นายกฯ ยินดียูเนสโกรับรอง 'คัมภีร์ใบลานเรื่องอุรังคธาตุ' เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก

27 พ.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization : UNESCO) ให้การรับรอง ‘คัมภีร์ใบลานเรื่องอุรังคธาตุ’ เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การยูเนสโก ครั้งที่ 216 ได้พิจารณาวาระการขึ้นทะเบียนมรดกความทรงจำแห่งโลก (Nominations of new items of documentary heritage to be inscribed on the Memory of the World International Register) ซึ่งได้ผ่านกระบวนการการพิจารณาโดย International Advisory Committee (IAC) แล้ว เพื่อให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารฯ ในครั้งนี้รับรอง โดยมีรายชื่อขึ้นทะเบียนทั้งหมด 64 รายการ และประเทศไทยได้เสนอขึ้นทะเบียนรอบปี ค.ศ. 2022-2023 จำนวน 2 รายการ ได้แก่ หนังสือสมุดไทย เรื่อง นันโทปนันทสูตรคำหลวง และคัมภีร์ใบลานเรื่องอุรังคธาตุ โดยหนังสือสมุดไทย ยังไม่ผ่านการพิจารณา ซึ่งไทยได้ขอให้ยูเนสโกมีคำอธิบายอย่างเป็นทางการเพื่อนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุงแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องต่อไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวเพิ่มเติมว่า คัมภีร์ใบลานเรื่องอุรังคธาตุ เป็นหนังสือใบลานจารด้วยอักษรธรรมอีสาน ภาษาไทย และภาษาบาลี ที่มีทำนองการแต่งเป็นภาษาโบราณแบบเฉพาะของท้องถิ่น แทรกคติธรรม ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี มีหลักฐานปรากฏอยู่ในลานหน้าสุดท้ายกล่าวไว้ชัดเจนว่าหนังสือฉบับนี้อาชญาเจ้าพระอุปราช พร้อมด้วยบุตร ภรรยา ให้สร้างขึ้นไว้เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2405 ทั้งนี้ ไทย ได้ประกาศขึ้นทะเบียนมรดกความทรงจำแห่งโลกมาแล้ว 5 รายการ ได้แก่ 1.) ศิลาจารึก หลักที่ 1 (พ.ศ. 2546) 2.) เอกสารจดหมายเหตุพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปฏิรูปการบริหารการปกครองประเทศสยาม (พุทธศักราช 2411 - 2453) (พ.ศ. 2552) 3.) จารึกวัดโพธิ์ (พ.ศ. 2551 ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ พ.ศ. 2554 ในระดับโลก) 4.) บันทึกการประชุมคณะกรรมการสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ในรอบ 100 ปี (พ.ศ. 2556) และ 5.) ฟิล์มกระจกชุดหอพระสมุดวชิรญาณ (พ.ศ. 2559)

“นายกรัฐมนตรีภูมิใจในความเป็นไทย มีประวัติศาสตร์ที่ดำเนินมายาวนานอย่างที่มีเอกลักษณ์ ประเทศไทยมีความหลากหลายทั้งในด้านสังคม และวัฒนธรรม จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เชื่อมั่นว่าการรับรองทั้ง 6 รายการเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก จะมีส่วนช่วยการอนุรักษ์ เผยแพร่ประสบการณ์ที่สะท้อนคิดริเริ่มต่าง ๆ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา เข้าใจในความหมายและคุณค่า ซึ่งรัฐบาลเห็นว่า ไทยยังมีเอกสารที่เป็นมรดกความทรงจำของชาติอีกมากตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ และวัฒนธรรมเฉพาะตัว” นายอนุชา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ทุบโต๊ะลงดาบเกษตรกร ใครเผาก่อมลพิษ ถูกลงโทษลดเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า นายกรัฐมนตรีได้เร่งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งออกมาตรการ เนื่องจากในปีนี้ค่าฝุ่น

โฆษกรัฐบาล เผยปี 2568 นายกฯอิ๊งค์ จะทำให้ประเทศไทยเจริญทุกตารางนิ้ว!

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นของนอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ท กรุงเทพ ในประเด็น “ท่านเห็นว่าบุคคลใดที่สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นนักการเมืองแห่งปี 2567 ” พบว่า ประชาชนชื่นชมและชื่นชอบ

เช็กที่นี่! ครม.ไฟเขียว 'ทางด่วนฟรี' ช่วงปีใหม่ รวม 8 วัน

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม กำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์)

‘ภูมิธรรม’ ชี้ 3 เดือนน้อยไป ประเมินปชช.ไม่เชื่อมั่นผลงานรัฐบาล ลั่นรอดูปีหน้ามาแน่

ปีหน้า ขอให้ประชาชนรอดูผลงาน ซึ่งจะมีผลงานดีๆออกมาอีกมาก เชื่อว่า ปีหน้าจะเป็นปีในการเริ่มต้นสร้างโอกาสตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายเอาไว้

สอบตก! ‘เทพไท’ ฟันฉับ 90 วันรัฐบาลอิ๊งค์ ชี้ขุดดินขายคือนโยบายตลกที่สุด

ถ้าจะให้คะแนนผลงานของรัฐบาลชุดนี้ ส่วนตัวผมให้สอบตก มีนักวิชาการหลายคนประเมินให้คะแนนสอบตก กระแสความรู้สึกของประชาชนก็สอบตก ผลจากสวนดุสิตโพลก็สอบตก สรุปได้ว่ารัฐบาลสอบตกจริงๆ

รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย

รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่