กรมอุทยานฯ ติดตามเสือโคร่ง 'วิจิตร' พบแนวโน้มมุ่งหน้ากลับเข้าป่า

เสือโคร่งวิจิตร ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP

คืบหน้าติดตามเสือโคร่ง "วิจิตร" กลับคืนพื้นที่ป่า พบมีแนวโน้มมุ่งหน้ากลับเข้าป่า ด้านเจ้าหน้าที่ยังติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมสร้างความเข้าใจแก่ชุมชนควบคู่ไปด้วย

4 ธ.ค.2564 - เพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า นายธวัชชัย เพชระบูรณิน นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เปิดเผยว่า จากการรายงานเสือโคร่ง “วิจิตร” จากห้วยขาแข้ง ได้ออกจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มาอยู่บริเวณเขาน้ำอุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขตป่าอนุรักษ์ และมีชุมชนอาศัยอยู่รอบๆเขา ทำให้ราษฎรเกิดความวิตกกังวลว่าเสือโคร่งอาจจะทำอันตรายชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรได้ ทางเจ้าหน้าที่นอกจากจะดำเนินการติดตามเสือโคร่งกลับคืนพื้นที่ป่าแล้ว ยังออกให้ความรู้ความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่ด้วย

โดยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองลาน หัวหน้าสถานีไฟป่าบ้านเล็กในป่าใหญ่ ผู้แทนฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ 3 (ซับตามิ่ง) และเจ้าหน้าที่รวมทั้งสิ้น 50 คน ร่วมกันวางแผนการปฏิบัติการตามรอยเสือโคร่งตัวดังกล่าว บริเวณแหล่งน้ำใกล้ๆ ในเวลา 15.30 น. ตรวจพบร่องรอยบริเวณหลังโรงเรียนวัดคลองลึก คาดว่าเสือโคร่งไม่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากสังเกตจากร่องรอยตีนเสือยังก้าวเดินปกติ น้ำหนักของรอยตีนปกติและ มีแนวโน้มมุ่งหน้ากลับเข้าป่า

และวันนี้เจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำตรวจพบสัญญานของเสือโคร่ง "วิจิตร" บริเวณเขาลูกน้อยด้านตะวันตกของเขาน้ำอุ่น มีแนวโน้มมุ่งหน้ากลับเข้าป่า เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันวางแผนปฏิบัติการ โดยในคืนนี้ได้จัดชุดเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติคลองลาน ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ 3 (ซับตามิ่ง) เฝ้าระวังลาดตระเวนบริเวณถนนเส้นทางระหว่างวัดเขาน้อยเจริญธรรมถึงโรงเรียนบ้านปางมะนาว เพื่อกันไม่ให้เสือเดินกลับไปยังเขาน้ำอุ่นอีก

นอกจากนี้ยังได้แจ้งผู้นำชุมชนเพื่อสร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์แก่ชุมชนที่คาดว่าเสือโคร่งตัวดังกล่าวจะใช้เป็นเส้นทางผ่านกลับสู่ป่าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ให้ทราบแผนปฏิบัติการในการผลักดันเสือกลับสู่ป่า โดยให้ระมัดระวังสัตว์เลี้ยง เปิดไฟส่องสว่าง และหลีกเลี่ยงออกจากบ้านในยามวิกาล

ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP ให้ข้อมูลว่า แฟ้ม ชีวิตเสือโคร่งวิจิตรระบุว่า รากเหง้า : วิจิตรเกิดมาในช่วงเวลาที่เป็นขาลงของแม่เอื้องและพ่อธนากร ด้วยเพราะอายุอานามที่มากขึ้น ในครอกเดียวกันก็มีวิจิตรตัวเดียวที่เป็นตัวผู้ ส่วนอีกสองสาวคือ อภิญญาและผกา อ่อ วิจิตรนี่เป็นหลานยาย บุบผา ด้วยนะ

ครึกโครม1 : เติบโตมาภายใต้การหาเลี้ยงของแม่เอื้อง จนวันหนึ่งก็เป็นข่าวหน้าหนึ่งซะงั้น เพราะข่าวพาดหัวว่า “ชาวบ้านเจอเสือขณะเข้าเก็บหาของป่าที่ห้วยขาแข้ง” ไม่ใช่อะไรหรอก แม่เอื้องล่าวัวแดงได้ตัวเบ้อเริ่มเป็นเหตุให้ชาวบ้านมองเห็นได้แต่ไกล ช่วงเวลานั้นเดาว่า วิจิตรคงมีอายุราว ห้าหกเดือน

ครึกโครม2: วิจิตรและน้องพี่ เติบโตในป่าใหญ่เรื่อยๆ จนวันหนึ่งเมื่ออายุเกือบสองปี ฮอร์โมนในกายพลุ่งพล่านนึกอยากผจญภัยจึงชวนกันไปเที่ยวเล่นที่ชุมชน ที่อยู่ติดกับบ้านของแม่ ก็ได้สนุกกันพักหนึ่งทั้งเสือและเจ้าหน้าที่ติดตาม แต่อะไรก็ไม่เด็ดเท่า ไม้เรียวในมือแม่เอื้องสั่นหนักมาก ต้องลงแรงออกไปตาม วิจิตรกับเจ๊ภิญญา ด้วยตนเอง เรื่องจึงสงบ

ถึงเวลาลงหลักปักฐาน 1 : เมื่ออายุล่วงเลยสองขวบปี อภิญญาและผกา ก็ได้ยึดพื้นที่เพื่อครอบครองหากินในบริเวณข้างเคียงบ้านแม่เดิม โดยวิจิตรก็ใช้สิทธิ์ความเป็นพี่น้องร่วมครอกแอบอาศัยหากินตามแนวขอบบ้านของอภิญญา ซึ่งเป็นบริเวณที่ปราศจากความสงบ เพราะระงมไปด้วย เสียงเครื่องจักรทำงาน งานบุญ จุดบอลไล่สัตว์ป่าที่ออกมากินพืชไร่ แต่ วิจิตร อยู่ได้สบายๆ นะขอบอก

ถึงเวลาลงหลักปักฐาน 2 : ในช่วงเวลาที่เป็นเล่นบทเสือแอบ เพราะอิงแอบหากินอยู่ในพื้นที่อภิญญา ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แตกต่างจาก เพศผู้วัยรุ่นตัวอื่นๆที่มักรักการเดินทางไกลๆ สำหรับวิจิตรนั้นก็มีการเดินทางออกนอกพื้นที่บ้างเป็นครั้งคราว ทริปสั้นๆ แต่ก็ทำทีมงานใจสั่นได้เพราะลัดเลาะไปพื้นที่ที่เป็นหย่อมป่าที่ติดชุมชน ข้ามทางหลวงชนบทเป็นว่าเล่น

แต่แล้วเมื่อมีโอกาสได้ดินเนอร์พูดจาประสาพ่อลูกกับธนากรในค่ำคืนหนึ่ง ชีวิตวิจิตรก็นิ่งขึ้นนัยว่าได้รับคำชี้แนะจากพ่อ จึงใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตามแนวขอบติดชุมชน เพื่อเลี่ยงการเจอะเจอน้องเขย ที่อาจไม่พึงใจนักที่มันมาอิงแอบแบบนี้

ครึกโครมครั้งใหญ่ : วันเวลาผ่านไปจนวิจิตรมีโครงสร้างร่างกายที่ใหญ่โตขึ้น กล้ามเนื้อเป็นรูปที่ชัดเจนขึ้น รวมถึงความมั่นใจที่มาเต็มด้วยหรือปล่าว แอดก็ไม่แน่ใจ จนเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่าทีของวิจิตรเริ่มเปลี่ยนไป มันเริ่มออกเดินจากห้วยขาแข้ง มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ นุดวิจัยก็จ้องเขม็งผ่านระบบดาวเทียม มันไปด้วยความมุ่งมั่น ไม่มีการลังเล จนข้ามเขตไปอยู่ฝั่งอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ แล้วดูเหมือนว่าน่าจะได้กินอะไรบางอย่าง(ไม่น่าใช่หน่อไม้) เพราะมีการหยุดพักอยู่พอสมควร

เมื่อมีพลังงานสะสม มันก็ออกเดินทางต่อ ในที่สุดทะลุไปประชิดชุมชน จนเป็นเรื่องเป็นข่าวในเวลานี้ ดีนะที่มีเวียร์เบลล่าช่วยดึงความสนใจไปบ้าง ไม่งั้นนะ ปังกว่านี้ จนถึงขณะนี้ เวลา นี้ ที่ แอด อัพเดท กับนุดวิจัย เหมือนว่าแนวโน้มดี เพราะวิจิตรกำลังมุ่งหน้ากลับป่าอนุรักษ์ หลังจากที่มันได้ไปให้สุดแล้วหยุดเลย ทางหลวง1072 ไปนิดนึง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึก 34 ปี 'สืบ นาคะเสถียร' สานต่ออนุรักษ์ป่ามรดกโลกทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง

กรมอุทยานฯ “รำลึก 34 ปี สืบ นาคะเสถียร” สร้างแรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่ สานต่อเจตนารมณ์อนุรักษ์ป่าผืนป่ามรดกโลกทุ่งใหญ่นเรศวร – ห้วยขาแข้ง

ยิ่งใหญ่ยันมื้อสุดท้าย! อาลัย 'เฮียธนากร' เสือโคร่งสายเปย์แห่งป่าห้วยขาแข้ง

เพจเฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP กล่าวถึง เสือ "ธนากร" เป็นเสือโคร่งเพศผู้ ที่อาศัยอยู่ในป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมาว่า "ยิ่งใหญ ยัน มื้อสุดท้าย"

ตื่นตา! 'ฝูงกระทิง' ป่าห้วยขาแข้ง ทำกิจกรรมบางส่วนในรอบวัน (มีคลิป)

เพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยแพร่คลิปพร้อมข้อความว่า ชมฝูงกระทิงที่ห้วยขาแข้งและกิจกรรมบางส่วนในรอบวัน กระทิงเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องเช่นเดียวกับวัวแดงและควายป่า อาหารหลักของกระทิง ได้แก่ หญ้าและใบไม้ทุกชนิดที่กินได้