ศาลปกครอง ยกฟ้อง คดีอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

22 ก.ย.2566 - ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ บ.242/2566 หมายเลขแดงที่ บ. 315/2566ระหว่าง นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช ผู้ฟ้องคดี กับ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ถูกฟ้องคดี

คดีนี้ผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลับ ที่ 44/2566 ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีในฐานะผู้บังคับบัญชาของผู้ฟ้องคดีได้รับรายงานว่า ผู้ฟ้องคดีมีพฤติการณ์กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กลั่นแกล้งโยกย้ายตำแหน่งผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้ถูกฟ้องคดีจึงได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงผู้ฟ้องคดี ซึ่งในระหว่างการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ผู้ถูกฟ้องคดีได้พิจารณาเห็นว่ามูลกรณีเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงของผู้ฟ้องคดีเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของหน่วยงาน รวมทั้งความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของประชาชนต่อการบริหารงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก หากจะให้ผู้ฟ้องคดีอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไปอาจเกิดการเสียหายแก่ราชการ

อีกทั้ง การสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงผู้ฟ้องคดีจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงมีขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนดอีกหลายขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการ ประกอบกับมีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก จึงเห็นสมควรให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน กรณีจึงเห็นได้ว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีออกคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เพื่อรอฟังผลการสอบสวนหรือพิจารณาตามเหตุผลข้างต้น เป็นการใช้ดุลพินิจตามหลักเกณฑ์ที่มาตรา 101 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบกับข้อ 83 วรรคหนึ่ง และข้อ 84 วรรคหนึ่ง ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 กำหนด อันเป็นการใช้ดุลพินิจโดยชอบ ดังนั้น คำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลับ ที่ 44/2566 ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

ศาลปกครองกลางจึงมีคำพิพากษายกฟ้อง

อนึ่ง คดีนี้อธิบดีศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยเร่งด่วน ตามข้อ 49/2 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 เพื่อให้ศาลสามารถพิจารณาพิพากษาคดีให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็วตามลักษณะคดีที่มีความจำเป็นต้องพิจารณา โดยเร่งด่วน ซึ่งคดีนี้ศาลปกครองกลางพิจารณาพิพากษาคดีเสร็จสิ้นภายในเวลา 31 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องคดีต่อศาล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอาแล้ว! 'ลูกผู้ป่วยมะเร็ง' ขู่ฟ้องศาลปกครอง หากดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว หลังคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด มีมติให้กัญชาเป็นยาเสพติด ล่าสุด นายสุวิทย์ เปรื่องธรรมกุ

'วิรุตม์' ยุ 'โจ๊ก' ยื่นปปช.ฟันผบ.ตร.-นายกฯผิดม.157ไม่สั่ง21ตร.คดี 'เป้รักผู้การ' ออกจากราชการ

'วิรุตม์' รับ 'โจ๊ก' ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจริง คดี 'เป้รักผู้การ'ตร.21นายถูกอัยการสั่งฟ้องทำไมไม่ให้ออกจากราชการเหมือนตน ยุยื่นปปช.ตรวจสอบผู้บังคับบัญชา-ผบ.ตร.- นายกฯละเว้นหน้าที่ตามม.157 หรือไม่

ผู้สมัคร สว. ร้องศาลปกครอง ขอคุ้มครองชั่วคราว ระงับ กกต.รับรองผล รู้มีฮั้วแต่ไม่แก้ไข

นายจักรพงษ์ คงปัญญา ผู้สมัคร สว.กลุ่ม 12 อุตสาหกรรม ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองไต่สวนคุ้มครองชั่วคราว เพื่อไม่ให้ กกต.พิจารณารับรอง สว. เนื่องจากในการยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอศาลมีคำสั่งยกเลิก

ป.ป.ช. แจงอุทธรณ์ คดีศาลยกฟ้อง 'อดีตผู้บริหารวิทยาลัยพลศึกษาชลบุรี'

'เลขาฯ ป.ป.ช.' แจงคดีศาลยกฟ้อง 'อดีตผู้บริหารวิทยาลัยพลศึกษาชลบุรี' ได้ชี้มูลผิดอาญาโดยอิสระ ยึดพยานหลักฐานตามกฎหมายปราศจากอคติ

'เศรษฐา' ขึงขังชี้ปม 'บิ๊กโจ๊ก' ให้ความเป็นธรรมและไตร่ตรองดีแล้ว

นายกฯ ลั่นปม 'บิ๊กโจ๊ก' ไตร่ตรองดีแล้ว ยันให้ความเป็นธรรม เผย ที่ประชุม ก.ตร.ยังไม่นำคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนขึ้นทูลเกล้าฯ ต้องรอ มติ 'ก.พ.ค.ตร.' คาด 30 วัน รู้ผลสอบ

เลขาฯ ก.ตร. แถลงผลประชุม เห็นชอบคำสั่งให้ 'บิ๊กโจ๊ก' ออกจากราชการ โดยชอบกฎหมาย

พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. ในฐานะเลขานุการ ก.ตร. กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีผู้ร้องขอให้ ก.ตร. พิจารณาเกี่ยวกับการปฎิบัติการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ