ร้อง 'ประธาน ก.อ.' คดีเหมืองทองอัคราไม่คืบ หวั่นอืดจนหมดอายุความ

ชาวบ้านยกขบวน ขอความคืบหน้าประธาน ก.อ.สอบอดีตอัยการสูงสุด ปมเหมืองทองอัครา หวั่นลากจนหมดอายุความ

13 ธ.ค. 2564 – ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ ตัวแทนกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ พร้อมชาวบ้านรวม 16 คน เดินทางไปยื่นหนังสือ ถึงนายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เพื่อขอทราบผลการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่เคยยื่นเรื่องเพื่อให้ดำเนินการสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อดีตอัยการสูงสุด รวมถึงอัยการผู้เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) 

นางวันเพ็ญ กล่าวว่า ขอให้นายพชร ตรวจสอบถึงอดีตอัยการสูงสุดที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีการดำเนินการสั่งฟ้องบริษัท อัครา ไมนิ่ง จำกัด หรือ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ในความผิดเกี่ยวกับการเข้าดำเนินธุรกิจเหมืองทองคำ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ เหมืองทองอัครา โดยไม่ได้รับอนุญาต ในจังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดอื่นรวม5 จังหวัด ต่อศาล หลังมีการส่งหลักฐานและความเห็นสมควรสั่งฟ้องมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อช่วงปลายปี2561 แต่เมื่อเรื่องมาถึงอัยการแล้วกลับไม่มีคำสั่งใด ๆ และต่อมาตนเองได้รับแจ้งจากพนักงานอัยการว่าอัยการสูงสุด ซึ่งตั้งคณะทำงานได้พิจารณาเเล้วว่าไม่พบมูลความผิดทำให้ประเด็นการบุกรุกถนนสาธารณะทำเหมือง ไม่ถูกนำมาดำเนินคดี

“ ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งใด ๆ ออกมาชัดเจน โดยตนเองเกรงว่าหากล่าช้ากว่านี้ คดีจะหมดสิ้นอายุความอันจะทำให้เกิดความเสียหายกับชาติบ้านเมือง ซึ่งคดีนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะก่อนหน้านี้ตนก็เคยนำพยานหลักฐานเอกสารสำคัญซึ่งเป็นภาพถ่ายดาวเทียม เเละเอกสารอื่น ๆ ยื่นถึงอดีต อสส. แต่กลับไม่มีการพิจารณาสั่งคดี โดยขอทราบว่าประธาน ก.อ. ได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วถึงไหนอย่างไรจึงขอให้โปรดชี้แจงข้อเท็จจริงต่อตนเเละคณะเพื่อให้ทราบด่วนที่สุดภายใน 7 วัน” นางวันเพ็ญ ระบุ

พร้อมกันนี้ นางวันเพ็ญ ยังทำหนังสือ อีกฉบับยื่นถึง อัยการสูงสุดคนปัจจุบัน เพื่อขอติดตามความคืบหน้า ในคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีการส่งความเห็นสั่งฟ้อง ในประเด็นอื่นหลังพบว่าบริษัทดังกล่าวทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ และพ.ร.บ.ทางหลวง รวม 4 ข้อหา ซึ่งมีการส่งเรื่องมาตั้งแต่ปี 2561 เช่นกัน แต่จนถึงขณะนี้ ทราบว่ามีการเปลี่ยนอัยการเจ้าของสำนวนมาแล้ว 3 ชุด ในวันนี้ จึงเดินทางเพื่อความทราบผลความคืบหน้าในทั้งสองประเด็น 

โดยนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษก สำนักงานอัยการสูงสุด ได้เดินทางมารับหนังสือไว้ พร้อมแจ้งว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนเกี่ยวกับการส่งหนังสือไปถึงอัยการสูงสุดโดยเร็ว 

ภายหลังการยื่นหนังสือ นางวันเพ็ญ ยังระบุอีกว่า ส่วนตัวหลังมีการยื่นหนังสือในวันนี้แล้วรู้สึกสบายใจว่าเรื่องการติดตาม จะมีความคืบหน้า เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการยื่นหนังสือตรงกับท่านรองโฆษกฯ จนทำให้เรื่องเงียบหายไปแต่วันนี้ ท่านรองโฆษกฯ ลงมาเป็นผู้รับเอง จึงเชื่อว่าจะมีความคืบหน้า 

“วันนี้ในช่วงเช้าที่ผ่านมาที่ได้เดินทางไปยื่นหนังสือ ให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อกับเรื่องดังกล่าว ที่มีทั้งอดีตอัยการสูงสุดเเละคณะ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและข้าราชการในตำแหน่งอื่น ๆ อีกหลายคน ว่าเข้าข่ายการละเว้น การปฏิบัติหน้าที่ ที่ไม่ยอมดำเนินการนำตัวคนทำผิดมาดำเนินคดีหรือไม่ ก็ทราบว่าการดำเนินการมีผลความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดีเช่นกัน” นางวันเพ็ญ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ 22 พ.ย.

'จตุพร' แทงสวน อสส.ส่งความเห็นหลังปล่อยอำนาจหลุดมือ เชื่อ 22 พ.ย. ศาลรธน. มติเอกฉันท์ รับคำร้อง โต้สีอื่นไม่เคยตกใส่เสื้อแดง มีแต่สีคนตระบัดสัตย์ไม่ซื่อตรงปชช. ชี้ 'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ เตือนหลายฝ่ายทนไม่ไหว คดีทุจริตไม่ติดคุกสักวัน หวั่นเหตุการณ์ซ้ำรอย

เข้าทาง! ผู้ร้องคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง ฟันธงศาลรธน. รับคำร้องแน่นอน

จากกรณีที่มีข่าวว่านายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ได้ส่งหนังสือความเห็นถึงศาลรธน.ในคำร้องคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ร้องว่า นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่หนึ่งและพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่สอง

ตามคาด! อสส.ไม่รับดำเนินการคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง

อัยการสูงสุดไม่รับดำเนินการคดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเเล้วพร้อมผลการสอบถ้อ

'อสส.' ตอบความคืบหน้าคดี ทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างปกครองฯ ต่อศาลรธน.เเล้ว

รายงานข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด ความคืบหน้ากรณี เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีเผยแพร่เอกสาร การพิจารณาคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา