ปลื้มเส้นทางเชื่อมต่อ 4 ปท.อาเซียน โครงข่ายระเบียง ศก. หนุนการค้าชายแดน

นายกฯ ปลื้มผลงาน ถนนเส้นประวัติศาสตร์ ทางหลวงหมายเลข 12 เชื่อมต่อ 4 ประเทศอาเซียน โครงข่ายคมนาคมเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก หนุนการค้าชายแดน

5 มิ.ย.2566-นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชื่นชมความสำเร็จผลงาน ถนนสายเศรษฐกิจเส้นประวัติศาสตร์ ทางหลวงหมายเลข 12 สายกาฬสินธุ์-บรรจบทางหลวงหมายเลข 12 (บ้านนาไคร้) – อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่ง รองรับการเดินทางในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร และส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก (East – West Corridor)

รัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างเชื่อมโยง โดยทางหลวงหมายเลข 12 แนวใหม่นี้ยังเชื่อมต่อ 4 ประเทศอาเซียนเข้าด้วยกัน โดยเริ่มจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ผ่านไปยังจังหวัดมุกดาหารเชื่อมต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไปสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในขณะที่อีกฝั่งสามารถวิ่งไปยังเมียนมาได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมทะเลจีนใต้กับมหาสมุทรอินเดียเข้าด้วยกันอีกด้วย ถือเป็นทางเศรษฐกิจใหม่ รวมทั้งยังเป็นทางลัดเชื่อมจังหวัดกาฬสินธุ์-มุกดาหาร ให้ประชาชนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก และลดระยะการในการเดินทาง 

นอกจากนี้ ทางหลวงหมายเลข 12 ยังเป็นเส้นทางสนับสนุน และรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สายเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor–EWEC) ช่วยกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค เพิ่มมูลค่าการค้าตามแนวชายแดน ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนอีกด้วย ซึ่งจากข้อมูลของกองยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหารมีการดำเนินการลงทุนแล้ว 3 โครงการ วงเงิน 392 ล้านบาท จากโครงการที่ขอรับการส่งเสริมฯจาก BOI 5 โครงการ วงเงิน 2,102 ล้านบาท และมีธุรกิจตั้งใหม่ 868 ราย วงเงิน 1,655 ล้านบาท

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสำเร็จจากยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาล การกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค ยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน คู่ไปกับการพัฒนาตามแนวทางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ใช้จุดแข็งและความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ของประเทศเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงทางคมนาคม เพิ่มโอกาส ช่องทางการค้าการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งส่งเสริมบทบาทของไทย ทั้งในระดับอนุภูมิภาค ภูมิภาค และทั่วโลก”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

แจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท ปิดปาก 'ปุ๋ย คนละครึ่ง'?

รัฐบาลเพื่อไทยนำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ผนึกกำลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

นายกฯ สั่ง ปปง.เร่งยึดทรัพย์แก๊งค้ายา

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ สั่ง ปปง.มีอำนาจพิเศษสูงต้องทำงานแบบล้วงลูก เร่งยึดทรัพย์ตัดตอนขบวนการค้ายาฯ อย่ามัวแต่ช้า หวั่นโอนเงินหนี กำชับอย่าทำงานแบบไซโลให้เป็นข้อครหา

'เศรษฐา' ฟุ้งเตรียมถกมะกันตัดตอนยาเสพติด

นายกฯ มอบอุปกรณ์ป้องกันและตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ย้ำให้ความสำคัญถือเป็นความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ กำชับดูแลการจ่ายรางวัลนำจับเหมาะสม ไม่ใช่รอนานจนเกษียณถึงได้ เตรียมคุย 'ทูตมะกัน' ตัดตอนยาบ้า