นายกฯ หนุนแผนแม่บทเสนอชื่อ 'ครูบาศรีวิชัย' เป็นบุคคลสำคัญของโลก

17 มี.ค.2566 - เมื่อเวลา 12.40 น. ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับฟังข้อเสนอการสนับสนุนแผนแม่บทโครงการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก กลุ่ม 10 จังหวัดภาคเหนือ จากพระเทพรัตนนายก เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลําพูน ในฐานะประธานมูลนิธิครูบาเจ้าศรีวิชัย  และอาจารย์ ดร.อัครสิทธิ์ บุญส่งแท้ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ สํานักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ รายงานแนวทางการดําเนินงานโครงการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสําคัญของโลก
 
ภายหลังรับฟังบรรยายสรุปฯ นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุน โครงการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก พร้อมกล่าวชื่นชมว่าเป็นโครงการที่ดี เป็นการเชิดชูยกย่องบุคคลสำคัญของประเทศไทย ซึ่งครูบาศรีวิชัยเป็นพระภิกษุรูปหนึ่งที่เป็นที่เคารพบูชาอย่างยิ่งของพุทธศาสนิกชนชาวล้านนา เป็นแบบอย่างในการมีอุดมคติที่มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวในการปฏิบัติตามพระธรรมไทยทั่วประเทศ และเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณในการอุทิศตนเพื่อบำรุงพระธรรมวินัยโดยได้นำธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างในการเสียสละ อดทนอดกลั้นในการบำรุงพระพุทธศาสนา ทำให้พุทธศาสนิกชนที่เดินทางตามแนวทางการปฏิบัติของท่าน มีความสามัคคีในหมู่คณะ มีความเสียสละเพื่อส่วนรวม เอื้ออาทรต่อกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ แม้เกิดปัญหาก็จะแก้ไขปัญหาด้วยขันติธรรมและปัญญา
 
นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการ โดยมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดทำแผนและรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครอบคลุมและชัดเจน และเตรียมพร้อมการนำเสนอต่อการพิจารณา
 
นายกรัฐมนตรีขอบคุณในความร่วมมือของทุกภาคส่วน พร้อมกล่าวย้ำว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักของคนไทย สอนให้คนเป็นคนดีมีความรักความสามัคคี และอยู่ร่วมกันได้ด้วยความสงบ สถาบันศาสนามีส่วนสำคัญต่อจิตใจของประชาชน ฝากให้วัดช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างความศรัทธา เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ผู้นำท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันแก้ไขปัญหาการเผาป่า ลดมลพิษสร้างอากาศที่ดีให้กลับคืนมา ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้ ถ้าทุกคนร่วมมือกัน เพราะทุกคนคือคนไทย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนต้องรักประเทศไทย ส่วนใครจะรักหรือไม่รักตนเองก็ไม่เป็นไร
 
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รายงานต่อที่ประชุมว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้เตรียมแผนดำเนินการไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งในส่วนของงบประมาณและรายละเอียดการนำเสนอ มีความพร้อมเป็นอย่างมาก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทย ผลักดันลุ้น 'ต้มยำกุ้ง - ชุดเคบาย่า' ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก

“เกณิกา”เผย ข่าวดีคนไทย "สุดาวรรณ" หนุนสวธ.จัดทำแผน ปีนี้เตรียมลุ้น “ต้มยำกุ้ง - ชุดเคบาย่า”ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติของยูเนสโก เดินหน้าผลักดันSoft Power ไทยให้นานาชาติรู้จัก

'เศรษฐา' รับปากเกษตรกร หอมแดงต้องได้ราคากก.ละ 20 บาท พริกชี้ฟ้า 35 บาท ภายใน ต.ค.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อมาที่โครงการชลประทานศรีสะเกษ ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อหารือการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง

นายกฯเศรษฐา ปลื้มชาวศรีสะเกษ ต้อนรับสุดอบอุ่น ยันปลายปีนี้ได้เงินหมื่นแน่นอน

นายกฯ กราบ ‘รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอขุขันธ์’ สวดชยันโต ให้พร ‘ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติอยู่ดีมีสุข’ ย้ำคำมั่นชาวศรีสะเกษ ได้ดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่ปลายปี ยันสส.ดูแลพื้นที่ดี นำปัญหาสะท้อนรัฐบาล

นายกฯ ลุยศรีสะเกษ ไหว้พระ ปลูกต้นไม้ ถ่ายรูปกับเด็กนักเรียน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โดยมี นายอมรเทพ สมหมาย สส.ศรีสะเกษ เขต 5 พรรคเพื่อไทย และจ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ

นายกฯ ถึงอุบลฯ ไหว้พระ เดินชมตลาด สส.ไทยสร้างไทยหน้าเดิม รอต้อนรับด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กราบนมัสการพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง โดยนายกฯได้ถวายขันหมากเบ็ง จากนั้นได้กราบนมัสการและสนทนาธรรมกับพระวชิรกิจโกศล (พระครูสารกิจโกศล) เจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม พระอารามหลวง รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี

นายกฯ ลงร้อยเอ็ด ติดตามแก้ปัญหายาเสพติดเมืองธวัชบุรี ต้นแบบบูรณาการทุกภาคส่วน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ภาคอีสาน ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. - 2 ก.ค. ที่จังหวัดร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่