อสส. ตั้งแล้ว! ทีมโฆษกอัยการชุดใหม่

‘อสส.’ เซ็นตั้งเเล้วทีมโฆษกอัยการชุดใหม่ ‘ประยุทธ’ ผงาดโฆษก ‘วัชรินทร์’ อัยการเอฟบีไอนั่งรองเบอร์ 1 ดึงมือดีความรู้รอบด้านร่วมทีม

2 ต.ค. 2566 – นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อธิบดีอัยการสำนักงานวิชาการ รักษาการในตำแหน่งอัยการสูงสุด ออกคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 2183 /2566 เรื่อง แต่งตั้งโฆษกและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ความว่า เนื่องจากคณะโฆษกตามคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1761/2565 เรื่อง แต่งตั้งโฆษกและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ลงวันที่ 4 ต.ค.65 2565 และคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1986/2566 เรื่อง แต่งตั้งโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (เพิ่มเติม) ลงวันที่ 7 ด.ย. 66 ได้มีการสับเปลี่ยนโยกย้ายหลายตำแหน่ง

ดังนั้น เพื่อให้งานด้านการสื่อสารองค์กร การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การสร้างความรับรู้และความเข้าใจในบทบาท ภารกิจ และการดำเนินงานของสำนักงานอัยการสูงสุดตลอดจนการให้ข้อมูลข่าวสารเป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุด ในการปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และถูกตรวจสอบได้ จึงให้ยกเลิกคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1761/2565 เรื่อง แต่งตั้งโฆษกและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ลงวันที่ 4 ต.ค. 65 และคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1986/2566 เรื่อง แต่งตั้งโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (เพิ่มเติม) ลงวันที่ 7 ก.ย.66 และแต่งตั้งโฆษกและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดขึ้นใหม่ โดยมีองค์ประกอบคณะโฆษกดังนี้

1.นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เป็น โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

2.นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

3.นายณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการพิเศษฝ่ายแผนและช่วยเหลือทางกฎหมาย เป็นรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

4.น.ส.นาถสินี ยุติธรรมดำรง รองเลขานุการอัยการสูงสุดเป็นรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

5.นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานคดีพิเศษ เป็นรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

6.นายจิตภัทร พุ่มหิรัญ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานคดีแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

มีอำนาจหน้าที่ 1กำหนดแนวทางการสื่อสารองค์กร ประสานงาน แลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของสำนักงานอัยการสูงสุดในเชิงรุกและเชิงรับโดยให้สอดคล้องกับนโยบายอัยการสูงสุด แผนยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติการของสำนักงานอัยการสูงสุด 2.ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ ให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับนโยบาย ภารกิจ โครงการ ตลอดจนผลการปฏิบัติงานตามแผนงานโครงการต่าง ๆ ของสำนักงานอัยการสูงสุด อย่างต่อเนื่องและชัดเจน

3.แถลงข่าวและชี้แจงข้อมูลต่างๆ ในนามสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน อันอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ตลอดจนพิจารณาให้ข้อมูลข่าวสารที่ตรงกับข้อเท็จจริงและทันต่อเหตุการณ์ในทุกกรณีตามความเหมาะสม โดยละเว้นการตอบโต้ทางการเมืองและการชี้แจงที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และคำสั่ง เกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในส่วนที่เกี่ยวข้อง

4.รับฟังข้อมูลข่าวสารและข้อคิดเห็นจากประชาชนหรือสื่อมวลชน เพื่อนำมาพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง 5.ติดตาม รวบรวม และตรวจวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับสำนักงานอัยการสูงสุดโดยเฉพาะข่าวสารที่มีผลกระทบต่อสำนักงานอัยการสูงสุด 6.วิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงานอัยการสูงสุด และพิจารณาหาแนวทางแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้น พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขต่ออัยการสูงสุด รวมทั้งดำเนินการแก้ไขผลกระทบตามที่อัยการสูงสุดมอบหมายโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ให้ติดตามผลการแก้ไขเรื่องที่ได้ดำเนินการแล้ว ผ่านการตรวจติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด โดยจัดทำรายงานข่าว พร้อมบทวิเคราะห์ผลกระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงานอัยการสูงสุด และรายงานอัยการสูงสุดทราบทันที

7.ประสานงานเชื่อมโยงกับสื่อมวลชน และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดประโยชน์ในการสื่อสาร การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้ ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน 8.ในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ให้สามารถเชิญพนักงานอัยการ หรือผู้แทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในสำนักงานอัยการสูงสุด มาให้ถ้อยคำ หรือชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารหลักฐาน หรือให้ส่งเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม หรือให้ส่งข้อมูลและข่าวสาร และให้หน่วยงานภายในสำนักงานอัยการสูงสุดสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของคณะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเมื่อได้รับการร้องขอ

9.การขอใช้อัตรากำลัง งบประมาณ เครื่องมือเครื่องใช้ เพื่อให้การปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ตามคำสั่งนี้สัมฤทธิ์ผล ให้พิจารณาเสนออัยการสูงสุด ตามเหตุผลและความจำเป็น 10.ให้สำนักสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหน่วยงานหลักสนับสนุนงานของคณะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด 11.แต่งตั้งคณะทำงานหรือบุคคลที่เห็นสมควร เพื่อร่วมดำเนินการในการประชาสัมพันธ์ตามความเหมาะสม 12.รายงานการดำเนินการให้อัยการสูงสุดทราบ 13.ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่อัยการสูงสุดมอบหมาย ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมโฆษกอัยการชุดนี้มีความโดดเด่น เนื่องจากมาจากผู้มีความรู้ความสามารถสังกัดสำนักงานคดีสำคัญเเละเคยมีประสบการณ์ในการเป็นทีมโฆษกในอดีตมาก่อน อย่างเช่น นายประยุทธ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด มีบทบาทเป็นที่รู้จักในฐานะรองโฆษกอัยการฯ ที่โดดเด่น โดยนั่งตำเเหน่งในทีมโฆษกมายาวนานถึง7 ปีซ้อน การที่มารับหน้าที่ขึ้นเป็นโฆษกตัวจริงครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาในช่วงที่เคยเป็นรองโฆษกฯ รับหน้าที่เเถลงคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเเละคดีใหญ่สะเทือนขวัญ สำคัญหลายคดี ให้กับสื่อมวลชนเเละประชาชนเข้าใจชัดเเจ้ง

รวมถึงมีบทบาทการสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือขององค์กรเป็นอย่างมาก ได้รับไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้บริหาร เพราะสำนักงานคดีพิเศษเป็นสำนักงานที่รับพิจารณาสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน หรือปปง.ซึ่งรวมถึงคดีการเมืองเเละการชุมนุมของม๊อบการเมืองต่างๆสำนักงานดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญ ที่สำคัญในการเลือกตั้งคณะกรรมการอัยการที่ผ่านมานายประยุทธได้รับการเลือกตั้งเป็น ก.อ.ด้วยคะเเนนสูงที่สุดในครั้งนั้น เป็นคนที่มีความนิยมในหมู่อัยการสายต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสาน จนได้ฉายานักรบภูธร

โดยจบหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 59 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เคยดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดหลายจังหวัด สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการอยู่ 4 ปี ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปดำรงตำแหน่งอัยการพิเศษฝ่ายสำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ รับผิดชอบการบริหารจัดการด้านอาคารและที่ดินของสำนักงานอัยการสูงสุด ยังได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ของกระทรวงยุติธรรม และเป็นประธานพัฒนากฎหมายและอนุกรรมการพัฒนากฎหมายของหน่วยราชการอีกหลายคณะ

นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ถือเป็นรองอธิบดีสำนักงานสอบสวนเบอร์ 1นายวัชรินทร์ เป็นอัยการมือสอบสวน ฝีมือดี จบหลักสูตร วปอ.62 บยส.27 มีผลงานสมัยอยู่สอบสวนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายเเดนลุยคดีปล้นปืน ได้รับคำสั่งให้ร่วมสอบสวนคดีสำคัญหลายคดีจำนวนมาก อาทิคดีฟอกเงิน สหกรณ์รถไฟ, คดีรถหรู, เสาไฟกินรี, คดีสหกรณ์จุฬาฯ, เป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษคดีโครงการจัดซื้อรถซ่อมถนนแอสฟัลท์ติกแบบอัตโนมัติ, โครงการจัดซื้อรถซ่อมถนนและปูพื้นยางขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) น่าน กับโครงการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงถนนและปูพื้นยางแบบอเนกประสงค์ อบจ.สระแก้ว ที่อาจผิดฮั้วประมูล ยังไปเป็นที่ปรึกษา สปสช. ในช่วงวิกฤติสถานการณ์โควิด ซึ่งช่วงนั้นมีการร้องตรวจสอบกรณีส่อทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างชุดตรวจ ATK ก่อนจะได้เป็นหัวหน้าคณะทำงานอัยการ ร่วมสอบเครือข่าย ตุน มิน ลัต ที่เกี่ยวพันถึง สว.ชื่อดัง เเละเป็นหัวหน้าชุดคดีเรียกเงิน 140 ล้าน เเละล่าสุดได้รับคดีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนกสั่งการสังหารโหดสารวัตรทางหลวงในบ้านตัวเอง เคยได้รางวัลอัยการดีเด่น จบหลักสูตรเอฟบีไอ จากสหรัฐอเมริการุ่นเดียวกับอดีตอธิบดีดีเอสไอ นอกจากเรื่องงานสอบสวน ในงานวิชาการ มีดีกรีเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยเเละบรรยายวิชากฎหมายให้หน่วยงานต่างๆมีลูกศิษย์เป็นตำรวจเเละพนักงานสอบสวนให้ความเคารพรักเป็นจำนวนมาก

นายณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการพิเศษฝ่ายแผนและช่วยเหลือทางกฎหมาย เป็นอัยการชื่อดังอีกคนที่มีบทบาทในการอธิบายให้ความรู้ข้อกฎหมายอันเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ผ่านนายการทีวีเเละข่องทางอื่นๆ

เเละยังมี น.ส.นาถสินี ยุติธรรมดำรง รองเลขานุการอัยการสูงสุด ที่ครั้งนี้ได้เข้ามาร่วมทีมโฆษกครั้งแรก โดยเป็นบุตรสาวนายพชร ยุติธรรมดำรง อดีตอัยการสูงสุดเเละประธานคณะกรรมการอัยการที่มาจากการเลือกตั้งของอัยการ สำหรับ น.ส.นาถสินี ได้เกียรตินิยมดีมาก นิติศาสตรบัณฑิต ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นที่ 1 ของรุ่น เป็นนักเรียนทุนรัฐบาลตามความต้องการของสำนักงานอัยการสูงสุดไปศึกษามหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ กรุงวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยอยู่สำนักที่ปรึกษากฎหมายมีความเชี่ยวชาญเรื่องข้อสัญญาหารือเเละต่างประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รองอธิบดีอัยการฯ-ตำรวจ บินสำรวจจุดจับเรือน้ำมันเถื่อน 5 ลำ พิสูจน์ลอบนำเข้าไทย

นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผกก.2 บก.ปอศ.)

'บิ๊กเกรียง' แอ่นอกรับ 'สีน้ำเงินเข้ม' หนักใจมีชื่อชิง 'ปธ.สภาสูง'

'พล.อ.เกรียงไกร' รับหนักใจถูกเสนอชื่อชิงเก้าอี้ประธานสภาสูง ออกตัวหวังทำงาน กมธ.ทหารและความมั่นคง ชี้ 'ปธ.วุฒิสภา” ต้องรู้กฎหมายมีวุฒิภาวะเป็นที่ยอมรับ

งัด 'มาตรา 5 - แบบ สว.2' บี้ กกต. เปิดข้อมูล 200 สว. 99 สำรอง

'ชาญชัย' งัดมาตรา 5 - แบบ สว.2 ผู้สมัครยินยอมเผยแพร่ จี้ กกต. เร่งเปิดข้อมูลผ่านเว็บไซต์ตามกฎหมายกำหนด ชี้ช่องประชาชนร่วมตรวจสอบสภาสูงชุดใหม่

ล้อมคอกโจรไซเบอร์ เดินหน้า 'ปอง.2'

อสส. เปิด ปอง. 2  เดินหน้าพัฒนาศักยภาพบุคลากร รับมือรับมืออาชญากรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น  ชี้เป็นหลักสูตรติดอาวุธทางปัญญาที่สำคัญในการต่อต้านการฟอกเงินและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศ

ชุดสอบคดี 'เป้รักผู้การ' รีดเงินเว็บพนัน 140 ล้าน มีมติสั่งฟ้องตำรวจ-พลเรือน 35 ราย

คณะพนักงานสอบสวนในคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับทรัพย์จากเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท นำโดยนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงาน