3 ธ.ค.2564 - เมื่อเวลา 14.00 น. ที่โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ถนนร่มเกล้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีส่งมอบสิทธิโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยนายกฯกล่าวว่า วันนี้มาร่วมกันแสดงความยินดีและเป็นประธานในพิธีมอบบ้านให้กับผู้มีรายได้น้อย คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะตนพูดไปเยอะแล้วถึงนโยบายของรัฐบาล บอกว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ครอบครัวอบอุ่นมีความสุข แล้วจะได้มีโอกาสดูแลซึ่งกันและกัน วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปอีกเยอะ นั่นคือการเตรียมความพร้อมของบ้านเมืองของเราไว้ตั้งแต่วันนี้ ซึ่งที่อยู่อาศัยคือสิ่งสำคัญที่สุดแม้แต่นายกเองฯ ทุกคนมีครอบครัว แต่เนื่องจากยังมีความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ความเป็นธรรมก็คือรัฐบาลจะต้องดูแลผู้มีรายได้น้อย ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี รัฐบาลยินดีที่จะสนับสนุนทุกอย่างที่สามารถดำเนินการได้ และวันนี้ทราบว่ามีคนที่จะมาร่วมงานเยอะกว่านี้ แต่มาตรการศบค.ให้แค่ 300 คน ตนก็ส่งใจไปให้คนที่ไม่ได้มาด้วย ซึ่งก็ต้องระมัดระวังเรื่องโควิด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาหลายอย่างใช้งบประมาณสูงมากก็ไม่ได้ ต้องใช้ความร่วมมือ หากทำให้ทุกอย่างโปร่งใส เป็นธรรม สุจริตก็ทำไปได้ทุกอย่าง วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ว่าทำงานไม่ได้หวังผลตอบแทนนอกจากรอยยิ้มของพวกท่าน และยังมีอีกหลายครอบครัวอีกหลายล้านคนรอที่จะยิ้มอยู่ สิ่งที่ทำในวันนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี ส่วนเรื่องยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท 20 ปี หากมองดูอาจเหมือนนาน แต่ตนคงไม่อยู่ถึงตรงโน้น ทุกโครงการตนยืนยันว่าตราบใดที่ดำรงตำแหน่งอยู่จะทำทุกโครงการให้ดีที่สุด การหางานวันนี้ทุกอย่างก็ดีขึ้น แต่ปัญหาเกิดขึ้นเพราะโควิด ก็ถือว่าบริหารจัดการได้ดีพอสมควร ในระดับที่เทียบกับต่างประเทศ ช่วยชาวบ้านมีอาชีพมีรายได้มีความสุข ความสุขก็จะเกิดขึ้นจากใจของตัวเอง และเกิดจากครอบครัวของเราเองนั่นคือความสุขที่แท้จริง ความสุขที่หาไม่ได้จากที่อื่น ไม่มีใครรักเราเท่ากับครอบครัวของเราเอง และต้องแผ่ความรักไปยังคนอื่นด้วย ทุกอย่างทำได้หมดสังคมก็จะดีขึ้น คุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้น
"หมู่บ้านนี้ต้องรักกัน กำหนดไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กำหนดไว้ในหัวใจของทุกคน คงไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่รัฐบาลทำอย่างต่อเนื่อง และจะทำเพื่ออนาคตต่อไปด้วย ซึ่งต้องให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจและสุขภาพ ต้องเข้าถึงเศรษฐกิจใหม่ในประเทศไทย เพื่อให้เกิดห่วงโซ่อุปสงค์อุปทาน เพื่อให้เชื่อมต่อสู่ประชาชนให้ได้เร็วที่สุด วันนี้มีแผนการลงทุนอย่างมากมายกำลังเจรจาหารือขจัดปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่จะทำให้ดำเนินการได้ช้าเพื่อเกิดการลงทุนจากต่างประเทศ ให้มีอาชีพมีตำแหน่งการงานรองรับเด็กที่จบจากการศึกษาออกมา เพราะฉะนั้นทุกคนต้องไปเรียนรู้ ตั้งใจเรียนให้ได้ ต้องเรียนเพื่อพัฒนาสมอง คิดเป็นกระบวนการ และการเรียนเพื่อปรับตัวให้เข้ากับชีวิตวิถีใหม่ เพื่อการจ้างงานที่จะให้เกิดมากขึ้น"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้เรื่องใดที่เป็นปัญหาเรื่องความขัดแย้ง ที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือเป็นข่าวที่บิดเบือน ขออย่าไปอ่านเสียเวลา เพราะปัญหาก็เยอะอยู่แล้ว อย่าไปซึมซับมากแล้วปัญหาจะเกิดอะไร คิดไม่ออกเพราะเครียด ตนอยากให้หมู่บ้านนี้มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ และอย่าเมาเกิน เมาแล้วก็ห่วง ตนแหย่เล่น ตนไม่มีอะไรกับใครทั้งสิ้น ตนหวังเพียงให้ประชาชนคนไทยมีรอยยิ้มและเป็นนโยบายแรกของรัฐบาล ที่จะทำงานให้กับคนทุกกลุ่ม อย่าสนใจเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเพราะจะทำให้สมองเราเสียหาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พีระพันธุ์' ยัน รทสช.หนุนแคนดิเดตจากเพื่อไทยแต่ต้องไม่มีเรื่อง 112
'รทสช.' ยันจุดยืนหนุนแคนดิเดตเพื่อไทยเป็นนายกฯต่อ แต่ต้องไม่แก้ ม.112 ยังไม่เคาะชื่อ 'ชัยเกษม นิติสิริ' หลังถามเรื่องสุขภาพ ลั่นไม่มีข้อตกลงบ้านจันทร์ส่องหล้า ด้านนโยบายเงินหมื่นรอ 'พท.' ชี้แจง
พ่อพระเอก!พิธาเมินภาพ'ประยุทธ์-ทักษิณ' บอกสนใจแต่ประชาชน
'พิธา' ปัดแสดงความเห็นภาพ 'ทักษิณ-บิ๊กตู่' บอกไม่รู้ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร เผยสนใจ ปชช.อันดับ 1
ประมวลภาพ 'พล.อ.ประยุทธ์-ทักษิณ' ร่วมงานพระราชทานเพลิงศพมารดาเศรษฐา
บรรยากาศงานพระราชทานเพลิงศพนางชดช้อย ทวีสิน มารดาของนายกรัฐมนตรี นายทักษิณได้เดินไปทักทาย พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ทั้งคู่ได้ยกมือไหว้ทักทาย และพูดคุยกันเล็กน้อย
'เนติบริกร' โชว์กึ๋นมือกฎหมายบอกคดี 40 สว.มีช่องสู้
นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี
'อุ๊งอิ๊ง' ดูไว้! นักการเมืองต้องรักษาสัจจะเหมือน 'อภิสิทธิ์' เคยหาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์
เมื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวในงานอีเวนต์ ”10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10“ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม