'หมอธีระ' ยกผลกระทบหลังปลดล็อกกัญชาที่สหรัฐ ยันเคยเตือนแล้ว แต่ไม่สามารถทัดทานความเชื่องมงายได้

18 เม.ย.2566- รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ว่าโค้งสุดท้าย พรรคแต่ละพรรคควรนำเสนอจุดยืนให้ชัดเจนว่าจะกำจัดยาเสพติดที่กลาดเกลื่อนสังคมอย่างไร ทั้งยาบ้า กระท่อม

และที่สำคัญที่สุดคือ “กัญชา” เพราะผลกระทบที่เห็นชัดเจนตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ข้อมูลวิชาการแพทย์แผนปัจจุบันมีความชัดเจนว่า มีประโยชน์จำกัดเพียงไม่กี่โรคและไม่สามารถทดแทนการรักษามาตรฐานได้

นี่คือวาระแห่งชาติ ที่ส่งผลต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของทุกคนในสังคม ทั้งปัจจุบัน และอนาคต

เคยเตือนไว้ตั้งแต่ 5 ปีก่อน…10 พฤศจิกายน 2018…
แต่ไม่สามารถทัดทานความเชื่องมงายได้
ปัจจุบันเราจึงเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในสังคมรอบตัว
ใครควรรับผิดชอบบ้าง รู้กันอยู่แก่ใจ?…
………………………………………………………………………………………………………………..
การปลดล็อคกัญชาเพื่อใช้ในการแพทย์: ผลกระทบที่เกิดในอเมริกา

งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ปีนี้ (2018) ใน Neuropsychopharmacology Reviews (1) ซึ่งอยู่ในเครือวารสารวิชาการระดับโลกอย่าง Nature ตีพิมพ์ผลการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายการเปิดให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเปรียบเทียบตั้งแต่ปีค.ศ.2005-2011

จำนวนของการโทรแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์พิษวิทยาเนื่องจากเด็กที่แอบเสพกัญชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 ในรัฐที่ประกาศปลดล็อคกัญชาทางการแพทย์ในช่วงปี 2005-2011 และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 ในรัฐที่ประกาศปลดล็อคกัญชาทางการแพทย์ก่อนปี 2005

ทั้งนี้เด็กที่เสพกัญชาในเหล่ารัฐที่ประกาศนโยบายไปนานกว่า (ก่อนปี 2005) จะมีอุบัติการณ์ของการเกิดผลข้างเคียงจากกัญชาที่รุนแรงกว่า และจำเป็นต้องนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการดูแลรักษามากกว่ารัฐที่เพิ่งประกาศนโยบายไป
ในเวลาต่อมา มีการศึกษาในช่วงปี 2009-2015 พบว่า รัฐโคโรลาโดซึ่งประกาศให้ใช้ทั้งทางการแพทย์ และเสพโดยเสรีนั้น มีอัตราการโทรแจ้งศูนย์พิษเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 34 ในแต่ละปี โดยมากกว่ารัฐอื่นๆ ที่ไม่ได้ประกาศให้ใช้เสรี โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 19 ต่อปี

ส่วนผลกระทบในผู้ใหญ่นั้น มีหลายการศึกษาที่เจาะลึกเรื่องนี้ โดยพบว่า หลังประกาศนโยบายปลดล็อคกัญชาทางการแพทย์ มีอัตราการโดนจับกุมเพราะครอบครองกัญชาโดยผิดกฏหมายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15-20 และมีอัตราของผู้ใหญ่ที่มีอาการเสพติดกัญชาครั้งแรกจนต้องนำส่งรับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ทั้งนี้ผลการศึกษามีลักษณะแนวโน้มตรงกันแทบทั้งสิ้น

นอกจากนี้ข้อสังเกตที่สำคัญคือ ต่างประเทศที่ใช้กัญชาเยอะๆ มักมีปัญหาเรื่องยาเสพติดอื่นๆ รุนแรงเช่น แอลกอฮอล์ ฝิ่น เฮโรอีน หรือยาแก้ปวดประเภทอนุพันธุ์ของฝิ่นอย่างมอร์ฟีน เป็นต้น โดยเคยมีการพยายามนำเสนอว่า ประกาศปลดล็อคกัญชาแล้วจะทำให้ประชาชนเสพติดยาเสพติดอื่นๆ ลดลง แต่สุดท้ายแล้วมีการศึกษาอย่างถี่ถ้วน พบว่า การเข้าถึงกัญชา มิได้ทำให้เสพยาเสพติดอื่นๆ ลดลง แต่จะเป็นประตูนำไปสู่การเสพยาเสพติดชนิดอื่นๆ ได้ โดยมีโอกาสถึงร้อยละ 44.7 ที่คนเสพกัญชาจะเสพติดยาเสพติดชนิดอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดของชีวิต (2)

บทเรียนของอเมริกา…ประเทศไทยควรรับรู้ไว้ และเตรียมรับมือครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป.ป.ส.ออกบัตร 'ผู้ช่วย' ให้ทหารกวาดล้างยาเสพติด ดีเดย์ 12 มีนาปีหน้า

ที่ทำเนียบนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการร่วมแถลงตรวจยึดยาบ้าเกือบ 3 ล้านเม็ด ที่ จ.มุกดาหาร ว่า

บุรีรัมย์ จับยาบ้าโลโก้ใหม่กว่าแสนเม็ด ระบาดแนวชายแดน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ รับผิดชอบด้านยาเสพติด มอบหมายให้ พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผก

'เครือข่ายกัญชา' ประกาศเลิกม็อบหน้าทำเนียบฯแล้ว

ความคืบหน้าเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ที่นำโดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายฯ ที่ได้มาปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณเชิงสะ

นายกฯนิด ตะลอนทัวร์ ไปเชียงรายให้กำลังใจตำรวจจับยาบ้า

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางตรวจราชการพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.สระแก้ว ระหว่างวันที่ 12-14 ก.ค. โดย มี สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย คือ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช และ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ให้การต้อนรับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะแก๊งค้ายาเสพติด ดับ 1 เจ็บ 1

ฝ่ายปกครองอำเภอเชียงดาว บูรณาการหน่วยเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เสริมปฎิบัติการ หลังเมื่อคืนวันที่ 11 ก.ค. เวลา 22:00 น. เกิดเหตุยิงกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหวาย

เอาแล้ว! ม็อบกัญชายกระดับชุมนุมอดข้าวประท้วง

สุดทน! 'เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย' ยกระดับการชุมนุม ประกาศอารยะขัดขืนอดข้าวประท้วง จนกว่ารัฐบาลจะยอมไต่สวนก่อนพิพากษา ส่งกัญชาไปเป็นยาเสพติด