นายกฯ พบเลขาธิการอาเซียน ยืนยันความพร้อมไทยรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ เพื่อความเข้มแข็งของประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยืน พร้อมย้ำถึงสถานการณ์หมอกควันที่รุนแรงหวังให้ผลักดันแก้ไขด่วน
30 มี.ค.2566 - ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ดร.เกา กิม ฮวน (Dr. Kao Kim Hourn) เลขาธิการอาเซียน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกฯ แสดงความยินดีในการเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถและประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ ซึ่งไทยพร้อมสนับสนุนและร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อความสำเร็จและความเข้มแข็งร่วมกันของประชาคมอาเซียน พร้อมย้ำว่า ไทยยังยึดมั่นในระบบพหุภาคีและภูมิภาคนิยม ซึ่งอาเซียนจะเป็นส่วนสำคัญในนโยบายต่างประเทศของไทยต่อไป
ด้านเลขาธิการอาเซียนกล่าวขอบคุณนายกฯ และเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือภูมิภาคอาเซียนจะเดินหน้าได้อย่างมั่นคง และเข้มแข็งในอนาคต โดยตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งได้เห็นความก้าวหน้าของอาเซียนในทุกด้าน ในขณะเดียวกัน ภาคีภายนอกก็ให้ความสนใจและต้องการเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับภูมิภาคอาเซียนเป็นอย่างมาก ขอบคุณไทยในฐานะประเทศสมาชิกอาเซียนที่สำคัญ ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันในการส่งเสริมความร่วมมือและการบูรณาการในภูมิภาคเสมอมา
โอกาสนี้ ทั้งสองได้หารือในประเด็นที่มีความสนใจร่วมกัน ดังนี้ ไทยยินดีที่อาเซียนยังคงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพและความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ท่ามกลางความท้าทายมากมาย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความผันผวนทางเศรษฐกิจ และการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ ซึ่งนายกฯ เห็นควรที่จะเร่งฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีที่มีอยู่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ RCEP นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลของอาเซียน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานของอาเซียน รวมทั้งยกระดับเศรษฐกิจของภูมิภาคให้ทันสมัย สอดรับกับบริบทใหม่ของการค้าโลก โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยสนับสนุนการดำเนินการภายใต้ข้อริเริ่มด้านดิจิทัลของอาเซียน ด้านเลขาธิการอาเซียนกล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลถือเป็นประเด็นสำคัญที่อาเซียนให้ความสำคัญ
โอกาสนี้ นายกฯ ยังได้กล่าวถึงภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ อาทิ ทางไซเบอร์ เป็นความท้าทายที่อาเซียนควรร่วมกันจัดการ โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอให้เลขาธิการอาเซียนหารือเพื่อดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม การดำเนินการในภาพรวม ในฐานะภูมิภาคจะทำให้เกิดผลสำเร็จที่เห็นผลลัพธ์อย่างจริงจังได้
นายกฯ และเลขาธิการอาเซียนได้หารือถึงการเพิ่มขีดความสามารถ และการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับความท้าทายที่ส่งผลต่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น โรคระบาด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ ภัยธรรมชาติ ซึ่งไทยพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนอาเซียนในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที โดยเลขาธิการอาเซียนย้ำความพร้อมของสำนักเลขาธิการอาเซียนที่จะสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือนี้อย่างเต็มที่ โดยยังได้ขอบคุณและชื่นชมไทยที่เป็นที่ตั้งของศูนย์ต่างๆ ของอาเซียน
นายกฯ กล่าวขอบคุณสำนักเลขาธิการอาเซียนที่สนับสนุนการทำหน้าที่ผู้ประสานงานของอาเซียนในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยมาโดยตลอด จนนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมต่าง ๆ ซึ่งทั้งสองยังเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องร่วมกันขับเคลื่อนวาระความยั่งยืนให้เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอาเซียนต่อไป โดยส่งเสริมความร่วมมือที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความยั่งยืนของภูมิภาค ซึ่งไทยยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากสำนักเลขาธิการอาเซียนในการส่งเสริมความร่วมมือของอาเซียนในด้านนี้
ไทยยินดีที่การจัดทำวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียนภายหลังปี ค.ศ. 2025 มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี โดยนายกรัฐมนตรีหวังว่าวิสัยทัศน์ใหม่ของอาเซียนจะมีความครอบคลุม มองไปข้างหน้า และเกิดผลเป็นรูปธรรมต่อประชาชนในภูมิภาค สร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนเพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ
ในโอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์เน้นย้ำถึงสถานการณ์หมอกควันข้ามแดน ที่เป็นความท้าทายที่รุนแรงของภูมิภาค พร้อมขอรับการสนับสนุนจากเลขาธิการอาเซียนในการผลักดันการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยขอให้ช่วยประสาน หารือ หรือสนับสนุนการจัดการประชุมจัดอย่างเร่งด่วนกับประเทศสมาชิกเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะการลดจำนวนจุดความร้อน (hotspot) ให้สถานการณ์ดังกล่าวดีขึ้นให้ได้โดยเร็ว เพราะส่งผลไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย ทั้งทางสุขภาพ และการท่องเที่ยว ซึ่งเลขาธิการอาเซียนกล่าวเห็นด้วยถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว ซึ่งอาเซียนมีกลไก (mechanism) ที่จะช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือ และพร้อมสนับสนุนให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
นายกฯ ยินดีที่อาเซียนได้เติบโตและพัฒนาขึ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องถึงการดำเนินความสัมพันธ์กับมหาอำนาจอย่างสมดุล ไทย ในฐานะผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น พร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ฯ ให้ประสบความสำเร็จ และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสำนักเลขาธิการอาเซียนด้วยดี
ทั้งนี้ ไทยหวังว่า สำนักเลขาธิการอาเซียนจะมีบทบาทที่แข็งขันยิ่งขึ้นในการสนับสนุนการประสานงานประเด็นคาบเกี่ยว อาทิ การพัฒนาที่ยั่งยืน ความเชื่อมโยง และการบริหารจัดการภัยพิบัติ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายและแนวโน้มต่าง ๆ ในอนาคต เช่น การเข้าสู่สังคมสูงวัย และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น ซึ่งเลขาธิการอาเซียนขอบคุณที่ไทยให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว และพร้อมเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งต่างฝ่ายต่างสามารถเรียนรู้ได้ซึ่งกันและกัน เพื่อดูแลสังคมผู้สูงอายุอาเซียนอย่างยั่งยืน สำนักเลขาธิการอาเซียนพร้อมให้การสนับสนุนประเทศอาเซียนอย่างเต็มที่ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เนติบริกร' โชว์กึ๋นมือกฎหมายบอกคดี 40 สว.มีช่องสู้
นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี
สธ.โวพร้อมยกระดับบริการตามข้อเสนอแนะอาเซียน
สธ.พร้อมยกระดับและส่งเสริมการให้บริการสุขภาพที่มีคุณภาพ สร้างการเข้าถึงระบบการให้บริการและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ ตามข้อเสนอแนะอาเซียน
'อุ๊งอิ๊ง' ดูไว้! นักการเมืองต้องรักษาสัจจะเหมือน 'อภิสิทธิ์' เคยหาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์
เมื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวในงานอีเวนต์ ”10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10“ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม
นายกฯ นำ ครม.ดูงานศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904
นายกฯ นำ ครม. แต่งชุดจิตอาสาพระราชทาน ศึกษาดูงานหลักสูตรการฝึกปฏิบัติ และดูงานเศรษฐกิจพอเพียง ของศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904
'เศรษฐา' โนสนโนแคร์ควงสหายอ้วนกินข้าวเที่ยง 'ทักษิณ'
'เศรษฐา' ควง 'ภูมิธรรม' กินข้าวเที่ยงกับ 'ทักษิณ' โรงแรมย่านสุขุมวิท ท่ามกลางกระแสข่าวปรับ ครม.
'ชัย' ฟุ้งแค่ไตรมาสแรกต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้าน!
โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ชื่นชมผลจากความสำเร็จรัฐบาล ไตรมาสแรกปี 2567 ต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้านบาท ส่งเสริมโอกาสการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ให้คนไทย