1 ก.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทันสมัย รองรับการพัฒนาประเทศสู่การเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ยกระดับขีดความสามารถเชิงดิจิทัลของภาครัฐไทยให้เป็นเอกภาพสู่รัฐบาลดิจิทัล ที่มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน มีการทำงานแบบอัจฉริยะ ให้บริการโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง นั้น ล่าสุดกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมได้ประชาสัมพันธ์สำหรับผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถบรรทุก (70) ในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถยื่นดำเนินการขออนุญาตหรือต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง รวมถึงการขอเพิ่มรถ บรรจุรถ ถอนรถ ฯลฯ ในรูปแบบออนไลน์ ผ่านระบบงานใบอนุญาตประกอบการขนส่งอิเล็กทรอนิกส์ (DLT E-Transport License) ได้ที่เว็บไซต์ etl.dlt.go.th
โดยขั้นตอนการดำเนินการขออนุญาตและต่ออายุใบอนุญาตฯ เริ่มตั้งแต่การยื่นคำขอและส่งเอกสารหลักฐานแบบออนไลน์ การชำระเงินค่าธรรมเนียม ผ่านระบบ E-Payment ของกรมบัญชีกลาง และได้รับใบเสร็จรับเงิน และใบอนุญาตประกอบการขนส่งในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกันนี้ กรมการขนส่งทางบกมีแผนที่จะขยายผลการให้บริการระบบงานใบอนุญาตประกอบการขนส่งอิเล็กทรอนิกส์ (DLT E-Transport License) ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยจะเริ่มนำร่องใช้งานสำหรับผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถบรรทุก (70) ในส่วนภูมิภาค 4 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ สระบุรี ชลบุรี และนนทบุรี ในเดือนมิถุนายน 2566 ก่อนขยายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในปี พ.ศ. 2567 ต่อไป
“ระบบดังกล่าวที่กรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาขึ้น เพื่อมุ่งอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในส่วนของผู้ประกอบการขนส่งได้รับความสะดวก รวดเร็ว ลดการใช้กระดาษ ลดระยะเวลาการเดินทางและการติดต่อเจ้าหน้าที่ เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ประกอบการขนส่ง สามารถขอหรือต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งได้ทุกที่ทุกเวลา โดยที่ผู้ประกอบการขนส่งไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่กรมการขนส่งทางบก รวมถึงสามารถนำเอกสารดังกล่าวไปดำเนินการหรือติดต่อกับหน่วยงานอื่นได้อย่างรวดเร็ว อันเป็นการสนับสนุนและเอื้อต่อการประกอบธุรกิจและเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อทุกภาคส่วน สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย” นายอนุชาฯ กล่าว
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการขออนุญาตและต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งอิเล็กทรอนิกส์ (DLT e-Transport License) มีดังนี้ล
1. ลงทะเบียนใช้งานผ่านระบบยืนยันตัวบุคคลกลางสำหรับบริการภาครัฐ (Open ID)
2. ยื่นเอกสารและคำขอฯ แบบออนไลน์ผ่านระบบงาน DLT e-Transport License ที่เว็บไซต์ etl.dlt.go.th
3. เจ้าหน้าที่นัดหมายผู้ประกอบการขนส่งแบบออนไลน์ เพื่อตรวจสอบสถานที่เก็บ ซ่อม บำรุงรถ และรายงานผลการตรวจสถานที่ผ่านแอปพลิเคชัน DLT ETL
4. เจ้าหน้าที่จัดทำรายงานการตรวจสอบสถานที่ฯ ทำวาระการประชุมและจัดการประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
5. ชำระเงินแบบออนไลน์ผ่านระบบรับชำระเงินของกรมบัญชีกลาง และได้รับใบเสร็จในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ทันที
6. ระบบจัดส่งใบอนุญาตประกอบการขนส่งในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ โดยการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับผู้ประกอบการขนส่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอวรงค์' ประกาศล่า 1 แสนชื่อคนคลั่งชาติ ยกเลิก 'MOU 44'
'ไทยภักดี' ประกาศล่า 1 แสนรายชื่อคนคลั่งชาติ ยกเลิก MOU 44 แนะรัฐคุยกัมพูชา ลงสัตยาบัน UNCLOS ก่อนเจรจาผลประโยชน์
ครม. ตั้ง 'บิ๊กรอย' นั่งที่ปรึกษาภูมิธรรม 'คารม-ศศิกานต์' รองโฆษกรัฐบาล
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 3 ราย ดังนี้ 1.พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม
'ศิริกัญญา' ปูดรัฐบาลวางแผนยึดการบินไทย
“ศิริกัญญา” ชวนจับตา “รัฐบาล” วางแผนยึด “การบินไทย” ส่งผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ เพิ่ม 2 คน กุมเสียงข้างมาก คลังจ่อซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มสิทธิ์ ถามเอาเงินจากไหน ไม่พ้นต้องควักเงินภาษี
'หมอวรงค์' จับโป๊ะ! ยิ่งฟังรัฐบาลแจง ยิ่งต้องรีบยกเลิก 'MOU 44'
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ยิ่งฟังคำชี้แจงต้องยิ่งยกเลิก MOU 44
'นายกฯอิ๊งค์' ถกหัวหน้าส่วนราชการ ลุยลงทุน 9.6 แสนล้าน กระตุ้นจีดีพีประเทศ
นายกฯ ถกหัวหน้าส่วนราชการฯ กำชับผลักดันเม็ดเงินลงทุน 9.6 แสนล้าน สู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้น ‘จีดีพี’ ประเทศ
'เอ็ดดี้' ชำแหละ! แผนรัฐบาลคุม 'แบงก์ชาติ' บรรลุ 6 เป้าหลัก
นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์" ในหัวข้อ "อะไรคือจุดประสงค์ของการแทรกแซงแบงก์ชาติจากฝ่ายการเมือง"