ม.ธรรมศาสตร์ จัดงาน “วันปรีดี พนมยงค์ ประจำปี 2566” หลากหลายภาคส่วนร่วมระลึกคุณูปการบุคคลสำคัญที่มีต่อระบบการเมืองการปกครองไทย พร้อมจัดปาฐกถาทางวิชาการหัวข้อ ‘ดุลยภาพแห่งอำนาจฯ’ ชวนจับตาผลการเลือกตั้ง 14 พ.ค. นี้ อย่างใกล้ชิด เฝ้าหน้าคูหาปกป้องสิทธิ-เสียงของตนเอง หวั่นกลไกที่ “ไม่เป็นอิสระ” บิดเบือนระบอบประชาธิปไตย
11 พ.ค.2566 - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จัดงาน “วันปรีดี พนมยงค์ ประจำปี 2566” เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ ผู้นำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็น “บุคคลสำคัญของโลก” โดยมีองค์กรและหน่วยงาน อาทิ สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้แทนรัฐบาล สถานทูตต่างประเทศ พรรคการเมือง ผู้บริหาร คณาจารย์และองค์การนักศึกษา ฯลฯ เข้าร่วมในพิธีวางพานพุ่ม ณ อนุสาวรีย์ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า วันที่ 11 พฤษภาคมของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อรำลึกถึง “ปรีดี พนมยงค์” รัฐบุรุษอาวุโสของประเทศไทย ที่มีผลงานมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสถาปนา “มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง” เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2477 และเป็นผู้ประศาสน์การคนแรกของมหาวิทยาลัย รวมถึงผู้ริเริ่มแนวคิดการเรียนการสอนระดับสูงสมัยใหม่ในรูปแบบ “ตลาดวิชา” เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงในด้านการศึกษาให้แก่ราษฎร ทำให้ประชาชนทั่วไปมีสิทธิและโอกาสได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยจนจบปริญญา โดยในปี 2566 นี้ นับเป็นปีที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายประการ เพราะนอกจากจะเป็นวาระครบ 123 ปีชาตกาลของผู้ประศาสน์การ ครบ 40 ปีแห่งการถึงอสัญกรรมแล้ว ยังครบ 50 ปีเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ อีกด้วย
น.ส.ธัญญลักษณ์ เศวตมาลย์ เลขาธิการองค์การนักศึกษา มธ. กล่าวว่า ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี ได้ทำสิ่งอันน่าทึ่ง ทั้งการเป็นมันสมองในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เพื่อเปลี่ยนความหมายของชาติให้เท่ากับประชาชน ไปจนถึงการทำงานในบทบาทของนายกรัฐมนตรี การมุ่งมั่นแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม สร้างรากฐานประชาธิปไตย ไปจนถึงการก่อตั้งมหาวิทยาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อยกระดับความคิดของราษฎร และคุณูปการอีกมากมาย จึงถือเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ชายผู้น่านับถือต้องเผชิญกับอุปสรรคขวากหนามตลอดช่วงของท่าน ชาวธรรมศาสตร์จึงขอมาพูดเพื่อยืนยันว่า เราจะจดจำ และเราจะไม่ลืมอุดมการณ์ เจตนารมณ์ของท่านที่ต้องการสร้างสังคมที่ดีงามสำหรับคนทุกคน
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีพิธีมอบโล่รางวัล “ปรีดี พนมยงค์” ประจำปี 2566 แก่นักศึกษาดีเด่น ได้แก่ นัฐกานต์ เพ็ชรบูรณ์ จากคณะนิติศาสตร์ มธ. และรางวัล “ทุนปาล พนมยงค์” ประจำปี 2566 ให้แก่ ปาลีรัตน์ บุญประกอบ จากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มธ. ในการประกวดบทความหัวข้อ “ปรัชญาสังคมนิยมวิทยาศาสตร์ประชาธิปไตย” ณ บริเวณลานปรีดี พนมยงค์ ด้านหน้าตึกโดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
วันเดียวกัน มธ. และสถาบันปรีดี พนมยงค์ ได้จัดปาฐกถาทางวิชาการในหัวข้อ “ดุลยภาพแห่งอำนาจ” เปลี่ยนผ่านสังคมไทยด้วยการเลือกตั้ง โดย ศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ากลุ่มผู้ที่มีอำนาจทางการเมืองไทย ไม่ได้คิดถึงการสร้างดุลยภาพ หากแต่ต้องการได้ดุลแห่งอำนาจตลอดเวลา แม้กระทั่งการเลือกตั้งที่เป็นช่องทางการแสดงออกเดียวถึงพลังของประชาชน กลับยังไม่ได้รับความเคารพอย่างแท้จริง โดยเฉพาะหากดูหลังการรัฐประหารเป็นต้นมา ซึ่งเกิดความพยายามสถาปนาอำนาจให้ครอบคลุมระบอบต่างๆ รวมถึงองค์กรอิสระ ที่กลายเป็นกลไกอำนาจเข้ามาจัดการกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม ทั้งลงโทษ ตัดสิทธิ ยุบพรรคต่างๆ
“หลังการรัฐประหารตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ผู้มีอำนาจได้พยายามสถาปนาอำนาจตัวเองเพื่อรับมือกับฝ่ายประชาธิปไตยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นกลไกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เข้ามาร่วมตัดสินใจกฎหมาย เลือกนายกรัฐมนตรี ให้อำนาจกองทัพสนับสนุนตัวเอง อำนาจการลงโทษและควบคุมประชาชน เช่น มาตรา 112, 116 ตลอดจน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทั้งหมดล้วนเข้ามาทำให้ดุลอำนาจของประชาชนสูญเสียไป ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ เมื่อมีพรรคการเมืองที่เสนอเข้ามารื้อถอน ท้าทายระบอบอำนาจเก่า จึงไม่แปลกที่จะสามารถซื้อใจประชาชน และทำให้เขาตื่นตัวอย่างมากกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง” ศ.ดร.พวงทอง กล่าว
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวว่า สำหรับข้อสังเกตถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้นไม่ใช่องค์กรอิสระ แต่มาจากกลไกการคัดเลือกที่แต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งผลจากการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความโกลาหลที่เกิดขึ้นจากคนที่เดินทางไปจำนวนมาก การจ่าหน้าซองผิด ฯลฯ ขณะที่วันเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ กกต. ก็ออกแบบระบบการรายงานผลคะแนนใหม่ที่จะใช้เป็นครั้งแรก
นายยิ่งชีพ ระบุอีกว่า ในการเลือกตั้งปี 2562 เรามีประสบการณ์จากทั้งปัญหาการรายงานผลที่ล่าช้า ผิดพลาด ซึ่งยังไม่มีคำอธิบายจนถึงวันนี้ ในครั้งนี้จึงขอเชิญชวนทุกคนออกไปร่วมกันปกป้องคะแนนเสียง ภายใต้สภาวะบ้านเมืองที่เราเห็นว่าไม่ปกติ จะเพียงเดินเข้าคูหา ไปกากบาท แล้วหวังว่าคะแนนเสียงจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ อาจมองแง่ดีเกินไป เมื่อ กกต. ไม่ได้เป็นอิสระ และผลการจัดการที่ผ่านมาก็ทำให้เห็นว่ายังไม่ได้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ฉะนั้นอยากให้ทุกคนช่วยกันออกไปสอดส่อง ร่วมสังเกตการณ์นับคะแนนด้วยตา และถ่ายรูปผลคะแนนส่งมารวมที่ vote62.com
รศ.ดร.พิภพ อุดร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเห็นได้ว่าทุกคนให้ความสำคัญมากกว่าเมื่อก่อน และตระหนักถึงผลลัพธ์ของเสียงที่ตนเองจะกากบาทลงไปมากขึ้น จึงออกมาร่วมกันปกป้องไม่ปล่อยให้เสียงของตนหายไปไหนได้ ซึ่งในปัจจุบันอีกหนึ่งอำนาจที่เกิดขึ้น คืออำนาจของเทคโนโลยี ที่ทำให้เกิดประชาธิปไตยทางข้อมูลข่าวสาร ทุกคนสามารถลุกขึ้นมาสื่อสาร มีสิทธิมีเสียง แสดงตัวตนได้มากขึ้น เปลี่ยนวิธีคิดว่าเราไม่ใช่แค่คนตัวเล็กตัวน้อย แต่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการปกครองของประเทศ และสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
“สิ่งที่อาจเกิดขึ้นตามมาหลังเลือกตั้ง หากการเจรจาไม่ลงตัว ก็อาจมีกระบวนการใช้กฎกติกา บิดเบือน หรือเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ดังนั้นเมื่อเทคโนโลยีให้อำนาจกับประชาชน ก็อยากให้ทุกคนตระหนักถึงอำนาจที่มี และเลิกความคิดแบบหยวนๆ ปล่อยผ่านให้ผู้มีอำนาจคิดจะทำอะไรก็ได้ แสดงให้เขาเห็นว่าแม้จะมีอำนาจ แต่หากทำอะไรโดยที่ขาดความชอบธรรม เราจะไม่ยอมอีกต่อไป ดังนั้นเราจะก้าวไปข้างหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงได้ หากร่วมกันยืนหยัดและแสดงความเป็นเจ้าของเสียงของเรา ไม่ใช่แค่กาแล้วปล่อยให้ใครคนอื่นมาตัดสินใจ” รศ.ดร.พิภพ กล่าว
ขณะที่ รศ.ดร.ไชยันต์ รัชชกูล คณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา กล่าวว่า ระบบการเมืองไทยที่มีอำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจการบริหาร ของรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง นี่เป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง เพราะยังมีอำนาจอีกหลายมิติทั้งกว้างและลึกเป็นส่วนภูเขาที่อยู่ใต้น้ำ โดยเฉพาะอำนาจที่ครอบครองอาวุธ คืออำนาจทหาร และอำนาจตามประเพณีเก่าที่มาจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ซึ่งเราจะพบว่าหลังสิ้นสุดยุคของคณะราษฎร อำนาจทั้งสองนี้ได้ผนึกเป็นพันธมิตรกันอย่างแน่นแฟ้น และแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้ง สว. หรือองค์กรอิสระที่มาจากผลพวงของการรัฐประหาร จึงเป็นสิ่งที่อยากย้ำเตือนในผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่าแม้ฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะและแต่งตั้งรัฐบาลได้ แต่ก็ยังอาจถูกบั่นทอนจากอำนาจเหล่านี้ได้เช่นกัน
ด้าน น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นักกิจกรรมและสื่อมวลชนอิสระ กล่าวว่า นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475 แม้ประชาชนจะได้รับประชาธิปไตย แต่ก็เกิดการแย่งชิงอำนาจไปตลอดเวลา ถูกจำกัดกรอบกระทั่งรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอำนาจไปโดยปริยาย จึงฝากความหวังไว้ได้เพียงกลุ่มบุคคลใดกลุ่มหนึ่งจากการเลือกตั้ง แต่มาในยุคนี้เห็นได้ชัดเจนว่าประชาชนเริ่มมองอย่างตรงไปตรงมา สนับสนุนใครจากการวิเคราะห์นโยบาย ความเป็นไปได้ ความชัดเจน ความหวัง และความฝัน ดังนั้นนโยบายที่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เช่น รัฐสวัสดิการ ปฏิรูปกองทัพ ฯลฯ จึงได้เสียงตอบรับจากคนส่วนใหญ่ และหากพรรคการเมืองยังเสนอนโยบายไม่ถูกใจ ภาคประชาชนก็สามารถเสนอเองได้ อย่างมาตรา 112 ที่ถูกนำออกมาพูดในพื้นที่สาธารณะได้ ก็เกิดจากการที่ประชาชนส่งเสียงสะท้อนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหานั่นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สมาคมธรรมศาสตร์ฯ ชวนลูกแม่โดมร่วมงาน “วันธรรมศาสตร์ 90 ปี 2567” ชมรายการพิเศษทางโทรทัศน์เนื่องในวันธรรมศาสตร์ 9 ธันวาคม และสังสรรค์รำลึกความหลัง “วันธรรมศาสตร์ 10 ธันวาคม”
สมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร นายกสมาคม ชวนลูกแม่โดมร่วมงาน “วันธรรมศาสตร์ 90 ปี 2567” ชมรายการพิเศษทางโทรทัศน์เนื่องในวันธรรมศาสตร์ คืนวันที่ 9
'บ้านแสนอยู่ดี' ที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตร นวัตกรรมธรรมศาสตร์เพื่อคนทั้งมวล
แม้ว่าที่อยู่อาศัยจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์ หากแต่มีที่อยู่อาศัยจำนวนไม่น้อยที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 'ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์' ดำรงตำแหน่ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ต้องไม่ยอมมัน! อดีตรองอธิการบดี มธ. ปลุกขวางแก้ รธน. ทำลายความถูกต้อง-เป็นธรรม
ความพยายามในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราครั้งนี้ หากทำได้สำเร็จ จะเป็นลดความสำคัญของความซื่อสัตย์สุจริต และมาตรฐานทางจริยธรรม
ธรรมศาสตร์ เปิดตัว 7 นวัตกรรมเพื่อสังคม ส่งมอบ 'SIT-TO-STAND' ดูแลผู้สูงวัย กทม.
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดตัว “7 นวัตกรรมเพื่อสังคมสูงวัย” ตอบโจทย์ปัญหาประเทศ เตรียมพร้อมรับมือ Super Aged Society พร้อมมอบนวัตกรรม SIT-TO-STAND TRAINER อุปกรณ์เสริมสร้างกล้ามเนื้อ
สร้างภูมิคุ้มกัน 'พลัดตกหกล้ม' 10-11 ก.ย.นี้ เชิญชมนิทรรศการ 7 นวัตกรรมธรรมศาสตร์ เพื่อสังคมสูงวัย
เพราะทุกห้วงยามแห่งการร่วงหล่น มีหลายชีวิตพลัดหลงในกาลเวลา โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Complete