ข่าวดี! กรมที่ดินแก้ระเบียบเรื่องขายฝากแล้วหากจ่ายหนี้ครบเอาที่ดินคืนได้ทันทีแม้ผู้ซื้อเล่นแง่

โฆษกรัฐบาลประชาสัมพันธ์การแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกรมที่ดินจากนี้ไปผู้ขายฝากที่จ่ายหนี้ตามสัญญาครบแล้ว จะได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินคืนทันที แม้ว่าผู้ซื้อฝากจะไม่ยอมคืนโฉนด

31 พ.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมที่ดินได้ปรับปรุงระเบียบกรมที่ดินว่าด้วยการวางทรัพย์สินไถ่ในการทำสัญญาขายฝาก โดยหากผู้ขายฝากได้ชำระสินไถ่ หรือวางทรัพย์ที่สำนักงานที่ดินแล้ว รวมทั้งเมื่อเจ้าพนักงานมีหนังสือแจ้งผู้ซื้อฝากให้มารับเงินและนำเอกสารสิทธิ์ (โฉนด) มาจดทะเบียนไถ่จากการขายฝากแล้ว ถ้าผู้ซื้อฝากไม่มาติดต่อ หรือมาแต่ไม่เอาเอกสารสิทธิ์มาด้วยภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง เจ้าพนักงานสามารถออกใบแทนเอกสารสิทธิ์ให้แก่ผู้ขายฝากได้ทันที ซึ่งหมายความว่าจากนี้ไปผู้ขายฝากที่จ่ายหนี้ตามสัญญาครบแล้ว จะได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินคืนทันที แม้ว่าผู้ซื้อฝากจะไม่ยอมคืนโฉนด

นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลดำเนินการด้านการปรับปรุงกฎหมายมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้กฎระเบียบที่เป็นไปตามเจตนาของกฎหมาย และเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม โปร่งใส เป็นธรรม ทั้งนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกรมที่ดินว่าด้วยการวางทรัพย์อันเป็นสินไถ่ ณ สำนักงานที่ดิน ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2562 เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา 18 วรรคสามแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2562 ตามคำแนะนำของคณะกรรมการพัฒนากฎหมาย โดยได้เพิ่มข้อความในข้อ 9 วรรคสอง ปรากฏตามระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการวางทรัพย์อันเป็นสินไถ่ ณ สำนักงานที่ดิน ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566

“เมื่อผู้ขายฝากได้ชำระสินไถ่หรือวางสินไถ่ ณ สำนักงานที่ดิน โดยสละสิทธิถอนทรัพย์ที่ได้วางไว้แล้ว ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินมีคำสั่งรับวางทรัพย์อันเป็นสินไถ่ และได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ซื้อฝากทราบ พร้อมกับให้มารับเงินอันเป็นสินไถ่ และนำหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินมาจดทะเบียนไถ่จากขายฝากตามข้อ 8 แล้ว หากพ้นกำหนดระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันได้รับแจ้ง หรือพ้นระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ถือว่าได้รับแจ้งตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 แต่ผู้ซื้อฝากไม่มาโดยไม่ติดต่อหรือแจ้งเหตุขัดข้อง หรือมาแต่ไม่ส่งมอบหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินฝากขาย ให้ถือว่าหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินเดิมเป็นอันตราย อยู่ในหลักเกณฑ์ที่สามารถออกใบแทนเพื่อจดทะเบียนไถ่จากขายฝากให้ผู้ขายฝากได้ ตามนัยมาตรา 63 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ข้อ 17 (1) ทั้งนี้ การดำเนินการออกใบแทนเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับตาฟ้อง 9 บิ๊กมท.คดีที่ดินเขากระโดง แค่ประเดิมเท่านั้น ยังมีผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดอีกมาก

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย นักวิจารณ์การเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน ฟ้องข้าราชการ กระทรวงมหาดไทย รวม 9 คน ในคดีที่ดินเขากระโดง ต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ว่า

เอาแล้ว!เรื่องถึงศาลฯ 'ณฐพร' ฟ้องกราวรูด 'บิ๊กขรก.มหาดไทย' เซ่นที่ดินเขากระโดง

นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า "วันนี้ยื่นฟ้องคดีที่ดินเขากระโดง ต่อ ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดตรวจฟ้องและพยานหลักฐานวันที่ 9 ธันวาคม เวลา09.30 น."

'ณฐพร' ซัด 'มหาดไทย' ยุค 'ศรีธนญชัย' ฟันธง 'ที่ดินเขากระโดง' จะถูกโทษเช่นเดียวกับคดีจำนำข้าว

ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยแพร่ข้อความกรณี กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ว่า

'อนุทิน' ยันไม่คิดเอาคืนใคร ปมที่ดินเขากระโดงอย่าโยงการเมือง ไม่อย่างนั้นก็หมดสภาฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย

ให้จริง! กมธ.ที่ดินฯ ลุยสอบปมที่ดิน 'เขากระโดง' โวลั่นไม่หวั่นภูมิใจไทยเล่นเกมสกัด

นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทน

สมาพันธ์คนงานรถไฟ จี้มท.1 ทบทวนมติคณะกรรมการที่ให้ยุติการเพิกถอนเอกสารสิทธิพื้นที่เขากระโดง

นายสุวิช ศุมานนท์ ประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟ (สพ.รฟ.) ทำหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง