เตือนพายุไซโคลน ‘โมคา’ มีผลกระทบ ’เหนือ-อีสาน-กลาง’ ถึง 16 พ.ค.

14 พ.ค.2566-กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 8 เรื่อง พายุไซโคลน “โมคา” (มีผลกระทบถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2566) ระบุว่า เมื่อเวลา 04.00 น.ของวันนี้ (14 พ.ค. 66) พายุไซโคลน “โมคา” บริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 260 กิโลเมตร ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองซิตตเว รัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา หรือที่ละติจูด 18.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 91.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 220 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนในวันนี้ (14 พ.ค. 66)

ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 14-15 พ.ค. 66 ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับในช่วงวันที่ 14-15 พ.ค. 66 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 15 พ.ค. 66

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 7 เตือนฤทธิ์พายุโซนร้อน 'พระพิรุณ'

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับที่ 7 เตือนฤทธิ์พายุโซนร้อน “พระพิรุณ” เผยความเร็วสูงสุด ขอให้ประชาชนตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย

กรมอุตุฯ อัปเดตพายุโซนร้อน 'พระพิรุณ' เตือน 33 จังหวัด เจอฝนตกหนัก 60-70%

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุ “พระพิรุณ” ฉบับที่ 6 ระบุว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันนี้ (22 ก.ค. 67) พายุโซนร้อน “พระพิรุณ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 20.2 องศาเหนือ

ตราดระทม! จมบาดาล 1 เมตร เดือดร้อน 3 พันคน

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนรักษ์คลองบางพระ ชุมชนวัดโบสถ์ ชุมชนกิจสวัสดิ์ ถนนเทศบาล 3, 5 ถนนพัฒนาการปลายคลอง ถนนกิตติพัฒนา ซอยสืบแสวงทรัพย์ ซอยร่มไทร ซอยสุเหล่าแขกปลายคลอง ซอยสมจริง ซอยศาลเจ้าแม่ตาเหล ยังคงทรงตัว