"บิ๊กดุง" แถลงนโยบายกู้ภาพลักษณ์ ทร. หลัง4-5 ปีโดนข่าวลบต่อเนื่อง เผยที่ผ่านมาหย่อนยาน ลั่น”บูรณะ”ค่านิยมโยกย้าย เชิดชูอุปถัมภ์มากกว่าคุณธรรม ชอบโชว์คอนเนกชั่น ซัดพวกเรียนเก่งแต่โกง พร้อมวางกรอบ ผบ.ทร.คนต่อไปต้องเก่งและดีจริง เตือนอย่าวิ่งเต้นแต่ให้ทำงาน เผยปรับยุทธศาสตร์ -โครงสร้างใหม่ ทร.ตามสถานการณ์โลก เสริมสร้างฝั่งอันดามัน
5 ต.ค.2566 - ที่หอประชุมกองทัพเรือ พลเรือเอก อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวช่วงหนึ่งในการแถลงนโยบายและแนวทางปฏบัติงานประจำปีงบประมาณ2567 โดยระบุว่าในปัจจุบันเราใช้ยุทธศาสตร์เล่มปีที่ 2560-2580 ซึ่งภารกิจกองทัพเรือมี5 ข้อ ได้แก่ 1.การพิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.การเตรียมกำลังกองทัพเรือและป้องกันราชอาณาจักร 3.การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล4.สนับสนุนการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเท5.สนับสนุนการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน โดยวิสัยทัศน์คือเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาคและเป็นเลิศในการบริหารจัดการ ซึ่งจะเห็นว่าที่เขียนไว้นั้น โดยเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์โครงสร้างกำลังรบเรายังมีเรือไม่ได้ตามที่ต้องการ แต่ก็ใกล้จะถึงตามเป้า ส่วนด้านยุทธการและการฝึก ได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ (ศปก.ทร.)ใหม่ ซึ่งอาคาร ศร.ชล.ที่มีปัญหาในการก่อสร้างไม่สามารถเสร็จได้ตามเวลา เพราะฉะนั้น ศปก.ใหม่ก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เราต้องแก้ไข
ด้านส่งกำลังบำรุงคาดหวังว่าอยากพัฒนาฐานทัพท่าเรือต่างๆไปถึงฝั่งอันดามันให้ซึ่ง พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ผบ.ทร.ท่านที่แล้วได้ให้ความสำคัญกับฝั่งอันดามัน จนได้จัดทำเป็นแผนชัดเจน ตนก็จะต้องเดินตามที่ท่านได้วางไว้ เพื่อให้สอดคล้องกับปัญหาด้านความมั่นคงในภูมิภาค จากสถานการณ์ของ จีน ยูเครน สหรัฐฯ และจากสภาวะแวดล้อมเปลี่ยนไป มีเทคโนโลยีใหม่ด้านการรบใหม่ๆเข้ามา จึงเป็นที่มาของวิสัยทัศน์ที่ที่เราจะใช้ต่อไปโดยดูว่าบทบาทนำในภูมิภาคตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ควรจะเป็นอย่างไร
พลเรือเอก อะดุง กล่าวอีกว่า จะมีการทบทวนปรับปรุงโครงสร้างกองทัพเรือใหม่ทั้งระบบในปีนี้ทั้งกำลังรบทางบกและทางเรือโดยลดหน่วยเฉพาะกิจที่หมดความจำเป็นลง ทบทวนกำลังรบให้สอดคล้องกับ ปัจจัยต่างๆ ส่วนรูปแบบและประเภทกำลังรบ ต้องบูรณาการร่วมกับ ศร.ชล. ให้จับต้องให้ได้ พร้อมทั้งใช้ เทคโนโลยีปรับรูปแบบการปฎิบัติ เมื่อปรับโครงสร้างแล้วกำลังพลก็จะลดลง อีกทั้งจะกำหนดเป้าหมายงบประมาณอย่างเหมาะสมที่สำคัญคือเราจะพัฒนาฝั่งทะเลอันดามันมากขึ้น บรรจุกำลังพลในหน่วยกำลังรบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทดลองการใช้ระบบบริหารจัดการสอบ ศปก.ทร. ใหม่โดยทำการทดสอบให้เกิดประสิทธิภาพได้ภายในปีนี้ พัฒนาศักยภาพกองทัพเรือทางฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นไปตามโรดแม็ป ที่ พลเรือเอกเชิงชาย ได้ทำไว้ อีกทั้งเพิ่มอัตราให้ศูนย์ทุนระเบิด ศูนย์สงครามใต้น้ำใน ศปก.ทร. ศูนย์ละ 10 อัตรา ให้กับ 2กองเรือ
“ที่มีคำถามต่อมาคือกองทัพเรือมีภาพลักษณ์อย่างไรต่อคนไทย เดิมทหารเรือเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนดี รักษาคำพูดคนเคยชื่นชมเพราะเราเคยช่วยเหลือประชาชนและชุมชน เป็นมิตรในยามทุกข์ยามสุข เคยแสดงผลงานระดับประเทศในการที่เราเอานำเรือออกไปปราบโจรสลัดที่โซมาเลีย ทหารไม่ค่อยยุ่งการเมือง ในอดีตทหารเรือจัดซื้ออาวุธยุทธโทรปกรณ์ไม่เคยถูกลงหนังสือพิมพ์กระหน่ำเหมือนทุกวันนี้ เราเคยจะซื้ออะไรเป็นหมื่นล้านสังคมก็ยินดีและยอมรับและเข้าใจตอบรับการจัดหาของเรา อีกทั้งคนในองค์กรกองทัพเรือก็มีความสามัคคี แต่ปัจจุบันนี้กองทัพเรือเกิดอะไรขึ้น มีแต่ข่าวการจัดซื้อจัดจ้าง กระสุน นย.หายมหาศาล มีข่าวกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย เรือรบเกิดอุบัติเหตุ มีข่าวธำรงวินัยแม้แต่ผู้บัญชาการทหารเรือเองก็เคยถูกธำรงวินัย ตอนผมเป็นเจ้ากรมสื่อสารทร. ก็ถูกธำรงวินัยด้วย มีข่าวผู้บังคับบัญชาเอาเปรียบลูกน้อง เบียดบังสิทธิ์ผู้ใต้บังคับบัญชา มีข่าวการลงโทษที่เขาห้ามทำกัน และมีข่าวเรือดำน้ำที่ไม่จบไม่สิ้นสักที เป็นเพราะอะไร”
พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า ตนเองได้วิเคราะห์แล้วพบว่าระเบียบกฎเกณฑ์ข้อบังคับที่กองทัพเรือนำมาใช้กับทุกคนไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม และยุทธศาสตร์กองทัพเรือก็ไม่ได้เปลี่ยนมากนัก แต่สิ่งที่เปลี่ยนก็คือค่านิยมกำลังพลของเราที่ยึดติดกับเงินทอง ความร่ำรวย การใช้ชีวิตที่รู้หรา ซึ่งอดีตบรรพบุรุษของเราอยู่อย่างแบบพอเพียง ปัญหาอีกประการคือการปกครองบังคับบัญชาที่เป็นกันเองเกินไป เพราะเราอยู่แบบพ่อลูก พี่น้อง แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ดีใจที่นายใจดี จึงไม่ทำผิดให้นายเสียใจ แต่ปัจจุบันความใจดีของผู้บังคับบัญชากลับทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่เชื่อถือ ไม่ยอมทำตาม ไม่ตอบรับความใจดี ดังนั้นเราต้องกลับมาทบทวนว่าคนเป็นนายควรจะใจดีกับทุกคนหรือไม่ อีกประการหนึ่งคือการเติบโตในชีวิตรับราชการ เราามีวิธีขึ้นสู่การเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพมากมาย จนน้องๆ ไม่รู้จะเดินตามทิศใด แต่ทิศที่ถูกต้องต้องได้รับการบูรณะ และยืนหยัดในกองทัพเรือให้ได้ ที่ผ่านมาความไม่ชัดเจนของผู้บังคับบัญชา และความไม่จริงจัง โดยเมื่อขึ้นเป็นนายคนแล้วไม่ทำหน้าที่นายให้สมบูรณ์แบบ สังไม่รู้เรื่อง ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่มีองค์ความรู้ ลังเล แก้ไขคำสั่งบ่อยครั้งจนผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามไม่ถูก
“อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นคือการเลื่อนไหลของการรับราชการที่มีระบบอุปถัมภ์ มากเกินกว่าคุณธรรม ผบ.ไม่เคยรังเกียจระบบอุปถัมภ์เพราะก็โตมาในจุดที่มีระบบอุปถัมภ์เหมือนกัน แต่ให้บาลานซ์ พอเหมาะพอสม และต้องอุปถัมภ์คนดีโดยปัจจุบันความเชื่อในเรื่องคอนเน็คชั่นส์มากกว่าจะมุ่งมั่นทำหน้าที่ ผบ.จึงขอให้ทุกคนนั่งอยู่กับที่ และทำหน้าที่ของตัวเองมากกว่าจะไปวิ่งเต้นโดยบอกให้รู้ว่าฉันจะต้องรู้จักใคร เพราะไม่ได้ประโยชน์ จงตั้งไจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และเราจะต้องกลับมาอยู่ในองค์กรที่เป็นพี่เป็นน้อง เป็นครูและเป็นสิทธิ์ ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดี ให้ความสำคัญในเรื่องสวัสดิการ ไม่ใช่พร่ำพูดหน้าแถวให้เขาตั้งไจทำงาน มีอุดมการณ์ เสียสละ ทุ่มเทแต่สวัสดิการที่พึงมีพึงได้ เขากลับไม่ได้รับ ซึ่งก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เขาก็ไม่สามารถที่จะตอบความปรารถนาความต้องการของเราได้”
ผบ.ทร. กล่าวว่า เรายังพบว่าปัจจุบันกำลังพลหย่อนยานในวินัย และขาดอุดมการณ์ทหารอาชีพ เพราะกองทัพเรือไทยไม่ใช่กองทัพเรือที่รบจริงเพราะไม่ได้มีภัยคุกคามที่รบจริง ทำให้เราเลยประมาท และไม่เข้าใจว่าการเตรียมพร้อมที่จะรบเป็นอย่างไรจึงจึงมีปัญหาทุกวันนี้ เช่น ก่อนออกเรือ ต้นหน ต้นกล เครื่องจักร มีบรรยายตามระเบียบให้ผู้การฯฟัง หรือแม้กระทั่งงานสรรพาวุธลูกปืนอยู่ในคลัง ต้องตรวจวันละกี่รอบ มีกล้องวงจรปิดในการตรวจสอบการนำอาวุธ มีการเซ็นต์รับออกตามระเบียบทุกอย่าง หรือ เรื่องการซ่อมทำเรือตอนเข้าอู่จะต้องมีแนวทางปฏิบัติเขียนไว้หมดแล้ว หรือเรื่องการรักษาวินัยเอกสารลับแต่ทำไมเอกสารรับถึงหลุดไปถึงมือสื่อมวลชนได้ หรือ ทำไมเรื่องที่คุยกัน5คนในห้องถึงออกไปถึงหูคนอื่นได้ เหตุเพราะพวกเราไม่จริงจังต่อเรื่องที่ควรจริงจัง ปีนี้จะขอแก้ไขเรื่องเหล่านี้ ซึ่งจะแก้ได้ก็คือทุกคนต้องช่วยกันทำตั้งแต่พลเรือเอกจนถึงพลทหารครั้งคนสุดท้าย โดยเราต้องภูมิใจในตัวเองและสัญญากับเสด็จเตี่ยว่าจะทำหน้าที่ที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด โดยทุกคนกลับไปถามตัวเอง I will do my best
“มอตโต้สมัยที่ พลเรือเอกกำธร พุ่มหิรัญ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือให้ไว้ คือคนเก่งคนดีในการทำงาน แต่จะต้องเป็นคนดีคนเก่งในสายตาทุกคนด้วย ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่ง คนเก่งไม่ใช่คนที่เอาพระสมเด็จฯมาให้ผบ. หน่วย แล้วบอกเขาว่าเป็นคนดี แต่ต้องตั้งไจทำงาน และเมื่อหากแยกเป็นคนเก่งอยู่ซ้ายมือ คนดีอยู่ฝั่งขวามือ บางคนสมองไม่ดี ไม่ว่ากัน แต่เอาคะแนนฝั่งคนดีมาบวก ส่วนบางคนเรียนเก่ง แต่ขี้โกง เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน หรือ สังคม ทำให้คะแนนฝั่งคนดีก็ลดลงไป แต่คนที่จะเป็นผู้นำกองทัพต้องเก่ง บวกดี กองทัพเรือจะได้เจริญก้าวหน้า วิธีจะดูแม้จะยาก สิ่งที่เราจะประเมินก็คือการแสดงออกของพี่น้องกัน ซึ่งเราเห็นกันมาตั้งแต่เป็นนักเรียนนายเรือจนถึงวันที่อายุ 56 ปี มันโกหกกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมจะใช้วิธีการประเมินเป็นหลัก ในการดูว่าใครควรจะอยู่ที่ไหน บวกกับผลงานที่ทุกท่านทำงานในปีนี้ให้ประจักษ์”
โดยย้ำด้วยว่า กองทัพเรือจะบริหารแบบรวดเร็ว สั่งผ่านเสนาธิการทร. เพื่อให้เจ้ากรม รองเสธ.จะได้ดำเนินการไอย่างรวดเร็ว สุดท้ายคืออยากให้กำลังพลทุกคนอยู่กันด้วยความสามัคคี ต้องได้รับการปกครองบังคับบัญชาอย่างถ้วนหน้าด้วยความยุติธรรม ผู้บังคับบัญชาจะต้องให้ทุกคนได้รับสิทธิและโอกาสสวัสดิการที่ทุกคนพึ่งได้ให้ดีที่สุด ตนได้ให้กรมฝ่ายอำนวยการไปรับข้อมูลจากหัวหน้าหน่วยราชการ เพื่อนำบัญชีการซ่อมทำหน่วยมาให้ดู เช่นเรื่องห้องน้ำต่างๆ ตนจะจัดงบฯ ไปให้ซ่อมทำ และปีใหม่จะไปตรวจเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่กับทุกคน ของขวัญอีกอย่างคือ ยกเลิกการจูงจักรยานและจักรยานยนต์ทุกประตูของกองทัพเรือ ให้ขับมาได้เลยอย่างช้าๆ จะไม่มีการตรวจเครื่องหมายผู้ใต้บังคับบัญชาที่ประตู แต่ให้หัวหน้าหน่วยไปตรวจกันเองในการตรวจแถววันพุธพฤหัสเป็นการรับผิดชอบกันไปเอง และปีนี้จะงดทำไดอารี่แจก เพราะส่วนใหญ่ก็ดูจากโทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์กันหมดแล้ว แล้วจะนำงบฯมาซ่อมห้องน้ำ และซ่อมทุกอย่าง เพื่อให้ลูกน้องเราให้กินดีอยู่ดี และจะแจกแจงเงินก้อนนี้ให้โปร่งใสว่าหน่วยใดได้อะไรบ้างได้ และจำนวนเท่าไหร่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดข้อเสนอ 'ครูทหารเรือ' เจรจาเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชาให้จบก่อน หากถึงทางตันต้องไปที่ศาลโลก
เปิดข้อเสนอ “ครูทหารเรือ” ให้เจรจาเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชาให้จบก่อน มองสูตรของกัมพูชาเจรจาขุมทรัพย์ก่อนทำได้ยาก ชี้2เรื่องละเอียดอ่อน-ซับซ้อน ปลายทางอาจจบที่ศาลโลก
จับล็อตใหญ่ริมน้ำโขง! ยาบ้าสูตรฟรุ้งฟริ้ง-ไอซ์ มูลค่ารวม 700 ล้านบาท
พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข. พ.อ.ปราโมทย์ เนียมสำเภา รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (รอง ผบ.กกล.ฯ) นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม น.อ.แมนรัตน์ บุญสวัสดิ์ ผู้บังคับการ นรข.เขตนครพนม (ผบ.นรข.เขตฯ)
'ในหลวง-พระราชินี' เสด็จฯ ไปงานแข่งขันเรือใบ 'ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า'
เมื่อเวลา 07.09 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขันเรือใบนานาชาติ
งดงาม 'กองเรือยุทธการ' จัดขบวนเทิดพระเกียรติ เรือของพ่อ 9 ลำ
กองทัพเรือ โดย พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ เป็นประธานจัดกิจกรรม “ตามรอยพ่อสืบสานต่อเพื่อแผ่นดิน” เทิดพระเกียรติ ๙ เรือของพ่อ
กองทัพเรือ จัดเสวนาหลักกฎหมายอาณาเขตทางทะเล แต่คำตอบสุดท้ายอยู่ที่ผู้บริหาร
กรมยุทธศึกษา กองทัพเรือ จัดงานเสวนาวิชาการ เรื่องหลักกฎหมายว่าด้วยอาณาเขตทางทะเล เพื่อชี้ให้เห็นถึงบทบาทของกองทัพเรือ ความท้าทายที่กองทัพเรือต้องเผชิญ
‘ผบ.ทสส.’ โยนถาม ‘กองทัพเรือ’ เมียนมายิงเรือประมงไทย ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
ผบ.ทสส. ยัน ช่วย 4 คนไทยเต็มที่ ให้กลับประเทศเร็วสุด เผย ยังปลอดภัย โยน ทร.แจง เมียนมาทำเกินกว่าเหตุหรือไม่