ครม.อนุมัติให้กรมปศุสัตว์ใช้งบกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร 1.56 พันล้าน เดินหน้าโครงการโคบาลชายแดนใต้ ระยะต้นน้ำ จ่ายคืน 7 ปี ปลอดดอกเบี้ย
28 ก.พ.2566 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติจัดสรรเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรให้กรมปศุสัตว์ยืมเพื่อใช้ดำเนินโครงการโคบาลชายแดนใต้ วงเงิน 1,566.20 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยกำหนดชำระคืนภายใน 7 ปี ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 มีระยะเวลาโครงการ พ.ศ.2565 - 2572 โครงการโคบาลชายแดนใต้ของกรมปศุสัตว์นี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการเมืองปศุสัตว์ภายใต้กรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึง แหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ เพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงโคของเกษตรกรสู่มาตรฐานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ GFM/GAP และเพิ่มปริมาณโคพร้อมทั้งปรับปรุงสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด โดยการดำเนินงานแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ 1.ระดับต้นน้ำ ส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโคเนื้อให้กลุ่มวิสาหกิจโคไทยในหมู่บ้าน จำนวน 1,000 กลุ่ม ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา) 2.ระดับกลางน้ำ จัดตั้งศูนย์ผลิตอาหารสัตว์ (Feed Center) 3. ระดับปลายน้ำ ส่งเสริมร้านตัดแต่ง แปรรูปและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อโค (Butcher Shop) จำนวน 5 แห่ง ใน 5 จังหวัดชายแดนใต้
นางสาวรัชดา กล่าวว่า การใช้งบจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร วงเงิน 1,566.20 ล้านบาทในครั้งนี้ เพื่อดำเนินโครงการโคบาลชายแดนใต้ ในส่วนระดับต้นน้ำ ซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโคเนื้อให้กลุ่มวิสาหกิจโคไทย จำนวน 1,000 กลุ่ม ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา) โดยให้แต่ละกลุ่มวิสาหกิจโคไทยจัดทำคอกกลางในหมู่บ้านแห่งละ 1 คอก สำหรับเลี้ยงแม่โคพื้นเมืองกลุ่มละ 50 ตัว เพื่อผลิตโคลูกผสมไทยทาจิ และปลูกพืชอาหารสัตว์ (หญ้าสยาม หญ้าแพงโกล่า หญ้าซิกแนล หญ้าเนเปียร์ และข้าวโพด) จำนวน 20 ไร่ โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้ 1)ระยะนำร่อง เกษตรกร 60 กลุ่ม แม่โคพื้นเมือง 3,000 ตัว 2)ระยะที่ 2 เกษตรกร 440 กลุ่ม แม่โคพื้นเมือง 22,000 ตัว 3)ระยะที่ 3 เกษตรกร 500 กลุ่ม แม่โคพื้นเมือง 25,000 ตัว
สำหรับแผนชำระเงินคืนภายใน 7 ปี กรมปศุสัตว์จะนำเงินกู้ที่ได้รับคืนจากกลุ่มวิสาหกิจโคไทยที่เข้าร่วมโครงการ ส่งคืนกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร โดยเกษตรกรจะต้องคืนเงินต้นให้กรมปศุสัตว์ร้อยละ 25 เป็นจำนวน 4 งวด คือ ทุกสิ้นปีที่ 4 ปีที่ 5 ปีที่ 6 และปีที่ 7 ส่วนที่มาของรายได้กลุ่มวิสาหกิจโคไทย เช่น การขายลูกโคตั้งแต่ปีที่ 2-7 ปีละ 600,000 บาท ขายแม่โคปลดระวางในปีที่ 8 จำนวน 800,000 บาท ขายมูลโคของแม่โคและลูกโคทั้ง 8 ปี ปีละ 86,400 บาท และขายพืชอาหารสัตว์ ปีละ 304,500บาท
“รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การมีส่วนร่วมและศักยภาพของท้องถิ่น การส่งเสริมการเลี้ยงโคเป็นหนึ่งในมาตรการภายใต้ยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหาร ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ เพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงโคของเกษตรกรสู่มาตรฐานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ GFM/GAP เพิ่มปริมาณโคในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปรับปรุงสายพันธุ์โคเนื้อคุณภาพดีที่เป็นความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและตลาดฮาลาลโลกอีกด้วย” นางสาวรัชดา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดือด 'โฆษกรัฐบาล' แบกปลาหมอคางดำ โยนบาปให้เกษตรกร
'ณัฐชา' อัด 'โฆษกรัฐบาล' แบก 'ปลาหมอคางดำ' โยนบาปให้เกษตรกร ขอ อย่าลอยตัวอยู่ในห้องแอร์ ต้องระดมแก้ปัญหาช่วยเหลือ
ครม. เห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ครอบคลุม 21 ล้านไร่ วงเงิน 2.3 พันล้านบาท
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2567 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้ ให้ความเห็นชอบการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี
รัฐบาลโต้ตัวเลขเปิดโรงงานใหม่ สูงกว่าปิดกิจการถึง 73%
'โฆษกรัฐบาล' แจงข่าวโรงงานปิดกิจการเพิ่มขึ้น ยันตัวเลขเปิดสูงกว่าที่ปิดถึง 73% ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับความอยู่รอดของผู้ประกอบการ
ตรรกะวิบัติ! 'ไทยภักดี' ซัดรัฐบาล แจงเหตุขายชาติไม่เนียนพอ
นายทศพล พรหมเกตุ เลขาธิการพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ชี้แจงประเด็นนโยบายให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี
นายกฯ ยินดีความสำเร็จระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน 'Cell Broadcast Service' ผ่านมือถือ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ผลสำเร็จจากการบูรณาการความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน โดยกระทรวง