'กรมบังคับคดี' เผยโพล ปชช.เชื่อมั่นกระบวนการบังคับคดี ปี 66 พบเพิ่มสูงขึ้น 9.20 คะแนน

19 ก.ย.2566- นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี ร่วมกับ รศ. พ.ต.อ.หญิง ดร.กัญญ์ฐิตา ศรีภา หัวหน้าโครงการสำรวจ ดร.สาลินี ขจรไพร ผู้วิจัย และคณะผู้วิจัย บริษัท พีเอเอส คอนซัลแทนท์ แอนด์ รีเซิร์ช จำกัด แถลงผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยผลจากการสำรวจพบว่า ค่าเฉลี่ย 9.20 คะแนน เชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีในภาพรวม ซึ่งสูงกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่มีค่าเฉลี่ย 9.11 คะแนน

นางทัศนีย์ แถลงว่า ภารกิจหลักของกรมบังคับคดี มีภารกิจด้านการบังคับคดีแพ่ง คดีล้มละลาย การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ การชำระบัญชีการวางทรัพย์และการไกล่เกลี่ย ข้อพิพาทชั้นบังคับคดีภายหลังคำพิพากษาเป็นกระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง โดยดำเนินการตามขั้นตอนและตามกฎหมายให้ความเป็นธรรม โปร่งใส และอำนวยความสะดวกแก่คู่ความทุกฝ่ายในคดี รวมถึงประชาชนผู้รับบริการตามแผนปฏิบัติราชการ ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ของกรมบังคับคดี และกำหนดยุทธศาสตร์ การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ

“เพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปสู่การพัฒนาองค์การ โดยสานต่องานเดิมสร้างเสริมงานใหม่ผ่านกลยุทธ์ที่สำคัญ ภายใต้ ChangeBetter to Be LED 5G+ ต่อยอด สร้างสรรค์เน้นคุณค่า อย่างยั่งยืน ดังนั้น การนำความคิดเห็นจากผู้รับบริการ ผู้มีส่วนได้เสียนำมาพัฒนาปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลของงานราชการและการบริการประชาชน ตลอดจนการสนับสนุนการปรับปรุงการให้บริการดียิ่งขึ้น โดยเน้นประชาชนเป็นหลัก จึงได้มีการสำรวจการวิจัย โครงการสำรวจความคิดเห็นนี้” อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าว

ด้าน รศ. พ.ต.อ.หญิง ดร.กัญญ์ฐิตา เปิดเผยว่า การวิจัยสำรวจในครั้งนี้ เป็นการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของกระบวนการบังคับคดีให้ครอบคลุมใน 6 กระบวนการ ได้แก่ 1.กระบวนการบังคับคดีแพ่ง 2.กระบวนการบังคับคดีล้มละลาย 3.กระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ 4.กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี 5.กระบวนการประมูลซื้อทรัพย์/การขายทอดตลาด และ 6.กระบวนการวางทรัพย์ และสำรวจการรับรู้ การใช้และความพึงพอใจของเครื่องมือที่กรมบังคับคดีได้จัดทำขึ้น โดยผลการสำรวจดังกล่าวเก็บจากกลุ่มประชากรเป้าหมายจำนวนทั้งสิ้น 3,680 รายทั่วประเทศ โดยใช้วิธีการรวบรวมข้อมูลทั้งสำรวจด้วยแบบสอบถาม สัมภาษณ์เชิงลึก และจัดสนทนากลุ่ม

รศ. พ.ต.อ.หญิง ดร.กัญญ์ฐิตา กล่าวอีกว่า สำหรับผลการสำรวจภาพรวมประชาชนเชื่อมั่นและพึงพอใจ มีค่าคะแนนดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา สรุปผลการสำรวจได้ ดังนี้ ความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการต่อกระบวนการบังคับคดี ค่าเฉลี่ย 9.2 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีโดยภาพรวม ค่าเฉลี่ย 9.2 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีแพ่ง ค่าเฉลี่ย 9.18 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีล้มละลาย ค่าเฉลี่ย 9.16 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ค่าเฉลี่ย 9.22 มีความความเชื่อมั่นต่อกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี ค่าเฉลี่ย 9.2 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการประมูลซื้อทรัพย์/การขายทอดตลาด และค่าเฉลี่ย 9.24 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการวางทรัพย์

รศ. พ.ต.อ.หญิง ดร.กัญญ์ฐิตา กล่าวต่อว่า ส่วนความพึงพอใจของประชาชนผู้รับบริการต่อกระบวนการบังคับคดี ค่าเฉลี่ย 9.36 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการบังคับคดีโดยภาพรวม ค่าเฉลี่ย 8.98 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการบังคับคดีแพ่ง ค่าเฉลี่ย 8.96 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการบังคับคดีล้มละลาย ค่าเฉลี่ย 9.48 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ค่าเฉลี่ย 9.56 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี ค่าเฉลี่ย 9.58 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการประมูลซื้อทรัพย์/การขายทอดตลาด และค่าเฉลี่ย 9.54 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการวางทรัพย์

รศ. พ.ต.อ.หญิง ดร.กัญญ์ฐิตา กล่าวด้วย จากผลการสำรวจพบการดำเนินงานที่เป็นจุดเด่น คือ นโยบายชัดเจน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561- 2580) ยึดหลักกฎหมาย ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส เป็นธรรม และจิตบริการ

เน้นคุณภาพการบริการ ไม่เลือกปฏิบัติ ผู้รับบริการเชื่อมั่นและพึงพอใจ นำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนกระบวนงานตามภารกิจหลักและระบบ Back office เน้นประชาสัมพันธ์หลากหลายช่องทาง และประชาสัมพันธ์เชิงรุกทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไขปัญหา

มีกระบวนการบังคับคดีที่ช่วยเหลือและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และมีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นและผู้มีส่วนได้เสีย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

เผยคนไทยให้เกียรติคนที่ใช้ ตำแหน่ง ยศ นำหน้าชื่อ และเกือบ 90% ไม่เคยตรวจสอบว่าจริงหรือไม่

นำหน้านามนั้น สำคัญไฉน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับคำนำหน้านาม

มีแต่ได้กับได้! 'ก้าวไกล' ประกาศไม่จับมือ 'เพื่อไทย' ตั้งรัฐบาล

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ก้าวไกล” ประกาศไม่จับมือ “เพื่อไทย” เป็นรัฐบาล มีแต่ได้กับได้