รัฐบาลตอบรับข้อเสนอ กสม.ให้กะเหรี่ยงบ้านบางกลอยที่สมัครใจได้กลับไปใช้ชีวิตด้วยระบบเกษตรแบบไร่หมุนเวียนในพื้นที่บางกลอยบน
27 เม.ย.2566 - ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ตามที่ กสม.ได้รายงานผลการตรวจสอบ เรื่อง สิทธิชุมชนกรณีขอให้ตรวจสอบการดำเนินการของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหากรณีกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2565 โดยมีข้อเสนอแนะไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน มาตรฐานการครองชีพ ตลอดจนปัญหาการจับกุมชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ให้สอดคล้องตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2553 ว่าด้วยแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง และหลักสิทธิชุมชนในการมีส่วนร่วมจัดการและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รายงานผลการตรวจสอบดังกล่าว มีข้อเสนอแนะสำคัญหนึ่งระบุให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัดการสำรวจพื้นที่อยู่อาศัยและทำกิน ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 64 และ 65 รวมทั้งสำรวจความประสงค์ของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านบางกลอยเกี่ยวกับการกลับไปอยู่อาศัยและทำกินตามวิถีชีวิตดั้งเดิม ในพื้นที่บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน เพื่อเป็นการเยียวยากลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านบางกลอยที่เคยถูกอพยพโยกย้ายถิ่นฐานลงมา โดยดำเนินการผ่านกลไกคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 26/2565
ล่าสุด กสม. ได้รับทราบว่า คณะกรรมการอิสระฯ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 26/2565 ชุดดังกล่าว ซึ่งมีนายอนุชา นาคาสัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีหนังสือลงวันที่ 18 เมษายน 2566 เรียนนายกรัฐมนตรี รายงานผลการดำเนินการของคณะกรรมการอิสระฯ โดยได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อันเป็นผลจากการประชุมหารือและลงพื้นที่ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำรวจข้อมูลครัวเรือนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยที่ประสงค์จะกลับไปดำเนินชีวิตด้วยระบบเกษตรแบบไร่หมุนเวียน และได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยเป็น 2 แนวทาง สรุปได้ดังนี้
แนวทางที่หนึ่ง กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านบางกลอยที่ประสงค์จะอยู่อาศัยในพื้นที่ชุมชนบ้านบางกลอย หมู่ 1 ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี (บริเวณพื้นที่ตั้งชุมชนปัจจุบัน) จำนวนประชากร 732 คน ให้ใช้แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการส่งเสริมอาชีพ โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณภาพ และให้การเยียวยากลุ่มราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการโยกย้ายชุมชน
แนวทางที่สอง กรณีกลุ่มชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยที่ประสงค์จะกลับไปดำรงวิถีชีวิตด้วยระบบเกษตรแบบไร่หมุนเวียนในพื้นที่บางกลอยบน (พื้นที่เดิมของชุมชนก่อนถูกโยกย้าย) จำนวนประชากร 150 คน ให้ใช้แนวทางพัฒนาพื้นที่ต้นแบบส่งเสริมระบบเกษตรแบบไร่หมุนเวียนตามหลักการคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 70 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2553 โดยดำเนินการผ่านการจัดโครงการศึกษาเชิงทดลองแบบมีส่วนร่วม
คณะกรรมการอิสระฯ ยังเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณามอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่งตั้งคณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย (1) ผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยที่ประสงค์จะกลับไปดำรงวิถีชีวิตด้วยระบบเกษตรแบบไร่หมุนเวียน (2) กรรมการอิสระ และ (3) ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เพื่อดำเนินการสำรวจการใช้ประโยชน์พื้นที่ตามวิถีวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ลงนามเห็นชอบรายงานฉบับดังกล่าวที่คณะกรรมการอิสระฯ เสนอแล้ว
“กสม. ยินดีที่คณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอยฯ ได้ศึกษา สำรวจ และมีข้อเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีให้ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยที่ประสงค์จะกลับไปดำรงวิถีชีวิตด้วยระบบเกษตรแบบไร่หมุนเวียนในพื้นที่บางกลอยบน-ใจแผ่นดิน ได้กลับไปใช้ชีวิตในพื้นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมตั้งแต่ก่อนการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและก่อนรัฐมีคำสั่งและดำเนินการให้อพยพย้ายถิ่น ซึ่งถือเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาที่คำนึงถึงหลักการมีส่วนร่วมในการกำหนดเจตจำนงของชุมชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ กสม. หวังว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องที่อาศัยที่ทำกินรวมทั้งปัญหาอื่น ๆ ที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินนโยบายของหน่วยงานภาครัฐและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายกรณี เช่น ปัญหาการจับกุมชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยด้วย” ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ตั๊น จิตภัสร์' ลั่น 'ปชป.' ไม่ทิ้งคนใต้แค่ดาวกระจายช่วยน้ำท่วม
'ตั๊น จิตภัสร์' เยี่ยมเยือนสร้างขวัญกำลังใจอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ พังงา -ภูเก็ต ย้ำ 'ปชป.' ดาวกระจาย ทำงาน ระดมสรรพกำลังช่วยน้ำท่วม เคียงข้างคนใต้
กระทรวงทรัพย์ฯ ร่วมส่งมอบความสุขให้ ปชช. ทั่วประเทศ ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ มอบกล้าไม้มงคลผ่านพิธีเจริญพระพุทธมนต์ "พฤกษามหามงคล" และปลูกต้นไม้ ต้นที่ 72 ล้านต้น
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน) มีความตั้งใจที่จะส่งมอบความสุขให้กับประชาชน โดยการเตรียมจัดของปีใหม่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบความสุขแด่ประชาชนทั่วประเทศ สำหรับกรมป่าไม้
รมต.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำทัพผลักดันนโยบายลดโลกเดือด หนุนทุกภาคส่วนรวมพลังสู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกระดับโลก
วันที่ 4 ธันวาคม 2567 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เปิดกิจกรรมเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทยและวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “Impact – Driven Policy:
'คนอยู่กับป่า' นัดรวมตัวใหญ่ รับครม.สัญจร ยื่นนายกฯ ค้าน พ.ร.ฎ.ของกรมอุทยานฯ
เครือข่ายสมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่า(สชป.) ได้นัดรวมตัวกันประมาณ 3,000- 5,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีเชื้อสายชาติพันธุ์ เช่น ม้ง กะเหรี่ยง
โฆษกฯ ฝากเตือนลูกหลานช่วยกลุ่มเปราะบางที่โอนเงินหมื่นไม่สำเร็จ
“ จิรายุ ”ฝากลูกหลานช่วยเตือนญาติผู้ใหญ่คนใกล้ชิด 4 หมื่นกว่าคนที่รัฐโอนเงินหมื่นให้ไม่ได้ เหตุไม่ได้ทำพร้อมเพย์ แนะอย่าปล่อยให้เสียโอกาส โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและคนพิการ หลังรัฐจะปิดโอนหมดสิทธิ 19 ธ.ค. นี้
“ดร.เฉลิมชัย” ชูโครงการธรรมจักรสีเขียว สร้าง “วัดต้นแบบ” - เพิ่มพื้นที่ป่าให้ประเทศ
ป่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญต่อชีวิตมนุษย์และสรรพสิ่งทั้งปวง รวมถึง “พระพุทธศาสนา” ที่มีความสัมพันธ์กับป่าไม้อย่างลึกซึ้ง