ศาลปกครอง-สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมลงนาม MOU

13 ธ.ค. 2564 - ที่ อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายชาญชัย แสวงศักดิ์ ประธานศาลปกครองสูงสุด และนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้เกียรติเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยมี นางสมฤดี ธัญญสิริ เลขาธิการสำนักงาน ศาลปกครอง และ พันตำรวจโท กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมลงนาม ในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เพื่อประสานความร่วมมือภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงานให้สอดคล้องเชื่อมโยงกัน อันจะเป็นการส่งเสริมให้การปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและต่อประชาชน

เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง กล่าวว่า สำนักงานศาลปกครองมีภารกิจสำคัญประการหนึ่งในการวิเคราะห์เหตุแห่งการฟ้องคดีปกครอง เพื่อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงวิธีปฏิบัติราชการต่อหน่วยงานของรัฐ ที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ โดยเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐ เพื่อปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือไม่เป็นธรรม และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมของประชาชนอันเกิดจากกระทำของหน่วยงานของรัฐ ตลอดจนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ให้ทราบถึงการที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วน ตามหมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ ที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ ทั้งสองหน่วยงานจึงมีภารกิจที่สอดคล้องและมีเป้าหมายอย่างเดียวกัน คือ การเสริมสร้างธรรมาภิบาล ในสังคม จึงได้เห็นพ้องที่จะมีความร่วมมือในการสนับสนุนส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเรื่องร้องเรียน ของผู้ตรวจการแผ่นดินและข้อมูลคดีปกครอง เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์เหตุแห่งการฟ้องคดีปกครองและแนวทาง การปฏิบัติราชการจากคำพิพากษาของศาลปกครอง ตลอดจนวิเคราะห์เหตุแห่งการร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อเสนอแนะให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน หรือเป็นภาระแก่ประชาชนโดยไม่จำเป็นหรือเกินสมควรแก่เหตุ อีกทั้งความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการประสานความร่วมมือภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่สอดคล้องเชื่อมโยงกัน โดยมีแนวทางความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การเสริมสร้างธรรมาภิบาลในสังคม การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านคดีปกครอง การพัฒนาบุคลากร การศึกษาวิจัยและงานวิชาการ และการจัดการทรัพยากรสารสนเทศ รวมทั้งงานด้านอื่น ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของทั้งสองหน่วยงานด้วย

ด้านเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และสำนักงาน ศาลปกครอง ได้ตระหนักร่วมกันถึงความสำคัญของภารกิจการเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงวิธีปฏิบัติราชการ กฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบต่อหน่วยงานของรัฐ เพื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาลในสังคม และส่งเสริม สนับสนุน การดำเนินงานของศาลปกครองร่วมกับผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือทางวิชาการของ ทั้งสองหน่วยงานในครั้งนี้ จะเป็นการยกระดับการทำหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงานในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน และเป็นแนวทางในการพัฒนาความร่วมมือด้านต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของทั้งสองหน่วยงานในอนาคตต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' วอนให้ทุกฝ่ายเงียบ! รอคำสั่งศาลปกครองปมเขากระโดง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1 ) กล่าวถึงข้อพิพาทเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ระหว่างก

ร้องผู้ตรวจการฯ สอบ สทนช. ละเว้นปฏิบัติหน้าที่-ข้อมูลไม่ครบ แต่เดินหน้าจัดเวทีสร้างเขื่อนสานะคาม

ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินสอบ สทนช. ละเว้นปฎิบัติหน้าที่-ข้อมูลไม่ครบแต่เดินหน้าจัดเวทีโครงการสร้างเขื่อนสานะคาม

ศาลปกครองสูงสุด ออกแถลงการณ์ยกคำร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ปิดฉากคัมแบ็กตำรวจ

ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ระหว่าง พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ฟ้องคดี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ 1 คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ที่ 2

'ภูมิใจไทย' วอนเคารพการทำหน้าที่ขององค์กรที่เกี่ยวข้อง กรณี 'เขากระโดง'

นายคารม พลพรกลาง ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า เมื่อศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้กรมที่ดินดำเนินการต