
สสส. จับมือภาคีเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง จัดเวทีเสียงเยาวชนเพื่อการเปลี่ยนแปลง ส่งสัญญาณถึงทุกภาคส่วนร่วมสร้างสังคมลดการเข้าถึง ยาเสพติด เหล้า พนัน อุบัติเหตุ เร่งขยายพื้นที่สร้างสรรค์ ไม่ปิดกั้นความหลากหลายทางเพศ ด้านเครือข่ายเยาวชนเรียกร้องสนับสนุนการรวมกลุ่มของเด็กเยาวชน
17 ก.ย.2566 – ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ภาคีเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติ ปี 2566 ตอน “Youth Voice For Change” เสียงเยาวชนเพื่อการเปลี่ยนแปลง
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. มีจุดยืนในการป้องกันเยาวชนให้ห่างไกลจากปัจจัยเสี่ยงทั้งบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาเสพติด การพนัน ซึ่งนำมาซึ่งปัญหาอุบัติเหตุ ปัญหาความรุนแรง ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากรไทย ปี 2564 พบเยาวชน อายุ 15-24 ปี สูบบุหรี่ 12.7% ลดจากปี 2560 ที่อยู่ที่ 15.4% โดยมีนักสูบหน้าใหม่ที่สูบบุหรี่ไม่เกิน 1 ปี 211,474 คน ในจำนวนนี้ พบว่า 73.7% เริ่มสูบบุหรี่ช่วงอายุ 15-19 ปี ขณะเดียวกันมีอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 78,742 คน คิดเป็น 0.14% ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่มีจำนวน 57 ล้านคน ส่วนการดื่มสุราในเยาวชนอายุ 15-24 ปี ปี 2547-2558 อัตราการดื่มอยู่ที่ 23.5%-29.5% ปี 2564 ลดเหลือ 20.9% หรือประมาณ 1.9 ล้านคน ทั้งยังพบการดื่มแล้วขับ 33.06% ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนถนน บาดเจ็บและเสียชีวิตกว่า 25.09% ก่อความรุนแรง 24.7% เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด 17.2%
“ขณะที่ปัญหาการพนันในปี 2564 พบว่ามีคนไทยต้องอยู่ท่ามกลางคนเล่นพนัน 59.6% ประมาณ 32 ล้านคน ในคนอายุ 15 ปีขึ้นไป เล่นพนัน 4.3 ล้านคน มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นปัญหา 6 แสนคน มีแนวโน้มเป็นนักพนันหน้าใหม่เพิ่มจาก 6.28 แสนคนในปี 2560 เป็น 7.95 แสนคน ในปี 2564 บางคนเป็นผู้ที่มีปัญหาครบทุกความเสี่ยง จากปัญหาสภาพปัญหาดังกล่าว สสส. จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายวางยุทธศาสตร์ในการรณรงค์แก้ไขปัญหา ทั้งงานด้านวิชาการ และการทำงานเชิงพื้นที่ เพื่อทำให้เกิดสังคมที่ห่างไกล ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพื่อสุขภาวะของเด็กและเยาวชน” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว
นางสาวศุภัทรา ภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง กล่าวว่า ภาคีเครือข่ายด้านเด็ก และเยาวชน ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ข้อเสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังนี้ 1.ขอให้รัฐบาลมีนโยบายที่ปกป้องและลดผลกระทบกับเด็กและเยาวชนจากปัจจัยเสี่ยง เหล้า พนัน บุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติด อุบัติเหตุและการคุกคามทางเพศ โดยประกาศจุดยืนไม่สนับสนุนนโยบายเพิ่มพื้นที่เสี่ยงและโอกาสในการเข้าถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ปกป้องเด็กและเยาวชนที่เติบโตเป็นอนาคตของชาติ 2.ขอให้รัฐบาลสนับสนุนพื้นที่และการรวมกลุ่มทำกิจกรรมสร้างสรรค์ของเด็กและเยาวชนทั้งในและนอกระบบการศึกษา ให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ตามที่ตนเองสนใจ และพัฒนาความรู้ ความสามารถนำมาพัฒนาต่อยอดได้ในการดำเนินชีวิต และไม่ปิดกั้นความหลากหลายทางเพศ
นางสวศุภัทรา ระบุว่า 3. ขอให้รัฐบาลเร่งดูแลมาตรการเชิงป้องกันเด็กและเยาวชนจากกัญชาและกระท่อมเป็นการด่วน 4.ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชน เร่งจัดหาบุคลากรที่มีความเข้าใจในเรื่องสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นมาช่วยดูแล ป้องกันแก้ไขทั้งในระบบการศึกษาและนอกระบบ เนื่องจากปัญหาสุขภาพจิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของเด็ก เยาวชนในปัจจุบัน
ด้านนายวรวุฒ อมะรึก เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา กล่าวว่า เด็กและเยาวชนเติบโตขึ้นทุกวัน สวนทางกับพื้นที่สร้างสรรค์ พื้นที่แสดงออกที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ ในสังคม จากวิกฤตการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา ทั้งวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ภัยพิบัติธรรมชาติ สื่อออนไลน์ วิกฤตการเมือง ความคิดเห็นต่างรุ่นต่างgen ทำให้เด็กๆ เกิดภาวะ learning loss การเรียนรู้ที่ถดถอยเรื่อยๆ เด็กเล็กหยุดอยู่บ้าน ติดจอติดมือถือ เพราะขาดการทำกิจกรรมนอกบ้าน มีภาวะน้ำหนักเกิน จากพฤติกรรมเนือยนิ่ง ภาวะเครียดสะสมจากการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เป็นโรคซึมเศร้านำมาสู่อัตราการจบชีวิตที่สูงขึ้น
“เมื่อมีพื้นที่แสดงออก หรือพื้นที่สร้างสรรค์มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจะช่วยปลุกพลัง ปลุกแสงในตัวเด็กเยาวชนให้ส่องประกายให้มีชีวิตชีวา ทำให้เด็กสามารถได้ลองทำ ลองเล่น เพื่อค้นหาตัวตนหรือความสามารถของตัวเอง รวมถึงได้แสดงความสามารถ เช่น การเล่นสเก็ตบอร์ด แม้จะมีลานสเก็ตบอร์ด แต่ไม่มีเงินซื้อ เด็กจะไม่สามารถค้นหาว่าตัวเองเก่งเรื่องนี้ ดังนั้นถ้ามีพื้นที่และมีอุปกรณ์ให้เด็กได้ลองใช้ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ รวมถึงพื้นที่สร้างสรรค์ ต้องกระจายให้เด็กเยาวชนครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เด็กในเมืองและชนบทต้องเข้าถึงได้ง่าย และให้คุณค่าของคนในชุมชน ครูภูมิปัญญาเป็นผู้ออกแบบการเรียนรู้บนฐานชุมชนได้ เพราะเด็กเยาวชนไม่มีวันหยุดในการเรียนรู้ เด็กต้องได้เล่น ได้แสดงออก ได้ค้นหาประสบการณ์ใหม่ที่ท้าทายอยู่เสมอ ดังนั้น ทุกพื้นที่รอบตัวเด็กต้องเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ พื้นที่ฉายแสงลดพื้นที่เสี่ยง” นายวรวุฒิ กล่าว
นายศุภวัฒน์ ไชยโกศ เยาวชนที่เคยก้าวพลาด อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า พ่อเป็นคนติดเหล้า กลับจากทำงานมาก็เมาตลอด เมาหนัก กลับมาบ้านก็ทะเลาะกับแม่ ทำร้ายแม่ ถ้าแม่ไม่อยู่ก็จะมาลงที่ผม พ่อใช้ความรุนแรงตลอด จึงกลายเป็นเด็กที่เก็บกดรับความรุนแรงที่เห็นทุกวันมาใช้ข้างนอกกับเพื่อน หรือคนอื่นๆ กลายเป็นเสพติดการใช้ความรุนแรง สร้างตัวตนการยอมรับจากเพื่อน ทำทุกวิธีให้เพื่อนยอมรับ จึงต้องไล่ตี ฟันแทง กับคู่อริอยู่ตลอด เหตุการณ์เกิดขึ้นมีนาคม 2559 ตอนนั้นอายุ 17 ปี ไล่ตามยิงคู่อริต่างสถาบัน โดนจับในคดีร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ต้องรับความผิดที่ตนเองก่อไว้ จากบ้านต้นทางมาจนถึงเข้าสู่บ้านกาญจนาภิเษก มีกิจกรรมการทำ Empower ดึงคนในครอบครัวมาช่วยกันคิดว่าสิ่งไหนที่เป็นปัจจัยผลักไสให้เด็กออกจากบ้าน
“พ่อแม่ต้องมาช่วยกันคิด วิเคราะห์ร่วมกัน เพราะครอบครัวมีพลังอำนาจเปลี่ยนแปลงเด็กได้ จากการแลกเปลี่ยนความคิดที่จะทำยังไงถึงจะรอดจากปัญหาเหล่านี้ จากนั้นก็นำไปสู่การแก้ปัญหา พ่อเลิกกินเหล้า แม่เลิกบ่น ใช้เวลาหลายเดือน เข้าร่วมกิจกรรมหลายครั้ง ผมก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น การกอบกู้ความคิดที่ผิดพลาดให้คิดใหม่ จุดเปลี่ยนนี้ทำให้ได้ครอบครัวที่อบอุ่นกลับคืนมา เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อครอบครัว มีความสุขมากขึ้น สำหรับผมแล้วเหล้ามันเข้ามาทำร้ายผมและครอบครัวจริงๆ วันเยาวชนในปีนี้จึงอยากให้ภาครัฐหันมาฟังเสียงของพวกเราบ้าง” อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกบ้านกาญจนาภิเษก กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ทิ้งเด็กไว้ข้างหลัง! หนุนแนวทางฟื้นฟูกายใจกลางวิกฤตภัยพิบัติและสงคราม
สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย เปิดเวทีสื่อสาร “แนวทางการดูแลและฟื้นใจเด็กในภาวะภัยพิบัติ-สงคราม” หวังก้าวผ่านผ่านวิกฤตเยียวยาฟื้นฟูทั้งทางกายและจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ขับเคลื่อน...ข้อมูลสุขภาพ กุญแจหยุดโรคเรื้อรังของสังคมไทย
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตยุคดิจิทัล โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ได้ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาเป็นภัยเงียบของคนไทยอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่โรคเบาหวาน
สสส. สานพลัง เครือข่ายเล่นเปลี่ยนโลก-เครือข่ายเด็ก เยาวชนภาคใต้ เดินหน้าหนุนชุมชนสร้าง “ลานเล่นอิสระ” ใกล้บ้าน
น.พ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า เหตุการณ์วิกฤตน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต เกิดผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
สสส. ปลื้ม แนวคิด “Happy Workplace” ช่วยคนทำงานอุตสาหกรรมขนส่ง 102 แห่ง สุขภาวะดี-ลดป่วย NCDs-ลดอุบัติเหตุทางถนน เดินหน้าสานพลัง สมาคมขนส่งสินค้าฯ เปิดเวที “TRUCK HERO : ฮีโร่รถบรรทุก ขับเคลื่อนความปลอดภัย ใส่ใจสุขภาวะ”
สสส. สานพลัง สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย จัดกิจกรรม “TRUCK HERO: ฮีโร่รถบรรทุก ขับเคลื่อนความปลอดภัย ใส่ใจสุขภาวะ” ภายใต้โครงการขับเคลื่อนและขยายผลการเสริมสร้างสุขภาวะในองค์กรแก่บุคลากรในธุรกิจขนส่ง ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
รัฐบาลไทยเร่งแก้ปัญหาท้องในวัยรุ่น บูรณาการความร่วมมือ 3 หน่วยงาน ถอดบทเรียน 8 คู่มือปฏิบัติงานเสริมสร้างกลไภความเข้มแข็งในระดับพื้นพื้นที่
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน พิธีเปิด "การประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อส่งมอบผลงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของประเทศ" โดยจัดขึ้นร่วมกันระหว่างสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
สสส. ผนึกกำลัง 10 หน่วยงาน 100 ภาคี เตรียมจัดงานThailand National PM 2.5 Forum #2 เปลี่ยนระบบ เชื่อมข้อมูล ขับเคลื่อนอากาศสะอาด
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงข่าวเตรียมความพร้อมการประชุมระดับชาติ เรื่อง มลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งที่ 2 (Thailand National PM2.5 Forum #2)

