รัฐบาลผวาป่วยฝีดาษวานรพุ่งแนะเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง

โฆษกรัฐบาล ประชาสัมพันธ์หลักปฏิบัติเพื่อป้องกันตนเองจากโรคฝีดาษวานร แนะเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง หากเคยใกล้ชิดกับคนแปลกหน้าหรือผู้ป่วยฝีดาษวานร ให้สังเกตอาการจนครบ 21 วัน

05 ก.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรในเดือน มิ.ย.2566 จำนวน 48 ราย ซึ่งสูงกว่าเดือน พ.ค.ที่ได้รับรายงาน 21 ราย หรือจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 เท่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มชายรักชาย รัฐบาลจึงขอประชาสัมพันธ์ ไปยังคนที่ทำงานภาคบริการและแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน ในการป้องกันตนเองจากโรคฝีดาษวานร ตามหลักปฏิบัติของกรมควบคุมโรค โดยงดการสัมผัสแนบชิดกับผิวหนังผู้ป่วยหรือ ผื่น ตุ่มหนอง สารคัดหลั่ง ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน รวมทั้งขอให้สังเกตบุคคลที่คลุกคลีใกล้ชิด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

นายอนุชา กล่าวถึงข้อมูลกรมควบคุมโรคระบุว่า โรคฝีดาษวานรเป็นโรคติดต่ออุบัติใหม่ของประเทศไทย พบผู้ป่วยรายแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ปัจจุบันมีรายงานผู้ป่วยรวม 91 รายในไทย และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว มีรายงานพบผู้ป่วยเพิ่มจำนวน 48 ราย ซึ่งมากกว่า 2.3 เท่า ของผู้ป่วยในเดือนพฤษภาคมที่มีจำนวน 21 ราย เป็นคนไทย 41 ราย ชาวต่างชาติ 7 ราย ส่วนใหญ่พักอาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (38 ราย) และในจังหวัดสมุทรปราการ 3 ราย ชลบุรี นนทบุรี จังหวัดละ 2 ราย สมุทรสาคร ภูเก็ต ปทุมธานี จังหวัดละ 1 ราย ผู้ป่วย 48 ราย เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และมีประวัติติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ร่วมด้วย 22 ราย (คิดเป็น 45.8% ของผู้ป่วยในเดือน มิ.ย.2566) ส่วนใหญ่มีปัจจัยเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักก่อนป่วย

นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า กรมควบคุมโรคยืนยันยังไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต โดยเดือนที่ผ่านมาผู้ป่วยฝีดาษวานรรายใหม่เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีมากเกือบครึ่งหนึ่ง โรคนี้สามารถป้องกันได้โดยเลี่ยงไม่สัมผัสแนบชิดกับผู้ป่วย หรือผู้ที่สงสัยติดเชื้อฝีดาษวานร หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ที่มีผื่น ตุ่มหรือหนอง งดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด รวมทั้งแนะนำให้ล้างมือบ่อยๆ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น และสามารถตรวจสอบอาการเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง หากมีผื่น/ตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก หรือตามร่างกาย และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด สัมผัสแนบชิด หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้สงสัยฝีดาษวานร หรือผู้ป่วยฝีดาษวานร รวมทั้งกลุ่มผู้ดูแลผู้ป่วยสงสัยหรือเป็นฝีดาษวานรในขณะป่วย ให้สังเกตภายหลังสัมผัสผู้ป่วยภายใน 21 วัน และหลีกเลี่ยงการสัมผัสหญิงตั้งครรภ์ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หากมีอาการ ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต เช่น บริเวณหลังหู คอ ขาหนีบ เจ็บคอ คัดจมูก หรือ ไอ มีผื่น หรือ ตุ่มน้ำหรือ ตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือ ทวารหนัก หรือ บริเวณรอบ ๆ ตามมือ เท้า หน้าอก ใบหน้า หรือบริเวณปาก ให้รีบเข้ารับการตรวจที่สถานบริการสุขภาพ หรือโรงพยาบาล โดยแจ้งอาการและประวัติเสี่ยงทันที

ทั้งนี้ สถานการณ์โรคฝีดาษวานรระบาดเพิ่มขึ้นรวดเร็วในเวลาเดือนเดียว สะท้อนถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อในเพศชายวัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย กรมควบคุมโรคจึงขอความร่วมมือเครือข่ายที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชน เช่น โรงพยาบาลและคลินิกเอกชน องค์กรภาคประชาสังคม สถานประกอบการสุขภาพ ประเภทสปา ซาวน่า ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ และคำแนะนำในการสังเกตอาการโรคฝีดาษวานรสำหรับประชาชน เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และการป้องกันโรคฝีดาษวานรแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยง

“กรมควบคุมโรค เน้นย้ำว่า โรคฝีดาษวานรสามารถป้องกันได้โดยงดการสัมผัสแนบชิดกับผิวหนังผู้ป่วยและไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน นอกจากการสวมถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ให้สังเกตตุ่มหนองในบริเวณที่มีโอกาสสัมผัสแนบเนื้อ เพื่อป้องกันความเสี่ยงรับเชื้อจากการสัมผัส ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้กำชับไปยังคลินิกรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี ให้เพิ่มการสื่อสารมาตรการป้องกันโรคฝีดาษวานรอย่างสม่ำเสมอควบคู่กับเรื่องการดูแลสุขภาพอื่น ๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม โรคนี้ส่วนใหญ่หายได้เอง แต่สามารถพบผู้ป่วยมีอาการรุนแรงได้ในกลุ่มเด็กที่มีปัญหาด้านสุขภาพส่วนบุคคล เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีอาการแทรกซ้อน สามารถเข้ารับการตรวจได้ที่สถานบริการสุขภาพ โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือที่สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค หมายเลขโทรศัพท์ 0 2521 1668 และอาคารศูนย์การแพทย์บางรัก กรมควบคุมโรค หมายเลขโทรศัพท์ 0 2286 0431 หรือ สอบถามเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” นายอนุชากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พีระพันธุ์' ข้องใจนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด 'คนเดียวกันพูดคนละอย่างได้อย่างไร' จี้ป.ป.ส.แจง

'พีระพันธุ์' ข้องใจ นำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด 'คนเดียวกันพูดคนละอย่างได้อย่างไร' เล็งให้ ป.ป.ส.แจง หลังนโยบายชักเข้าชักออก ขอคุยก่อนประชุม ย้ำต้องอธิบายให้ได้

“สมศักดิ์” เห็นชอบตั้ง “ชาญเชาวน์” อดีตปลัดยุติธรรม จับมือหน่วยงานเกี่ยวข้องปราบบุหรี่ไฟฟ้า กวดขัน “ห้ามพกพา-สูบ” ในสถานที่ราชการ สนามบิน

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คนที่ 1

รัฐบาลต่อยอดยุค'ลุงตู่'สั่งเดินหน้ากระชับสัมพันธ์ซาอุฯ

นายกฯ ติดตามการทำงาน และสั่งการเดินหน้ากระชับสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ หลังการจัดงานประชุมภาคธุรกิจ Thai-Saudi Investment Forum จับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 100 คู่ พร้อมเปิดสำนักงาน BOI ณ กรุงริยาด

'เศรษฐา' สั่ง สธ.เร่งเพิ่มครูสอนพยาบาล

'รัดเกล้า' เผย อนุมัติงบเพื่อยกระดับโรงพยาบาลในจังหวัดนครปฐม-สระแก้ว นายกฯ ย้ำมีฮาร์ดแวร์แล้วต้องมีซอฟต์แวร์ด้วย สั่ง สธ. เพิ่มจำนวนครูสอนพยาบาล

นายกฯ เชื่อมั่น 69 นักกีฬาพาราลิมปิกไทยจะทำผลงานเยี่ยมที่ปารีส 2024

นายกฯ ชื่นชมความสามารถทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทย คว้าโควตาเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 17 ประเทศฝรั่งเศส ได้ 69 คน จาก 13 ชนิดกีฬา เชื่อมั่นทำผลงานดีเยี่ยม

รัฐบาลตีปี๊บจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวพร้อมวาดฝันปี 2568

รัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วง Green Season จัดกิจกรรม Amazing Beach Life Festival ใน 4 พื้นที่ ระยอง - พังงา - ภูเก็ต – สงขลา พร้อมตั้งเป้าปี 2568 เป็น Thailand Grand Tourism Year