คาดภายใน ก.ค.นักท่องเที่ยวเข้าไทยเกิน 15 ล้านคนแน่!

คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเกิน 15 ล้านคนภายใน ก.ค. รัฐบาลเร่งยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่ระบบนิเวศใหม่ สร้างจุดขายการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ชูจุดเด่นเข้าถึงตลาดทั่วโลก

20 ก.ค.2566 – น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นในกลุ่มเอเชียตะวันออกและยุโรป คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยจะเกิน 15 ล้านคน ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 โดยเป็นผลมาจากการเข้าสู่ช่วงการปิดภาคการศึกษาในหลายภูมิภาค รวมถึงการดำเนินการตามนโยบายผลักดันการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ตอบสนองพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มมากขึ้น

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ใช้กลยุทธ์ผลักดันการท่องเที่ยวที่สร้างจุดขายใหม่ และเพิ่มความพิเศษให้กับประเทศไทย ผ่านการใช้กลยุทธ์ชูสินค้าท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ โดยได้เปิดโครงการ Amazing Thailand Health and Wellness New Chapters New Experience สร้างปรากฏการณ์ใหม่ การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ยกระดับสินค้าและบริการเชิงการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของไทยให้มีความโดดเด่น แตกต่าง ดึงดูดความสนใจของกลุ่ม Wellness Tourist ทั่วโลกที่มีกำลังซื้อสูง นำไปสู่การเป็นจุดหมายปลายในด้านการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพอย่างยั่งยืนที่สำคัญของโลก โดยตั้งเป้าหมายว่า การเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะมีการใช้จ่าย เพื่อซื้อสินค้าและบริการการท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการฯ ไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท ภายในเดือนกันยายนนี้

นอกจากนี้ ททท. ยังมีแผนที่จะสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว เน้นคุณค่า ความสมดุล และความยั่งยืน โดยสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ด้วย 5 ทิศทางหลัก ได้แก่ 1.เสริมภาพลักษณ์แบรนด์ท่องเที่ยวไทย ด้วยความยั่งยืน และสร้างสาระรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและชุมชน (Travel with Care) 2.รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) รุกเปิดตลาดคุณภาพใหม่ให้ท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง 3.แสวงหาคู่ค้ารายใหม่และขยายความร่วมมือกับคู่ค้ารายใหญ่ในเวทีโลก 4.ขยายการเดินทางเชื่อมโยงทางบกเข้าถึงประเทศไทย และ 5.ใช้ Digital Content เสริมพลังทางการตลาด

สำหรับตลาดในประเทศ ททท. จะเพิ่มการกระจายตัวในการท่องเที่ยวหลากหลายพื้นที่มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้ทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม ควบคู่กับการนำเสนอจุดแข็งสู่จุดขายของ Soft Power (5F) และนำเสนอสินค้าเชิงประสบการณ์ผ่านอัตลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังได้ตั้งเป้าหมายอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปี 2567 บนพื้นฐานของสถานการณ์ท่องเที่ยว ที่มีปัจจัยเอื้ออำนวยในทุกด้าน (Best Case Scenario) โดยคาดการณ์รายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 1.92 ล้านล้านบาท ดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าไทยจำนวน 35 ล้านคน ขณะที่ตลาดในประเทศ จะสร้างรายได้หมุนเวียนถึง 1.08 ล้านล้านบาท จากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย 200 ล้านคน – ครั้ง

“ประเทศไทยมีศักยภาพทั้งที่เกิดจากแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ ศักยภาพในการจัดการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว และศักยภาพทางกลยุทธ์ที่ได้กำหนด ยุทธศาสตร์ กิจกรรมที่หลากหลาย รองรับกระแสนิยมทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่มีคุณภาพ ซึ่งหมายความว่านอกจากศักยภาพทางธรรมชาติ รัฐบาลสนับสนุนการท่องเที่ยวได้อย่างเหมาะสม ตรงจุด ส่งเสริม ยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างสมดุล ยั่งยืน” น.ส.รัชดากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลชวนปชช. จอง-แลกเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เริ่ม 24 ก.ค.

รัฐบาลเชิญชวนประชาชน จอง-แลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ตั้งแต่ 24 ก.ค.นี้

ททท. เปิดตัวกิจกรรม อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ชวนร่วมสร้างคอนเทนต์ส่งแรงบันดาลใจท่องเที่ยว

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม Amazing Thailand Passion Ambassador ขานรับนโยบายจาก นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ททท. จับมือ ฮาล์ฟ โทสท์ ชวนฟินกับเทศกาล 'เขา มันส์ ได้!' ที่สวนผึ้ง

Why Festival Carnival Charity เทศกาล “เขา มันส์ ได้” เทศกาลดนตรีสุดฟินที่จะพาคุณไปอินกับเสียงเพลง ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติแห่งขุนเขา อัดแน่นด้วยกิจกรรมเพื่อคนรุ่นใหม่ตลอดวัน ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินดังทั้งไทยและต่างประเทศ

'คารม' แจงยิบยัน 'กยศ.' คิดดอกเบี้ยอัตรา 1%

'คารม' ย้ำ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาคิดดอกเบี้ยอัตรา 1% ตั้งแต่เริ่มกู้จนชำระเสร็จสิ้น ไม่มีการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย ขอให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้ตามจำนวนที่แจ้งในหน้าแอปพลิเคชัน กยศ.Connect