ปลัด สธ.เผย 3 ชมรมแพทย์ เสนอแนวทางพัฒนาระบบสุขภาพให้ตอบสนองความต้องการประชาชน ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพพื้นที่ ยกระดับ รพ.ชุมชนขนาดเล็กมีแพทย์ 4 สาขาหลัก
23 มี.ค.2566 - นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การดำเนินนโยบายต่างๆ ของ สธ. ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง การดำเนินงานในระยะต่อไป มีเป้าหมายพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศให้มีความยืดหยุ่น ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและปัญหาสุขภาพของพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดย สธ.มีหน่วยบริการกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ทำให้สามารถเข้าถึงประชาชนในทุกระดับ มีความเข้าใจบริบทและปัญหาสุขภาพในพื้นที่ ดังนั้น สธ.จึงพร้อมรับฟังข้อเสนอจากทางพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมามอบกองยุทธศาสตร์และแผนงาน และกองบริหารการสาธารณสุข ประสานและประชุมร่วมกับชมรมแพทย์ 3 องค์กร ได้แก่ ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และชมรมแพทย์โรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพของประเทศ
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า จากการประชุมหารือร่วมกันมีข้อเสนอแนวทางในการพัฒนาระบบสุขภาพของ สธ.ที่ครอบคลุมทั้งด้านบุคลากร การบริหารจัดการ และการบริการ เช่น ด้านบุคลากร ให้มีคู่มือแนวทางในการบริหารงาน พร้อมพัฒนาทักษะทางการบริหาร ทั้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกระดับ ด้านการบริหารจัดการ ปรับให้เขตสุขภาพเป็นผู้บริหารจัดการ ทั้งเรื่องบุคลากร งบประมาณ และวัสดุ ครุภัณฑ์ สำหรับด้านการบริการ จะเน้นกระจายสถานบริการให้ประชาชนเข้าถึงมากขึ้น โดยเพิ่มบริการที่ยากและมีความซับซ้อน เช่น การผ่าตัดหัวใจแบบเปิด การฉายแสง การปลูกถ่ายไต ยกระดับโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็ก ให้มีแพทย์ 4 สาขาหลัก ได้แก่ อายุรแพทย์ กุมารแพทย์ สูตินรีแพทย์ และศัลยแพทย์ รวมถึงบางสาขาที่จำเป็น เช่น วิสัญญี เวชศาสตร์ครอบครัว เป็นต้น ที่สำคัญคือ โรงพยาบาลทุกระดับมีการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการประชาชน นอกจากนี้ ยังต้องเพิ่มเรื่องของการสร้างและฝึกทักษะบุคลากรทางการแพทย์ให้มากขึ้นด้วย
“ต้องขอบคุณทั้ง 3 ชมรมที่ระดมสมองและมีข้อเสนอแนะที่สอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินงานของ สธ. ซึ่งได้มอบหมายให้กองยุทธศาสตร์และแผนงาน และกองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยหลักในการประสานเพื่อขยายผลในการพัฒนาระบบสุขภาพให้เกิดประโยชน์กับประชาชนต่อไป” นพ.โอภาสกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน
'สมศักดิ์' ดึง สสส. ช่วย 'นับคาร์บ' ชวนคนไทยลดโรค NCDs ต้นเหตุคร่าชีวิตคนไทยชั่วโมงละ 45 คน ผจก.สสส.เดินหน้าพัฒนาฐานข้อมูลเชื่อมท้องถิ่นลดเสี่ยง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะรองประธานกรรมการกองทุน สสส. คนที่ 1 กล่าวในการเป็นประธานประชุมกรรมการกองทุนฯ ครั้งที่ 8/2567 ว่า จากข้อมูลพบว่ามีผู้เสียชีวิตจาก NCDs 400,000 คนต่อปี คิดเป็นชั่วโมงละ 45 คน