รัฐบาลย้ำ พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีบังคับใช้แล้ว

โฆษกรัฐบาลเผย กฎหมายป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ มีผลบังคับใช้แล้ว ช่วยคุ้มครองประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากภัยทางการเงินให้แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว ลดขั้นตอน

29 มี.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าภัยทุจริตทางการเงินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและหลากหลายรูปแบบ ส่งผลกระทบให้ประชาชนต้องสูญเสียทรัพย์สิน รวมทั้งขาดความมั่นใจในการใช้บริการทางการเงินดิจิทัลของสถาบันการเงิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน รัฐบาลจึงได้ออกพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 เพื่อรักษาความปลอดภัย และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยรัฐบาลเห็นถึงความจำเป็นรีบด่วนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อรักษาความปลอดภัย และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้ตราพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ซึ่งประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2566 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อคุ้มครองประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากภัยทางการเงิน ผ่านโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า พ.ร.ก.นี้ช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานได้อย่างรวดเร็ว ลดขั้นตอน สามารถประสานติดตามทรัพย์ของผู้เสียหายได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้ปัญหาภัยจากอาชญากรรมออนไลน์ลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีนัยยะที่สำคัญ โดย พ.ร.ก.ได้วางมาตรการในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน การยับยั้งการทำธุรกรรมการเงิน และมีบทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิด หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด และในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน เพื่อยกระดับมาตรฐาน ทั้งในด้านการป้องกัน การตรวจจับ การรับมือและการตอบสนอง และให้เป็นแนวปฏิบัติขั้นต่ำให้สถาบันการเงินทุกแห่งปฏิบัติตามเป็นมาตรฐานเดียวกันในการดูแลการทำธุรกรรมทางการเงินตลอดเส้นทาง ซึ่งจะช่วยการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนทำได้รวดเร็ว และครอบคลุมมากขึ้น โดย ธปท. ได้ติดตามสถาบันการเงินต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวที่ได้ออกไปอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะการพัฒนาและปรับปรุงระบบให้เชื่อมโยงข้อมูลให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

“รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนดังกล่าว และไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลก็ตระหนักดีว่าภัยทุจริตทางการเงินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งการจัดการและแก้ปัญหาภัยการเงินในปัจจุบันยังมีจุดที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติม รัฐบาลพร้อมจะประเมินประสิทธิผลของการดำเนินการ ทบทวนปรับปรุงมาตรการเป็นระยะ เพื่อลดช่องทางของมิจฉาชีพ และช่วยแก้ไขปัญหาให้ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อภัยการเงินอย่างทันท่วงที”นายอนุชากล่าว

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถศึกษา พ.ร.ก.นี้ได้อย่างละเอียด หากตกเป็นเหยื่อจะได้รีบดำเนินการช่วยเหลือได้ทันท่วงที โดยหากมีปัญหา หรือเป็นผู้เสียหายสามารถแจ้งได้ที่หมายเลขสายด่วน 1441 หรือศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ได้ทันที

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกอิ๊งค์ควง 2 รมต.หญิงลง 'ขอนแก่น-มหาสารคาม' ติดตามแก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง-ตัดริบบิ้นเปิดงาน

นายกฯ เร่งสปีดนโยบายรัฐบาล ลงขอนแก่น-มหาสารคาม 20 ธ.ค. แก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้ง พร้อมติดตามโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน พร้อมตัดริบบิ้นเปิดงานซอฟพาวเวอร์ของไทย

นายกฯ อิ๊งค์ลั่นกลาง ครม.พร้อมลงภาคใต้แต่ไม่รู้เมื่อไหร่!

นายกฯ แจ้งที่ประชุม ครม. พร้อมลงภาคใต้ ขอ ศปช.ส่วนหน้าสรุปแผนแก้ไขน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก

รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย

รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่