'บิ๊กป้อม' ยกคณะรมต.พลังประชารัฐ ลุยสระแก้ว เร่งเปิดจุดผ่านแดนถาวร แก้ปัญหาแหล่งน้ำ

“บิ๊กป้อม” ยกคณะ รมต.พลังประชารัฐ – ธรรมนัส ลงพื้นที่สระแก้ว จี้ความคืบหน้าเปิดจุดผ่านแดนถาวร บ.หนองเอี่ยน ยกระดับเศรษฐกิจชายแดน พร้อมติดตามแก้ปัญหาแหล่งน้ำแซร์ออ ลดผลกระทบสัมพันธ์ ไทย – กัมพูชา

29 มิ.ย.2566 - เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คลัง และคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ประชุมเตรียมความพร้อมรับการเปิดจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพ ไทย - กัมพูชา (หนองเอี่ยน – สตึงบท) ที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ และติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ ในคณะยังพบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ได้ติดตามลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

พล.อ.ประวิตรและคณะ ได้รับฟังภาพรวมสรุปความก้าวหน้าการเตรียมความพร้อมรับการเปิดจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพ ไทย - กัมพูชา (หนองเอี่ยน - สตึงบท ) ที่มีความคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 40 อยู่ระหว่างเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน ส.ค.68 ปัจจุบันมีการนำเข้า - ส่งออก การค้าผ่านจุดผ่านแดนชั่วคราวดังกล่าว เฉลี่ยเดือนละ 7,800 ล้านบาท รถสินค้าผ่านแดนกว่า 700 คัน ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและการจราจรบริเวณด่านพรมแดนคลองลึก ที่เคยคับแคบมีความคล่องตัวมากขึ้น

โดยพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายไทย และกัมพูชา ที่ร่วมขับเคลื่อนการบริหารงานและการก่อสร้างจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ สะพานมิตรภาพ บริเวณบ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท ร่วมกันว่า จุดผ่านแดนถาวรดังกล่าวมีความสำคัญต่อการขยายตัวของพื้นที่เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะจ.สระแก้ว รวมทั้งเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศในภาพรวม และขอให้ทุกส่วนราชการให้ความสำคัญเร่งรัดทำงานร่วมกันและประสานการปฏิบัติกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิดในการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งระบบอำนวยความสะดวกคนเข้าเมือง และการผ่านสินค้าให้สามารถเปิดทำการได้อย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อยกระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศไปพร้อมกัน

จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้เดินทางต่อไปตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ อ.วัฒนานคร ณ อ่างเก็บน้ำแซร์ออ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพบปะประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปความคืบหน้าโครงการแก้ปัญหาคลองพรมโหด การก่อสร้างระบบส่งน้ำและอาคารประกอบโครงการอ่างเก็บน้ำแซร์ออ ซึ่งมีพื้นที่รับน้ำ 14.85 ตร.กม. พื้นที่รับประโยชน์ 5,065 ไร่ หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งสองโครงการ จะสามารถบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ราบลุ่มตอนล่าง ต.ท่าข้าม เทศบาลเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว และเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำหรับการเกษตร และอุปโภค บริโภคของประชาชนในพื้นที่

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ย้ำให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เตรียมมาตรการรับมือฤดูฝนปี 66 โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทุกกลุ่มให้เร็วและครอบคลุมทุกด้าน สำหรับการบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำแซร์ออ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขอให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนด เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง จ.สระแก้ว ขณะเดียวกัน ขอให้เร่งรัดดำเนินการพัฒนาลุ่มน้ำพรมโหด ตามโครงการที่ได้ศึกษาออกแบบไว้เป็นการเร่งด่วน เพื่อบรรเทาปัญหาและลดความเสียหาย ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยขอให้หน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงดูความร่วมมือในการบริหารจัดการน้ำกับกัมพูชา ซึ่งการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองพรมโหด พร้อมสถานีสูบน้ำ จะช่วยแก้ปัญหาน้ำหลากจากไทยไปยังกัมพูชา และลดผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กป้อม' เปิดบ้านป่ารอยต่อ คุย สส.พปชร. ย้ำทำหน้าที่ กมธ.งบ 68 อย่างรอบคอบ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญ อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค

แล้วกัน! พรรคร่วมยังไม่คอนเฟิร์ม ร่วมโต๊ะดินเนอร์ พปชร. เป็นเจ้าภาพ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี

สะดุ้ง 'เศรษฐา' ไม่เดินเข้าป่า!บอกให้รอดูต่อไปเขี่ย พปชร. พ้นรัฐบาลหรือไม่

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

'ธรรมนัส' ขอบคุณนายกฯ ไม่เขี่ย พปชร. พ้นรัฐบาล พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดดินเนอร์พรรคร่วม

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ในส่วนของพรรคพปชร.ไม่ได้มีปัญหาอะไร เห็นได้จากการโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)