยสงคราม เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล จำนวน 90 คน เป็นชาย 88 คน หญิง 2 คน บาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิด 2 คน ถือเป็นเที่ยวบินอพยพคนไทย ครั้งที่ 3 โดยสายการบิน Fly Dubai เที่ยวบิน FZ1550 ออกเดินทางจากอิสราเอล ในเวลา 11.00 น.วันที่ 14 ต.ค.66 มีการเปลี่ยนเครื่องที่นครดูไบ เพื่อโดยสารต่อโดยเที่ยวบิน FZ1837 ออกเดินทางในเวลา 20.00 น. วันเดียวกัน ซึ่งจะมาถึงจุดหมายปลายทาง ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ในเวลา 06.00 น.วันที่ 15 ต.ค.66 ตามเวลาประเทศไทย

ในการนี้ พลเรือตรี เดือน พร้อมมณี ผู้บัญชาการ กองการบินทหารเรือ เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พร้อมด้วย นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ รองอธิบดีกรมจัดหางาน รวมทั้ง หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดระยอง อาทิ ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระยอง สาธารณสุขจังหวัดระยอง ฯลฯ มาร่วมให้การต้อนรับ ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นไปอย่างอบอุ่น ภายหลังพี่น้องคนไทยทั้ง 90 คน ได้ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง และตรวจร่างกายโดยกระทรวงสาธารณสุข เป็นที่เรียบร้อย จะได้รับประทานอาหารเช้าที่ทางกองทัพเรือจัดเตรียมไว้ ถือเป็นอาหารเช้ามื้อแรกบนแผ่นดินไทย จากนั้น จะขึ้นรถบัสเดินทางไปพักผ่อนที่โรงแรม SC park เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เพื่อรอให้ญาติพี่น้องมาติดต่อรับกลับสู่ภูมิลำเนา บางส่วนมีญาติพี่น้องมารอรับที่สนามบิน

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เน้นย้ำให้ดูแลพี่น้องคนไทย 90 ชีวิต และครอบครัว ที่มาเฝ้ารอให้การต้อนรับ ให้ได้รับความสะดวกสบาย อบอุ่น และปลอดภัยให้มากที่สุด เท่าที่กองทัพเรือจะสามารถสนับสนุนได้ ตลอดจน ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องคนไทย ได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัวโดยเร็วที่สุด กองทัพเรือ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ดูแลรับใช้พี่น้องคนไทยอย่างดีที่สุด ภายใต้นโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบให้ไว้ “ จะทำให้กองทัพเรือ เป็นหน่วยงาน ที่ประชาชนชาวไทย เชื่อมั่นและภาคภูมิใจ “

ด้าน นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำกับหน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ระดมสรรพกำลัง ยุทโธปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ เร่งให้การช่วยเหลือนำพี่น้องคนไทย ที่สมัครใจเดินทางกลับมาจากประเทศอิสราเอล ให้โดยเร็วที่สุด อย่างเต็มกำลังความสามารถ ในส่วนของ กองทัพเรือ จะมีสายการบิน Fly Dubai ที่บินตรงมาจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาลงที่สนามบินอู่ตะเภาทุกวัน ๆ ละ1 เที่ยวบิน ซึ่งเที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินพิเศษ ตามที่รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงกลาโหม ได้ประสานงานร่วมกัน จนนำไปสู่การช่วยเหลือพี่น้องคนไทย ให้ได้รับความปลอดภัย

นายสุรชัย สมณคีรี อายุ 28 ปี อาชีพเกษตรกร ได้กล่าวแสดงการขอบคุณประเทศไทย ที่ได้ให้การช่วยเหลือนำกลับคืนสู่บ้านเกิดอย่างปลอดภัย และรวดเร็วอย่างมาก ระหว่างที่เกิดสงครามขึ้น รู้สึกตกใจหวาดกลัวอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิต สิ่งแรกที่คิดในเวลานั้น คือ อยากมีชีวิตรอดกลับบ้าน คิดถึงทุกคนคนในครอบครัว ในวันนี้ รัฐบาลไทย ได้ทำความฝันนั้นเป็นความจริง รู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างสุดซึ้ง และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา ณ โอกาสนี้