กสม.เผยผลการตรวจเยี่ยมศูนย์กักตัว ตม. สงขลา พบการปฏิบัติไม่เหมาะสมตามหลักสากล เสนอนายกฯ พิจารณาสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไข
12 ต.ค.2566 – น.ส.สุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ตามที่ กสม.มีโครงการตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวในสังกัดกระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์ซักถามในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 กสม. ได้เข้าตรวจเยี่ยมศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยใช้แบบรายการที่ต้องตรวจเยี่ยมและแบบบันทึกการเข้าเยี่ยมภายใน ตามมาตรฐานคู่มือปฏิบัติการตรวจเยี่ยมสถานที่คุมขัง ของสมาคมเพื่อป้องกันการทรมาน (APT) ปรากฏข้อเท็จจริงอันมีลักษณะเป็นการขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนหลายประการ สรุปได้ดังนี้
1. มีการกักเด็กกับมารดาร่วมกับผู้ต้องกักหญิงอื่นในสภาพแออัด ไม่ถูกสุขลักษณะ และไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเด็กและไม่สอดคล้องกับสิทธิเด็กที่จะไม่ถูกจับกุม กักขัง หรือจำคุก โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการกักขังเด็กต้องใช้เป็นมาตรการสุดท้ายและมีระยะเวลาที่สั้นที่สุด โดยเด็กต้องถูกแยกต่างหากจากผู้ใหญ่ เว้นแต่จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อเด็กที่จะไม่แยกกักเช่นนั้น ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่ประเทศไทยเป็นภาคี และข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำแห่งองค์การสหประชาชาติในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง (ข้อกำหนดแมนเดลา)
2.ห้องกักมีความแออัด และบางห้องมีพื้นที่ควบคุมขนาดต่ำกว่า 2.25 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานสากลขององค์การสหประชาชาติ ทำให้อากาศไม่ถ่ายเท จึงมีสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
3.มีการกักตัวผู้ต้องกักไว้เป็นระยะเวลานานและไม่มีกำหนดปล่อยตัวที่แน่ชัด อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลและความเครียดสะสม กรณีนี้แม้ประเทศไทยไม่ได้เป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย (Convention Relating to the Status of Refugees) แต่ประเทศไทยยังคงมีหน้าที่ด้านมนุษยธรรมที่ต้องดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้ต้องกักเหล่านี้ให้ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานและดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสม สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทยจึงต้องร่วมกันพิจารณาใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคสาม ซึ่งบัญญัติให้ ในระหว่างรอการส่งกลับ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอนุญาตให้ไปพักอาศัยอยู่ที่อื่นได้โดยคนต่างด้าวต้องมาพบพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวัน เวลา และสถานที่ที่กำหนด โดยต้องมีประกัน หรือมีทั้งประกันและหลักประกัน รวมทั้ง ต้องคัดกรองผู้ต้องกักให้เหมาะสม ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความเห็นทั่วไปที่ 35 ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนประจำกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ระบุว่า การคุมขังเป็นระยะเวลานานโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาถือเป็นการคุมขังโดยพลการ อันมีลักษณะไม่เหมาะสม ไม่เป็นธรรม ขัดกับความชอบด้วยเหตุผล ความจำเป็น และความได้สัดส่วน
4.ในการรักษาพยาบาล พบว่ามีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแต่ไม่มีแพทย์ประจำศูนย์กักตัวผู้ต้องกัก ซึ่งแม้ผู้ต้องกักสามารถปรึกษาแพทย์ทางโทรศัพท์ได้ แต่หากจำเป็นต้องส่งตัวผู้ต้องกักที่ศูนย์กักคนเข้าเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา ออกไปรับการรักษาภายนอกต้องส่งไปโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ ซึ่งมีระยะทางไกล จึงเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงสาธารณสุขต้องกำหนดหลักเกณฑ์การส่งตัวผู้ต้องกักใหม่ โดยให้ส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลสะเดาซึ่งมีระยะทางใกล้กว่า เพื่อให้การรักษาพยาบาลเป็นไปด้วยความรวดเร็วตามมาตรฐานเดียวกับที่รัฐจัดให้ประชาชนอื่น
และ 5.ไม่มีการตรวจร่างกายผู้ต้องกักเมื่อแรกเข้า เนื่องจากไม่มีงบประมาณและจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จึงไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดแมนเดลลา ข้อ 34 ที่ระบุให้มีการตรวจร่างกายผู้ถูกควบคุมตัวก่อนนำเข้าสู่สถานที่คุมขัง เพื่อป้องกันการกระทำทรมานที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง และลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่าง ๆไปสู่บุคคลอื่น
ด้วยเหตุผลข้างต้น กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 จึงมีมติให้มีหนังสือแจ้งสภาพปัญหาและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติต่อผู้ต้องกักศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลาไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณามอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นข้างต้น โดยมีข้อเสนอแนะอันเป็นสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
ข้อเสนอแนะระยะเร่งด่วน ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการแยกเด็กและผู้หญิงที่ถูกกักตัว โดยเฉพาะหญิงมีบุตรและต้องเลี้ยงดูบุตรในห้องกักร่วมกับผู้ต้องกักหญิงอื่น โดยพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดการก่อสร้างสถานที่กักตัวแห่งใหม่ซึ่งอยู่ในแผนดำเนินการ บริเวณคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อลดความแออัดหรือเพิ่มพื้นที่กักตัวตามมาตรฐานสากล ถูกสุขอนามัย และปลอดภัย ตามข้อกำหนดแมนเดลลา โดยให้มีสถานที่แยกกักตัวสำหรับเด็กและผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงที่มีบุตร อีกทั้ง มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกาย และการประกอบศาสนกิจ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาการขึ้นทะเบียนคนต่างด้าวหรือผู้ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนสำหรับผู้ต้องกัก กระทรวงแรงงานพิจารณาให้สิทธิการทำงานสำหรับผู้ต้องกัก ในระหว่างที่ยังไม่สามารถส่งกลับประเทศต้นทางที่ผู้ต้องกักมีสัญชาติ หรือส่งไปประเทศที่ 3 ได้ และกระทรวงการต่างประเทศประสานความร่วมมือกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เพื่อช่วยเหลือชาวโรฮีนจาให้สามารถเข้าไปตั้งรกรากและเป็นพลเมืองของประเทศที่ 3 ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดือดพลั่ก! ยธ. แถลงโต้ กมธ.มั่นคงฯ ไม่มีอำนาจเรียก ทวี-อธิบดีกรมคุก ชี้แจงทักษิณชั้น 14
นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวรชัย บุตรดาบุตร เลขานุการกรมราชทัณฑ์ นายณรงค์ หนูคง ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ และ น.ส.วริศรา กุญชร ณ อยุธยา ผอ.กองกฎหมาย
เดือด! 'โตโต้' สวน ยธ. ยันมีอำนาจสอบทักษิณป่วยทิพย์ ลั่น กมธ.มั่นคงฯทำงานครอบจักรวาล
นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม.พรรคประชน (ปชน.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
'สนธิญา' ยื่น 'กสม.' สอบ 'ทักษิณ' ละเมิดสิทธิ์ หานักร้องเป็นหมา
ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายสนธิญา สวัสดี เดินทางยื่นหนังสือ พร้อมหลักฐานภาพข่าวการหาเสียงนายก องค์การ
ลุ้นระทึก!ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดถก ปมคดี 'บิ๊กโจ๊ก' ถูกให้ออกจากราชการ
ที่ศาลปกครองกลาง ถนนเเจ้งวัฒนะ นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด
ตำรวจเตรียมโอนคดี 'ดิไอคอน' ให้ DSI พบยอดผู้เสียหายเฉียดหมื่น
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าชุดทำคดีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป
ตร. จัดพิธีบำเพ็ญกุศล น้อมรำลึก 'ในหลวง ร.9'
ตร. จัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันนวมินทรมหาราช เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ 'ในหลวง ร.9'